‘BCPG’ตั้งเป้าปี’71  ดันEBITDAแตะ7,000 ล้าน

‘BCPG’ตั้งเป้าปี’71 ดันEBITDAแตะ7,000 ล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 07.39 น.

 

นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยแผนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ของการเติบโต ภายใต้แนวคิด “The Next Decade: Broadening Horizons of Sustainability” ต่อยอดจากความสำเร็จในธุรกิจพลังงานสะอาด สู่การสร้าง “โครงสร้างพื้นฐานแห่งความยั่งยืนในทุกมิติ” ว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาบริษัทได้สร้างรากฐานที่มั่นคงในธุรกิจพลังงานสะอาด สะท้อนผ่านพอร์ตการลงทุนที่กระจายตัวทั้งด้านเทคโนโลยีและภูมิภาค ปัจจุบันบริษัทลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำ ก๊าซธรรมชาติ ครอบคลุมในไทย สปป.ลาว เวียดนาม ไต้หวัน สหรัฐฯ รวมกำลังการผลิตกว่า 2,000 เมกะวัตต์


โครงการสำคัญ ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4 แห่งในสหรัฐฯ ที่ดำเนินการในตลาด PJM ได้รับ ค่าความพร้อมจ่ายในระดับสูงต่อเนื่อง โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ที่ขายไฟฟ้าให้เวียดนาม ซึ่งมีความต้องการใช้พลังงานสูง รวมถึงโครงการพลังงานลมมอนซูนขนาด 600 เมกะวัตต์ ใน สปป. ลาว ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าเวียดนาม เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อปลายไตรมาสที่ผ่านมา ต่างเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ยังขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนผ่านโครงการพลังงานลมในเวียดนาม 2 โครงการ รวมกำลังการผลิต 99 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Private PPA) ในไทย ซึ่งภายในปี 2568 จะมีกำลังผลิตรวม 43.6 เมกะวัตต์ เติบโตกว่าเท่าตัว และมีเป้าหมายขยายไปถึง 100 เมกะวัตต์ ตลอดจนขยายการพัฒนาโรงไฟฟ้าในไต้หวัน ขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างสถานีและสายส่งขนาด 200 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าในโครงการแล้ว โครงการเหล่านี้จะสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงเมื่อเริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบ สนับสนุนรายได้ระยะยาวและกระจายความเสี่ยงการดำเนินการ พอร์ตฟอลิโอของบริษัทในปัจจุบันจึงมีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะเร่งการเติบโตของ EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2571

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทมีกำไรก่อนรายการพิเศษ 711.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 626.0 ล้านบาท ซึ่งกำไรก่อนรายการพิเศษถือเป็น “จุดสูงสุดใหม่” ของบริษัท สะท้อนความแข็งแกร่งของโครงสร้างธุรกิจ และศักยภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์พลังงานในหลายประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน บริษัทพร้อมต่อยอดสู่การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ (Critical Infrastructure) ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยปี 2569 บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าโครงการที่อยู่ในพอร์ตให้แล้วเสร็จตามแผน และมีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มเติมในช่วงปี 2570-2571 ไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจยุคใหม่

“การเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และผลกำไร ประกอบกับพอร์ตสินทรัพย์ที่ขยายสู่ระดับภูมิภาค และฐานรายได้ที่มีความมั่นคงจากสัญญาระยะยาว ทำให้บริษัทมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอในการยกระดับสู่บริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET 50 ได้อย่างยั่งยืน โดยมีทั้งอัตราการเติบโตของ EBITDA ที่ชัดเจน กระแสเงินสดสม่ำเสมอ โครงสร้างธุรกิจที่มีศักยภาพในการต่อยอดสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยเสริมเสถียรภาพและมูลค่าตลาดของบริษัทในระยะยาว”นายรวี กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top