UBE Kick Off เฟสใหม่ลุยโครงการลดคาร์บอนฯ รขับเคลื่อนไทยสู่ Net Zero ปี 2593

UBE Kick Off เฟสใหม่ลุยโครงการลดคาร์บอนฯ รขับเคลื่อนไทยสู่ Net Zero ปี 2593

วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.12 น.

นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ UBE เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และกำหนด “นโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” เป็นวาระเร่งด่วนขององค์กร โดยมุ่งยกระดับทุกมิติอย่างเข้มข้น ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน การบริหารจัดการทรัพยากรกับโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรรักษ์โลก เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับโลกและสอดคล้องกับทิศทางสากลที่ข้อเรียกร้องด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้นจากเวทีโลกจากรายงานล่าสุดในที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 (COP30) ที่ประเทศบราซิล พบว่าอุณหภูมิโลกสูงเกินกว่า 2 องศาเซลเซียสอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาด โดยเฉพาะค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2567 ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 423.9 ส่วนต่อล้านส่วน ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มสูงที่สุดในรอบหลายปี ทั้งยังสะท้อนว่ากว่า 90% ของการปล่อย CO₂ ทั่วโลก ยังคงเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล

“ข้อมูลจาก COP30 เป็นสัญญาณชัดเจนว่าอุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ต้องมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ UBE จึงปูรากฐานให้ยกระดับองค์กรในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกตามที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 ซึ่งเป็นการสร้างระบบฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐานระดับสากล รองรับการประเมินผลและการตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนที่วัดผลได้จริง สะท้อนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ UBE ที่ถูกนำไปสู่การปฏิบัติจริง และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของบริษัทฯ ในการเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2608 ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน UBE การสร้างห่วงโซ่อุปทานสีเขียวร่วมกับเกษตรกรเครือข่าย เราให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์และเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในอุตสาหกรรมเกษตรกรรม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกใบนี้ไปด้วยกัน” นางสาวสุรียส กล่าว


นางสาวกัณฑ์พร กรรณสูต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายความยั่งยืนองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวในฐานะเป็นประธานคณะทำงานด้านการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของ UBE ว่า บริษัทฯ ไม่ได้หยุดอยู่เพียงความพร้อมด้านกำลังการผลิตเท่านั้น แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนให้ก้าวไปอีกขั้น ล่าสุด UBE ได้เดินหน้าขับเคลื่อนพันธกิจด้านความยั่งยืนผ่านการเปิดตัว (Kick Off) “โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG)” ระยะต่อเนื่อง เกิดขึ้นหลังจากปี 2567 ที่บริษัทฯ มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 160,869 tonCO₂e โดยตั้งเป้าลดการปล่อยไม่น้อยกว่า 3% ในปี 2568 และไม่น้อยกว่า 7% ในปี 2569 เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero GHG Emissions ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) ตามที่ ประเทศไทยได้ประกาศพิจารณาปรับเป้าหมายการบรรลุ Net Zero ให้เร็วขึ้นจากเดิมปี 2608 (ค.ศ. 2065) ภายใต้ความตกลงปารีส ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่องค์กรต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าต้องเร่งแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เร็วขึ้นสอดรับกับเป้าหมายใหม่หรือไม่ ตอกย้ำถึงเป็นผู้นำที่ลงมือทำจริง และเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับธุรกิจ ควบคู่ไปกับการส่งมอบสังคมต่ำเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสู่คนรุ่นหลัง

ทั้งนี้ความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือก แต่คือหน้าที่และความรับผิดชอบที่ UBE ยึดมั่นมาโดยตลอด เราภูมิใจที่ได้ริเริ่มโครงการบริหารจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 และในปีนี้เปิดตัวโครงการระยะต่อเนื่อง เป็นการต่อยอดจากรากฐานความสำเร็จที่วางไว้ โดยเน้นมาตรการที่ครอบคลุมทุกมิติของการดำเนินงาน ใน 5 มิติ ได้แก่ 1.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยปรับปรุงเครื่องจักรและกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้พลังงาน 2.ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด เช่น โครงการ Floating Solar 3.จัดการของเสียอย่างยั่งยืน ผ่านการลดปริมาณของเสียและนำกลับมาใช้ใหม่ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน 4.เพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ วางแผนการขนส่งเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง 5.สร้างการมีส่วนร่วมภายในองค์กร ด้วยการกระตุ้นให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดและปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

“การเดินหน้าโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ UBE ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการตอบสนองต่อแนวโน้มด้านสิ่งแวดล้อมของโลกเท่านั้น แต่เรามองลึกไปถึงการผนวกเรื่องความยั่งยืนให้เป็นเนื้อเดียวกับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth Strategy) เพราะเราเชื่อมั่นว่า การสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาวก้าวสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ภายในปี 2608 จึงไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลขทางธุรกิจ แต่คือ ‘คำมั่นสัญญา’ ที่เรามีต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ว่า UBE พร้อมจะเป็นองค์กรต้นแบบที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยการลงมือทำจริง เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนและส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นต่อไปได้อย่างภาคภูมิ” นางสาวกัณฑ์พร กล่าว

- 030 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top