IMF ห่วงศก.ไทย แนะดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ

IMF ห่วงศก.ไทย แนะดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ

วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่สรุปผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 2568 ของคณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในโอกาสที่คณะเจ้าหน้าที่ IMFเดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจ ประจำปี 2568 (Article IV Consultation 2025) ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม-13 พฤศจิกายน 2568 นั้น

Mr. Peter Breuer หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินฯ ได้สรุปผลการประเมินเบื้องต้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้


เศรษฐกิจจะขยายตัวชะลอลง

ในครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3% ซึ่งดีกว่าที่ IMF ประเมินไว้ อย่างไรก็ดีคาดว่าในภาพรวมทั้งปีเศรษฐกิจจะขยายตัวชะลอลงเหลือ 2.1% ในปี 2568 และ 1.6% ในปี 2569 ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อ IMF คาดว่าจะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องและทยอยปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1 - 3%ได้ภายในปี 2570 ทั้งนี้ในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงด้านลบอยู่

ความท้าทายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

ภายใต้ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและขีดความสามารถของนโยบายที่จำกัด IMF แนะนำให้ทางการไทย ดำเนินนโยบายแบบผสมผสานอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งในช่วงที่หนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับสูง ทางการไทยควรใช้นโยบายการคลังแบบเฉพาะจุดและระมัดระวัง พร้อมกับมีแผนการเข้าสู่สมดุลการคลังระยะปานกลาง (medium-term consolidation strategy) ที่น่าเชื่อถือ ส่วนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันยังเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และอาจผ่อนคลายได้เพิ่มเติมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านอุปสงค์และเงินเฟ้อ

หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง

ขณะเดียวกัน ด้วยหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทางการไทยควรเร่งฟื้นฟูช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อ ผ่านมาตรการทางการเงินที่ช่วยลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้ เช่น มาตรการเฉพาะกิจล่าสุดในการช่วยเหลือลูกหนี้ เพื่อให้การส่งผ่านนโยบายการเงินมีประสิทธิผลต่อเนื่อง ในการนี้ ทางการไทยชี้แจงว่าได้มีการดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมาอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงวินัยทางการคลังและความยั่งยืนของการดำเนินนโยบาย

ปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อเพิ่มผลิตภาพ

ที่ผ่านมา ทางการไทยได้ออกมาตรการและมีโครงการใหม่ ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในหลายมิติ ซึ่ง IMF มองว่าควรต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่ไทยจะเติบโตในอัตราที่ต่ำลง และต้องทำควบคู่ไปกับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อเพิ่มผลิตภาพและยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วย

ทั้งนี้ทางการไทยได้รับฟังและให้ความเห็นต่อผลการประเมินเบื้องต้นของ IMF แล้ว โดยเห็นสอดคล้องกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะความท้าทายในการดำเนินนโยบายที่ต้องรอบคอบและรัดกุม ภายใต้ขีดความสามารถทางนโยบายที่มีอยู่ และความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆรวมทั้งความจำเป็นในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน

อนึ่ง นอกจากเข้าพบ นายวิทัย  รัตนากร ผู้ว่าการธปท.และคณะผู้บริหารแล้ว คณะผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังได้เข้าพบและหารือกับ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ณ ห้องประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชั้น 20 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top