ภูเก็ตหนุน ASW โตต่อเนื่อง โชว์รายได้สะสม 9 เดือน กวาด 6,250 ล้านบาท

ภูเก็ตหนุน ASW โตต่อเนื่อง โชว์รายได้สะสม 9 เดือน กวาด 6,250 ล้านบาท

วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 12.14 น.
Tag :

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ASW ยังคงเดินหน้าตามแผนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง โดยใน Q3/2568 ทำรายได้เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 43% (QoQ) ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ย. 2568) ASW ทำรายได้สะสมทั้งสิ้น 6,250 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิสะสม 689 ล้านบาท และสร้างยอดขายกว่า 17,474 ล้านบาท คิดเป็น 90% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 19,500 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวมาจากการบริหารพอร์ตโครงการสร้างเสร็จใหม่ และโครงการพร้อมอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์โดดเด่นใน Q3/2568 ได้แก่ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา (THE TITLE Legendary Bang-Tao) โครงการ Leisure Condominium ในภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ที่ทยอยรับรู้รายได้มาตั้งแต่ปลาย Q2/2568 ต่อเนื่องจนถึงไฮซีซั่นนี้ รวมถึงแอทโมซ แคนวาส ระยอง (Atmoz Canvas Rayong) และเคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kaset) ทั้งนี้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3 รวมทั้งสิ้น 32,861 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องได้จนถึงปี 2570
 
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใน Strategic Location ซึ่งล่าสุด ASW ได้พิจารณาปรับแผนเปิดโครงการใหม่ปี 2568 เพิ่มเป็น 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 23,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% จากแผนที่ประกาศไว้ โดยแบ่งสัดส่วนเป็นโครงการในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 18% และโครงการในภูเก็ต 82% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด เนื่องจากภูเก็ตเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง และกลุ่ม Digital Nomad ให้เข้ามาพักอาศัยระยะยาว ทำให้ภูเก็ตเป็นทำเลที่มีดีมานด์แข็งแกร่งและรักษาการเติบโตได้ในทุกสภาพตลาด
 
ในช่วง Q4/2568 บริษัทวางแผนเปิดโครงการ Leisure Condominium ใหม่ในภูเก็ต 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,700 ล้านบาท ได้แก่ 1.โคราลิน่า กมลา (Coralina Kamala) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท ใกล้หาดกมลาที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุน จำนวน 564 ยูนิต มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท 2.เดอะ ไทเทิล เซียร่า (THE TITLE Sierra) จำนวน 452 ยูนิต มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท และ 3.เดอะ บาลโคนี ในยาง (The Balcony Naiyang) จำนวน 542 ยูนิต มูลค่ารวม 3,800 ล้านบาท
 
ขณะเดียวกัน ASW ยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ในไตรมาส 4 ที่จะทยอยโอนเพื่อรับรู้รายได้ในช่วงปลายปีนี้เพิ่มอีก 1 โครงการ คือ โครงการ เคฟ วันเดอร์แลนด์ (Kave Wonderland) คอนโดใหม่ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต มูลค่าโครงการกว่า 2,550 ล้านบาท ไฮไลท์อยู่ที่ส่วนกลางใหญ่และให้มากที่สุดในย่าน ซึ่งจะเป็นอีกแรงหนุนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10,500 ล้านบาท

“ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ASW สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแผนส่วนใหญ่ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ทั้งการโอนส่งมอบโครงการตามกำหนดและการเปิดโครงการใหม่ โดยเราติดตามและประเมินทิศทางตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อมองหาโอกาสและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งช่วงไตรมาสสุดท้ายเป็นจังหวะสำคัญของตลาดอสังหาฯ เพราะมีปัจจัยหนุนทั้งจากแคมเปญของผู้ประกอบการ มาตรการกระตุ้นจากรัฐ การลดดอกเบี้ยนโยบายที่ช่วยลดภาระการผ่อนของผู้บริโภคและลดต้นทุนการเงินของผู้ประกอบการ รวมถึงการเข้าสู่ไฮซีซั่นการท่องเที่ยว ทำให้ภาพรวมตลาดคึกคักมากขึ้น บวกกับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากการเปิดตัวโครงการในภูเก็ตที่ผ่านมา เราจึงรักษาโมเมนตัมโดยขยายการลงทุนในทำเลศักยภาพแห่งนี้ต่อเนื่อง เชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง รักษาการเติบโตของยอดขาย รายได้ และกำไรของ ASW ได้อย่างมั่นคงทั้งในปีนี้และในระยะยาว” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
 
สำหรับบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 83 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ มูลค่าโครงการกว่า 136,948 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 33 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 21 โครงการ และ ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 32,861 ล้านบาท


-032

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top