วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายวิทวัส ล่ำซำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า อุทกภัยใน 7 จังหวัดภาคใต้กำลังก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจในระดับ “สูงมาก” โดยเฉพาะหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีการกระจุกตัวของผู้ประกอบการ SME จำนวนหลายแสนราย ซึ่งความเสียหายเฉพาะในกลุ่ม SME ที่เกิดขึ้นในหาดใหญ่เพียงพื้นที่เดียวในแต่ละวันอยู่ที่ราว 1,500 ล้านบาท และหากสถานการณ์ยืดเยื้อ 1 เดือน ตัวเลขรวมอาจทะยานแตะ 10,000-15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ SME ที่ได้รับผลกระทบเฉพาะสงขลา คาดว่ามีกว่า 200,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทตึกแถว ร้านค้า เทรดเดอร์ รวมถึงกิจการที่มีสต็อกจำนวนมาก ทำให้ได้รับผลกระทบทั้งต่อสถานประกอบการ อุปกรณ์ และสินค้าคงคลัง
นายวิทวัส กล่าวว่า สสว.ได้เร่งดันมาตรการฟื้นฟูด่วน เพื่อสกัดความเสียหายไม่ให้ขยายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดย สสว.เตรียมเสนอชุดมาตรการเร่งด่วน ได้แก่
1) มาตรการ BDS แบบยกพลัง เพิ่มเพดานการช่วยเหลือจาก 200,000 บาท เป็น 500,000 บาท เพื่อช่วยซ่อมแซมสถานประกอบการ และกู้ฟื้นต้นทุนพื้นฐาน
2) สิทธิพิเศษด้านจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยให้ SME ใน 7 จังหวัด โดยเฉพาะหาดใหญ่/สงขลา เข้าถึงงานภาครัฐก่อน เพื่อให้มีรายได้ไหลกลับสู่ระบบทันที
3) มาตรการสินเชื่อฟื้นธุรกิจ เสริมสภาพคล่องเร่งด่วน ซื้อสต็อกใหม่-ซ่อมอุปกรณ์ โดยเป้าหมายคือ “ให้ธุรกิจกลับมาลุกขึ้นทำงานได้เร็วที่สุด”
“สสว.ย้ำว่าความช่วยเหลือจำเป็นต้องลงพื้นที่อย่างเร็วที่สุด ก่อนความเสียหายจะขยายจนกลายเป็นภาระยากเยียวยาในระยะยาว พร้อมจับมือหลายหน่วยงานเพื่อผลักดันมาตรการให้ทันต่อสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลงทุกวัน”นายวิทวัส กล่าว
ในส่วนของโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ Business Development Service (BDS) หรือ“SME ปัง ตังได้คืน” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถให้ SMEไทยท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยระบบ BDS ทำให้ SME ไทยเข้าถึงบริการคุณภาพได้ง่ายขึ้น ต้นทุนลดลง และยังสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
โดยโครงการดังกล่าวได้ดำเนินงานต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565–2568 มีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนรวมกว่า 30,000 ราย และยืนยันตัวตนบนระบบ BDS แล้วกว่า 9,100 ราย แสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้บริการพัฒนาธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นของ SME ไทย ขณะเดียวกัน สสว.ยังสนับสนุนงบประมาณรวมมากกว่า 260 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนการปรับปรุงธุรกิจในหลากหลายด้าน อาทิ มาตรฐานสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยี การขยายโอกาสทางการตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย
ทั้งนี้ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระบบ BDS ได้รับการพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ ผ่านบริการที่เปิดให้ผู้ประกอบการ SME ได้เลือกสรรกว่า 1,000 บริการ จากผู้ให้บริการทางธุรกิจ (BDSP) จำนวนมากกว่า 285 หน่วยงาน ครอบคลุมหน่วยงานรัฐ สถาบันเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสถาบันการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ที่ยื่นข้อเสนอเพื่อการพัฒนาธุรกิจของตนได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 4,538 รายการ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนบทบาทสำคัญของโครงการในการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของ SME ไทย
อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ 2569 สสว.ได้รับการอนุมัติงบประมาณรวม 300 ล้านบาท ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 3,000 ราย และจะเดินหน้าขยายบริการ โดยเฉพาะในกลุ่ม Health & Wellness, Creative & Lifestyle และ Green Business พร้อมเปิดโอกาสหน่วยให้บริการทางธุรกิจ บริการภาคเอกชน ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สามารถขึ้นทะเบียนและเปิดให้บริการได้ และเตรียมเปิดโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุนของ SME ไทยอย่างตรงจุด พร้อมเสริมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การตลาดดิจิทัล มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาธุรกิจตามแนวคิด Green & Sustainable
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี