ส.อ.ท. หวั่นเจรจาภาษีไทย-สหรัฐยืดเยื้อ กระทบส่งออก-ลงทุนโครงการใหม่

ส.อ.ท. หวั่นเจรจาภาษีไทย-สหรัฐยืดเยื้อ กระทบส่งออก-ลงทุนโครงการใหม่

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 14.26 น.

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กรณีผลกระทบจากประเด็นไทย–กัมพูชา และผลสืบเนื่องจากการเคลื่อนไหวของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR)น้้น  แม้เอกสารจาก USTR ที่ระบุการระงับเจรจาการค้ากับไทย อาจมีความคลาดเคลื่อนด้านเวลาและขั้นตอน  แต่โดยรวมสหรัฐฯ ยังมีเจตนารมณ์เดินหน้าการเจรจาการค้ากับไทย ภาคเอกชนจึงหวังว่าการเจรจาจะกลับสู่กระบวนการปกติโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า

สำหรับผลกระทบต่อการส่งออกและการลงทุนนั้น มองว่าความต้องการในตลาดสหรัฐฯ ยังคงมีความไม่แน่นอนด้านภาษีและมาตรฐาน อาจเพิ่มต้นทุนและความเสี่ยง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป และสินค้าอุตสาหกรรมที่ต้องรอมาตรฐานสหรัฐฯ อีกทั้งการลงทุนไทย–สหรัฐฯ จะกระทบด้านความเชื่อมั่น นักลงทุนอาจชะลอการขยายกิจการจนกว่าสถานการณ์จะมีความชัดเจนมากขึ้น หากการเจรจายืดเยื้ออาจส่งผลต่อโครงการลงทุนใหม่


ส่วนประเด็นอธิปไตยเป็นสิ่งที่ไทยต้องยืนหยัดอย่างชัดเจน รัฐบาลต้องเสริมพลังทางการทูตเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและรักษาบรรยากาศทางเศรษฐกิจ หากการทูตสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ช่วงต้นปีหน้า มีโอกาสที่การค้าไทย–สหรัฐฯ จะฟื้นตัวตามกรอบความร่วมมือเดิม

นายเกรียงไกร กล่าวว่า ข้อเสนอจากภาคเอกชนสำหรับกรณีดังกล่าว มีดังนี้ 1. เร่งสร้างความชัดเจนในการเจรจาการค้าใช้การทูตเชิงรุกผลักดันให้การเจรจาภาษีและข้อกำหนดกลับสู่กระบวนการโดยเร็ว ลดความเสี่ยงต่อผู้ประกอบการ 2. ประเมินความพร้อมของไทยต่อข้อผูกพันที่เคยตกลงกับสหรัฐฯเช่น การเปิดนำเข้าสินค้าเกษตรบางรายการ การยอมรับมาตรฐานความปลอดภัย และรายการสินค้าที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีกว่า 90% พร้อมประเมินว่าต้องมีมาตรการเยียวยาใดเพิ่มเติม 3. เสริมศักยภาพผู้ส่งออกไทย เช่นสนับสนุนการปรับมาตรฐานสินค้าให้ตรงตามข้อกำหนดสหรัฐฯ ,ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ,เพิ่มตลาดใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง และสนับสนุนเทคโนโลยีและระบบตรวจสอบย้อนกลับ

“การทูต เศรษฐกิจ และความมั่นคงต้องเดินคู่กัน และรัฐบาลควรใช้ช่วง 1–2 เดือนที่เหลือเร่งแก้ประเด็นสำคัญก่อนสหรัฐฯ ประเมินผลรอบถัดไป เพื่อจำกัดผลกระทบด้านการค้า การส่งออก และการลงทุน ขณะที่การกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ เป็นหน้าที่ที่ฝ่ายการทูตต้องดำเนินอย่างระมัดระวัง โดยภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนข้อมูลเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศอย่างยั่งยืน”นายเกรียงไกรกล่าว

นายเกรียงไกร กล่าวว่า คาดการณ์ว่าในปี 69 นั้น ความไม่แน่นอนจากประเด็นการเมืองระหว่างประเทศและท่าทีของ USTR จะทำให้บรรยากาศการค้าไทย–สหรัฐฯ เปราะบางขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอยู่ระหว่างเจรจาด้านกฎระเบียบและภาษี หากการเจรจาชะลอ ผู้นำเข้า–ผู้ส่งออกอาจประสบปัญหาเรื่องการชะลอคำสั่งซื้อ

- 030 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top