BCPG เปิดแผนกลยุทธ์ The Next Decade  Broadening Horizons of Sustainability

BCPG เปิดแผนกลยุทธ์ The Next Decade Broadening Horizons of Sustainability

วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 20.00 น.

นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา บีซีพีจีได้สร้างรากฐานที่มั่นคงในธุรกิจพลังงานสะอาด สะท้อนผ่านพอร์ตการลงทุนที่กระจายตัวทั้งด้านเทคโนโลยีและภูมิภาค ปัจจุบันบริษัทฯ ลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำ และก๊าซธรรมชาติ ครอบคลุมประเทศไทย สปป.ลาว เวียดนาม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสหรัฐอเมริกา รวมกำลังการผลิต กว่า 2,000 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและลดความเสี่ยงจากความผันผวนทางตลาด

โครงการสำคัญ ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4 แห่งในสหรัฐฯ ที่ดำเนินการในตลาด PJM ได้รับ ค่าความพร้อมจ่ายในระดับสูงต่อเนื่อง โรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาวที่จำหน่ายไฟฟ้าให้เวียดนามซึ่งมีความต้องการใช้พลังงานสูง รวมถึงโครงการพลังงานลมมอนซูนขนาด 600 เมกะวัตต์ ใน สปป. ลาว ซึ่งมีสัญญา ซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าเวียดนาม ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อปลายไตรมาสที่ผ่านมา ต่างเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้บริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนผ่านโครงการพลังงานลมในเวียดนาม 2 โครงการ รวมกำลังการผลิต 99 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Private PPA) ในประเทศไทย ซึ่งภายในปีนี้จะมีกำลังผลิตรวม 43.6 เมกะวัตต์ เติบโตกว่าเท่าตัว และมีเป้าหมายขยายไปถึง 100 เมกะวัตต์ ตลอดจนขยายการพัฒนาโรงไฟฟ้าในไต้หวัน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างสถานีและสายส่งขนาด 200 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าในโครงการแล้ว ซึ่งโครงการเหล่านี้จะสามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงเมื่อเริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบ สนับสนุนรายได้ระยะยาวและกระจายความเสี่ยงในการดำเนินการ พอร์ตฟอลิโอของบีซีพีจีในปัจจุบันจึงมีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะเร่งการเติบโตของ EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2571

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรก่อนรายการพิเศษ 711.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 626.0 ล้านบาท ซึ่งกำไรก่อนรายการพิเศษดังกล่าวถือเป็น “จุดสูงสุดใหม่” ของบริษัทฯ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างธุรกิจ และศักยภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์พลังงานในหลายประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน บีซีพีจีพร้อมต่อยอดสู่การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ (Critical Infrastructure) ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยในปี 2569 บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 7,000 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าโครงการที่อยู่ในพอร์ตให้แล้วเสร็จตามแผน และมีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มเติม ในช่วงปี 2570-2571 ไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจยุคใหม่

“การเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านรายได้และผลกำไร ประกอบกับพอร์ตสินทรัพย์ที่ขยายสู่ระดับภูมิภาค และฐานรายได้ที่มีความมั่นคงจากสัญญาระยะยาว ทำให้บีซีพีจีมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการยกระดับสู่บริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET 50 ได้อย่างยั่งยืน โดยมีทั้งอัตราการเติบโตของ EBITDA ที่ชัดเจน กระแสเงินสดสม่ำเสมอ และโครงสร้างธุรกิจที่มีศักยภาพในการต่อยอดสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยเสริมเสถียรภาพและมูลค่าตลาดของบริษัทฯ ในระยะยาว” นายรวีกล่าวเพิ่มเติม

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ บริษัทฯ มุ่งเน้นลงทุนใน 3 ธุรกิจ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีเศรษฐกิจข้อมูล (Data Economy) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าสีเขียว การรุกเข้าสู่ธุรกิจนี้ ช่วยต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดของบีซีพีจี และส่งเสริมให้บริษัทฯ ก้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่ที่มีมูลค่าสูง เพิ่มโอกาสการเติบโต และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ฐานรายได้ของบริษัทฯ ในระยะยาว พร้อมส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลระดับภูมิภาค (Regional Data Hub) ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ อาทิ ระบบบริหารจัดการน้ำและน้ำเย็น เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำของ Data Center ที่ต้องการระบบน้ำเพื่อความเย็นอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ และธุรกิจรีไซเคิล อาทิ ธุรกิจรีไซเคิล แผงโซลาร์ (Solar Waste Management) ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งบีซีพีจีมีแผนริเริ่มศึกษาความเป็นไปได้จากการบริหารจัดการแผงโซลาร์ของบริษัทฯ เพื่อสร้างห่วงโซ่มูลค่าใหม่และเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ และประเทศ ฯลฯ

การต่อยอดสู่การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนทางธุรกิจและคุณค่าทางสังคม โดยบริษัทฯ ได้ยึดหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ไม่เพียงเป้าหมายที่ 7: สร้างหลักประกันว่าทุกคนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ในราคาที่สามารถซื้อหาได้ เชื่อถือได้ และยั่งยืน (Affordable and Clean Energy) แต่ยังมุ่งสู่เป้าหมายที่ 6: สร้างหลักประกันเรื่องน้ำและการสุขาภิบาล ให้มีการจัดการอย่างยั่งยืนและมีสภาพพร้อมใช้สำหรับทุกคน (Clean Water and Sanitation) เป้าหมายที่ 9: สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม ที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม (Industry, Innovation and Infrastructure) และเป้าหมายที่ 12: สร้างหลักประกันให้มีแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตที่ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม

“นับจากนี้ บีซีพีจีจะไม่หยุดอยู่แค่การผลิตพลังงานสะอาด แต่จะก้าวสู่บทใหม่ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศ และส่งต่อความยั่งยืนให้คนรุ่นต่อไป” นายรวีกล่าว

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top