ราช กรุ๊ปกำไร 9 เดือน 5,445 ล้านบาท พร้อมเข้าร่วมโซลาร์ฟาร์มชุมชน-Direct PPA

ราช กรุ๊ปกำไร 9 เดือน 5,445 ล้านบาท พร้อมเข้าร่วมโซลาร์ฟาร์มชุมชน-Direct PPA

วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 14.32 น.

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2568 มีกำไรสุทธิ จำนวน 5,445 ล้านบาท โดยรายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในกิจการร่วมค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าเป็นจำนวน 5,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567 ส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มีจำนวน 11,766 ล้านบาท

สำหรับการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้ายังเป็นแกนหลักในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ โดยรายได้จำนวน 18,804 ล้านบาทของรายได้รวม คิดเป็นร้อยละ 79 มาจากกลุ่มโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 7,830.60 เมกะวัตต์ รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และชีวมวล กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,618.21 เมกะวัตต์ จำนวน 3,874 ล้านบาท หรือร้อยละ 16 ของรายได้รวม และรายได้จากธุรกิจเกี่ยวเนื่องและอื่นๆ เป็นจำนวน 1,247 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5

นายนิทัศน์ กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการสินทรัพย์และต้นทุนการดำเนินการ เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งความพยายามดังกล่าวสะท้อนในผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก โดยความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ ทั้งประเภท IPP และพลังงานทดแทนปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจและพอร์ตการลงทุน เพื่อให้บริษัทฯ สามารถมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงาน และเสริมความแข็งแกร่งด้านการลงทุนในธุรกิจใหม่ในระยะยาว สำหรับแผนงานระยะสั้น บริษัทฯ จะเน้นการเตรียมความพร้อมเข้าร่วมในโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชนตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล โครงการ Direct PPA การเข้าลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าที่มีรายได้มั่นคง การรักษาความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการทำแผนพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่โรงไฟฟ้าราชบุรีหลังจากปลดระวาง เป็นต้น

ส่วนแผนในระยะกลางและระยะยาว จะมุ่งที่การเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าตามแผน PDP และเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศยุโรป การขยายไปสู่ธุรกิจไฟฟ้าแห่งอนาคตและธุรกิจที่สนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า การดำเนินกลยุทธ์ตามแผนงานนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจและขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวได้เป็นอย่างดี” นายนิทัศน์ กล่าว    

ฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีสินทรัพย์รวม จำนวน 211,428 ล้านบาท หนี้สินรวม จำนวน 108,093 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 103,335 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งสะท้อนจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.05 เท่า อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ร้อยละ 10.57 รวมทั้งอันดับความน่าเชื่อถือที่อยู่ในระดับ Investment Grade จากสถาบันการจัดอันดับชั้นนำ ได้แก่ Tris Rating ที่ระดับ AA+, Moody’s ระดับ Baa2 และ S&P Ratings ระดับ BBB-    

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top