วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เผยว่า ผลดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 1,358 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 43,878 ล้านบาท) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 296 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9,560 ล้านบาท) และมีผลกำไรสุทธิจำนวน 33 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,055 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 238 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคง ท่ามกลางสภาพตลาดพลังงานที่มีปัจจัยท้าทาย ในไตรมาสนี้ เราได้ประกาศเฟสใหม่ของกลยุทธ์ Energy Symphonics หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อปลดล็อกมูลค่าและเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับกลุ่มบ้านปู รวมทั้งยังช่วยให้บ้านปูสามารถต่อยอดโอกาสการเติบโตในห่วงโซ่คุณค่าพลังงาน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตอบสนองต่อความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการใช้เทคโนโลยี AI ที่ขยายตัวทั่วโลก
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของกลุ่มบ้านปูในไตรมาส 3 ปี 2568 กลุ่มกลุ่มธุรกิจเหมืองยุคใหม่ (Next-Gen Mining): ผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ ปริมาณการขายในอินโดนีเซีย จีน และมองโกเลียเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ในขณะที่ออสเตรเลีย การย้ายเครื่องจักรตามแผนใน 2 เหมืองทำให้ปริมาณการขายลดลง ภาพรวมยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับการบริหารต้นทุน ส่วนกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจรในสหรัฐฯ (U.S. Closed-Loop Gas) ปริมาณการขายรวมเพิ่มขึ้น 3 % เทียบกับไตรมาสก่อน จากการเริ่มรับรู้ผลประกอบการจากแหล่งก๊าซธรรมชาติ Bedrock และ ราคาก๊าซธรรมชาติ Henry Hub มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ระดับกว่า 4 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู (MMBtu) โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณก๊าซสำรองในประเทศที่ลดลงประกอบกับความต้องการพลังงานและไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยี AI และธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) รวมถึงการขยายตัวของการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับธุรกิจ CCUS โครงการ Barnett Zero รายงานปริมาณกักเก็บคาร์บอนในไตรมาสนี้ จำนวน 44,000 ตัน
ขณะที่กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง (Power+) ปัจจุบันโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและพลังงานหมุนเวียน มีกำลังผลิตรวมอยู่ที่ 4,920 เมกะวัตต์ โดยในไตรมาส 3/2568 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทั้งในไทย ลาว จีน มีผลประกอบการที่ดี ทั้งค่าความพร้อมจ่าย (EAF) และต้นทุนที่ลดลง ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ในจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และออสเตรเลีย โดยรวมมีผลดำเนินงานที่มีเสถียรภาพ การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จินหู เฉียนเฟิง (Jinhu Qianfeng) ในจีน คืบหน้าตามแผน คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2569 ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 1,900 เมกะวัตต์ชั่วโมง การก่อสร้างโครงการวูรีน (Wooreen) ในออสเตรเลีย กำลังการผลิตติดตั้ง 350 เมกะวัตต์ และความจุพลังงานไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์ชั่วโมง คืบหน้าตามแผนและคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2570 สำหรับธุรกิจการซื้อขายไฟฟ้าในญี่ปุ่น ช่วง 9 เดือนของปี 2568 สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเป็นจำนวนรวม 5,325 กิกะวัตต์ชั่วโมง ให้บริการลูกค้ารวม 1,875 ราย โดยได้มีการนำระบบ AI คาดการณ์ราคาซื้อขายไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไร
ด้านกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีแห่งอนาคต (Future Tech) ปัจจุบันมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดกำลังการผลิตรวม 3.2 กิกะวัตต์ชั่วโมงและธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (E-Mobility) ซึ่งบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 876 คัน เร็ว ๆ นี้ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการโซลาร์รูฟท็อป กำลังการผลิตรวม 227 เมกะวัตต์ ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะในเวียดนาม 2 แห่ง ได้แก่ อมตะซิตี้ ฮาลอง และอมตะซิตี้ ลองถั่น โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 2569 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อเสริมแกร่งให้ระบบนิเวศพลังงานสะอาดของกลุ่มบ้านปู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี