วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GPSC กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล ประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ได้ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง GPSC และ บริษัท โกลเดน คอนคอร์ด โฮลดิ้งส์ จำกัด (GCL) ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำด้านเทคโนโลยีสีเขียวคาร์บอนต่ำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ดำเนินธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นพลังงานชั้นสูงให้กับ Data Center ขนาดใหญ่ โดยร่วมพัฒนาโครงการบูรณาการศูนย์ข้อมูลร่วมกับพลังงานคาร์บอนต่ำอัจฉริยะ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานของไทย และยังเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการขยายความร่วมมือในหลากหลายมิติในอนาคต
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ และจุดแข็งของ GPSC ที่สามารถผลิตส่งไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพมากที่สุด โดยใช้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าปัจจุบันที่สามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างต่อเนือง (Maximize existing assets with Best-in-Class performance) ประกอบกับความเชี่ยวชาญของ GCL ในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานสะอาดรุ่นใหม่ โดยเฉพาะด้านพลังงานหมุนเวียน ร่วมกันนำเทคโนโลยี AI มาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ รวมทั้งศึกษาพัฒนาตลอดห่วงโซ่ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์เทคโนโลยีใหม่ประเภทเพอรอฟสไกต์ (Perovskite) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลก พร้อมรองรับการยกระดับระบบบริหารจัดการและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าอัจฉริยะ แพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้าและคาร์บอนเครดิต เทคโนโลยีโรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plant) และรองรับการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลด้านพลังงานผ่าน Real World Asset (RWA) เพื่อให้สอดรับกับทิศทางของนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต
โดยทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นถึงโอกาส และทิศทางการเปลี่ยนแปลงของการใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานในไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะความสำคัญด้านการพัฒนาบูรณาการ Data Center ร่วมไปกับบริหารจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI มาใช้รองรับการแข่งขันที่ต้องเผชิญกับปัจจัยการความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
นับเป็นก้าวสำคัญของ GPSC ในฐานะผู้นำนวัตกรรมพลังงานและการลดการปลดปล่อยคาร์บอน ที่จะเข้าสู่ธุรกิจพลังงานและดิจิทัลอย่างแท้จริง ผ่านความร่วมมือกับ GCL ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน โดยดึงความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายมาพัฒนาธุรกิจในประเทศ และวางเป้าหมายในการขยายการลงทุนไปในโครงการด้านพลังงานและดิจิทัลทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งจะส่งผลให้ GPSC มีขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจในประเทศและภูมิภาค รองรับการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และมีศักยภาพใน Solar energy supply and value chains, เทคโนโลยี AI, Data center, Smart energy platform อย่างครบวงจร เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเปลี่ยนผ่านในยุคดิจิทัลด้วย AI และสามารถต่อยอดธุรกิจพลังงาน จากความเชี่ยวชาญในการจัดหาแหล่งพลังงานสะอาด และสาธารณูปโภคของไทยที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายของรัฐที่ต้องการให้ไทยบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero 2050) และเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจศูนย์ข้อมูลของภูมิภาค
Mr. Zhu Gongshan ประธานกรรมการ GCL Group กล่าวว่า โนโลยีพลังงานสู่ต่างประเทศ ร่วมกับพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ โดย GCL Group ในฐานะบริษัทชั้นนำนวัตกรรมพลังงานสะอาด และธุรกิจดิจิทัลระดับโลก จะเป็นส่วนสำคัญของการเพิ่มศักยภาพและความพร้อมด้านพลังงานที่แข็งแกร่ง ที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้โครงการประสบความสำเร็จและยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมพลังงานในประเทศไทย รองรับการเติบโตของธุรกิจ Data Center โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไทยเป็นเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ ของ GCL Group ที่จะเข้ามาลงทุน และสร้างการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาวผ่านการบูรณาการจุดแข็งในด้านเทคโนโลยีพลังงาน นวัตกรรมพลังงาน ระบบการผลิตและระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ และการขยายการดำเนินงานสู่ระดับโลก
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี