วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) และประธานสายงานสมาชิกสัมพันธ์ กิจกรรม และรายได้ กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้รับเชิญจากนายฮาร์ดี้ จันทรา (Hardy Chandra) ประธานหอการค้าอินโดนีเซีย–ไทย (INTCC: Indonesia–Thai Chamber of Commerce) เข้าร่วมเสวนาโต๊ะกลม (Luncheon Meeting) ร่วมกับสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย และนักธุรกิจจากหอการค้าต่างประเทศใน 5 ทวีป
โดยการหารือครั้งนี้ มุ่งเน้นประโยชน์ที่ประเทศพันธมิตรจะมอบให้แก่สมาชิกภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. รวมถึงแนวทางความร่วมมือที่ ส.อ.ท. จะสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกัน ภายใต้ 3 แนวทางหลัก ดังนี้ 1. การสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและอุตสาหกรรมระดับนานาชาติโดยเน้นกลุ่ม SMEs และการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ด้านการส่งออก–นำเข้า 2. การสร้างโอกาสในการลงทุนร่วม (Co-Investment)ครอบคลุมทั้งการลงทุนรายเดี่ยวและการร่วมทุน 3. การขยายความร่วมมือจากห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) สู่ห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain)
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมสมาชิก ส.อ.ท. ผ่านหลักสูตร FTI GO Global และ Provincial e-Catalog ซึ่งมุ่งขยายช่องทางการตลาดให้กับสมาชิก ส.อ.ท. และผู้ประกอบการ SME ในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยหลังจากนี้จะมีการจัดประชุมร่วมอย่างเป็นทางการระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กับหอการค้าและสถานทูตพันธมิตรนานาชาติ เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ทั้งนี้ ผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายฮาร์ดี้ จันดรา – ประธานหอการค้าอินโดนีเซีย–ไทย (INTCC), นางฟลอร่า ซูซาน รองประธานหอการค้าอินโดนีเซีย–ไทย (INTCC), นายสุชิน กุมาร ดาร์นูก้า – ประธานหอการค้าอินเดีย–ไทย, นายคาเรล เดอ ลังเก้ – ประธานหอการค้าแอฟริกาใต้–ไทย ,นายวิทาลี คีเซเลฟ – ประธานหอการค้ารัสเซีย–ไทย นายดิมิทรี– ผู้แทนหอการค้ารัสเซีย–ไทย นายจาเบอร์ อัลเซฮี – หัวหน้าส่วนงานเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), นายฟาชีส ยูเซฟฟีร – หอการค้าอิหร่าน–ไทย นางสาวคลอเดีย ลิเปอร์ต) – กรรมการบริหาร หอการค้าเบราซิล–ไทย และนายมุสตาฟา กามาล – สถานเอกอัครราชทูตอียิปต์
ด้านนายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนารับฟังความเห็นภาคเอกชน ภายใต้หัวข้อ “FTA ไทย–สหภาพยุโรป (EU) เชื่อมโอกาสการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ไทย–สหภาพยุโรป” ซึ่งจัดโดยบริษัท โบลลิเกอร์ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด และกรมบัญชีกลาง
นายนาวา กล่าวว่า การเปิดตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐกับสหภาพยุโรปเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเข้าถึงตลาดที่มีมูลค่าสูง อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐไทยปรับโครงสร้างระบบจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใสและได้มาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี การเปิดตลาดดังกล่าวอาจทำให้ผู้ประกอบการไทยเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทในสหภาพยุโรป ซึ่งมีความได้เปรียบทั้งด้านต้นทุนและเทคโนโลยี
ทั้งนี้ ในการเจรจาเปิดตลาด ควรกำหนดเงื่อนไขมูลค่าขั้นต่ำของโครงการไม่น้อยกว่า 6 ล้านบาท และกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านอย่างน้อย 15 ปี รวมถึงคงมาตรการที่ช่วยสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการในประเทศ เช่น มาตรการ “Made in Thailand” (MiT) ซึ่งให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทยในการเสนอราคาโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี