สรท.ถก คมนาคม  ลดข้อจำกัดโลจิสติกส์ ส่งเสริมความสามารถการแข่งขันส่งออกไทย

สรท.ถก คมนาคม ลดข้อจำกัดโลจิสติกส์ ส่งเสริมความสามารถการแข่งขันส่งออกไทย

วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 09.13 น.

นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา  สรท.ได้เข้าพบนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม อาทิ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมเจ้าท่า การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมการขนส่งทางราง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นต้น เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งออกไทย ซึ่งภาพรวมการหารือแสดงให้เห็นว่า แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันจะมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งและรักษาการณ์ไม่นานนัก แต่ให้ความสำคัญและตอบสนองต่อข้อเสนอของ สรท. ในการ “สนับสนุนการพัฒนา” และ "ลดข้อจำกัด" ด้านโลจิสติกส์การค้า เพื่อสนับสนุนการส่งออกไทยในโค้งสุดท้ายของปีนี้ รวมถึงการกำหนดนโยบายเพื่อการผลักดันการพัฒนาในระยะยาวเช่นกัน 

ทั้งนี้  สรท. ได้เสนอประเด็นเร่งด่วนสำคัญ 3 ด้าน มุ่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเชิงโครงสร้าง เพื่อบรรเทาภาระต้นทุน และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ส่งออกไทย ประกอบด้วย


1. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะปัญหาความแออัดในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญต่อการส่งออกของประเทศ รวมถึงการเร่งรัดประเด็นด้านสัญญาสัมปทานไอซีดีลาดกระบัง และการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางราง ไปยังโครงการ Single Rail Transport Operator (SRTO) ในท่าเรือแหลมฉบัง ให้มากที่สุดเพื่อลดปัญหาจราจรแออัดในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามข้อเสนอ โดยเฉพาะการจัดสรรพื้นที่จอดรถบรรทุกให้เพียงพอทั้งในท่าเรือและนอกท่าเรือ การติดตามการทำสัญญาสัมปทานสถานีไอซีดีลาดกระบัง และประสานงานกรมศุลกากรเพื่อให้ไอซีดีลาดกระบังสามารถทำพิธีการศุลกากรขาออก

2. ด้านกฎหมายและกฎระเบียบ: เห็นพ้องการผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อปลดล็อก “การถ่ายลำตู้สินค้าคอนเทนเนอร์” ในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งคาดว่าสามารถลดต้นทุนส่งออกได้ปีละราว 1,000 ล้านบาท จากที่เสียเปรียบด้านต้นทุนให้คู่แข่งทางการค้ามาโดยตลอดในแง่ของต้นทุนค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ที่สูงกว่าจากการใช้เรือ Feeder ผ่านการเร่งรัดผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายลำ 6 ฉบับแรก จากทั้งหมด 17 ฉบับ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหา "ความสูง" ของรถบรรทุก ที่กฎหมายไม่สอดคล้องกับหลักปฏิบัติในการขนส่งในปัจจุบันและรวมถึงไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก โดยเฉพาะกรณีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด High Cube และรถบรรทุกรถยนต์

3. ด้านการพัฒนาดิจิทัล (Digital Development):  โดยคมนาคมมีการเร่งรัดการพัฒนาระบบ Port Community System (PCS) ให้แล้วเสร็จและเริ่มเปิดใช้งานโดยเร็ว และเชื่อมต่อกับระบบบริหารจัดการคิวรถบรรทุก (Truck Queue) เพื่อให้ลดข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบัง อันเปรียบเสมือนประตูหลักสู่การค้าโลกของประเทศไทย

อนึ่ง กระทรวงคมนาคมและสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อเสนอนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้สามารถลดอุปสรรคทางการค้าและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ และ สรท. รับทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ประกอบการ ทั้งกลุ่มผู้ส่งออกและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ เพื่อที่จะนำเสนอประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะต่อภาครัฐสำหรับผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปสู่เวทีการค้าการแข่งขันในโลกยุคใหม่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top