วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนตุลาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 94.57 หดตัว 0.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 58.25% เนื่องจากการยกเลิกภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ หลายรายการ ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและเกษตรแปรรูปของไทย ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคมปรับตัวลดลง โดยมีปัจจัยหลักจากการนำเข้าสินค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ความกังวลต่อสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในหลายพื้นที่ และมูลค่าการค้าชายแดนหดตัวต่อเนื่อง รวมถึงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 10 เดือนแรกปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 96.55 หดตัว 0.80 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม 2568 ได้แก่ การผลิตรถยนต์ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 และมาตรการสำคัญของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส และการปรับลดราคาน้ำมัน ซึ่งโครงการทั้ง 2 ถือเป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและต้นทุนของทั้งภาคประชาชนและภาคอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม ด้านระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนพฤศจิกายน 2568 “ส่งสัญญาณเฝ้าระวัง” โดยปัจจัยภายในประเทศอยู่ในวัฏจักรขาลงและมีภาวะต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะด้านการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวสูงจากเดือนก่อน รวมถึงความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อที่หดตัวในภาคการผลิต ด้านปัจจัยต่างประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังลดลงจากเดือนก่อน ตามการส่งออกที่ดีขึ้นทั้งจากการส่งออกไปจีนและออสเตรเลีย ขณะที่อินเดียเร่งนำเข้ามากขึ้น รวมถึงภาคการผลิตอาเซียนขยายตัวได้ต่อเนื่อง
“จากตัวเลขดัชนี MPI 10 เดือนแรกปี 2568 หดตัว 0.80% ส่งผลให้ สศอ.ปรับประมาณการปี 2568 คาดว่าดัชนี MPI หดตัว0.75 % และการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว0.5 % ขณะเดียวกันได้ประมาณการปี 2569 โดยคาดว่าดัชนี MPI และ GDP ภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาขยายตัว 1.0 - 2.0 % รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การค้าระหว่างประเทศของไทยกับคู่ค้าหลัก ยังมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง และทิศทางการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ยังต้องเฝ้าระวังความไม่แน่นอน ของนโยบายด้านเศรษฐกิจและมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จึงต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไปอย่างใกล้ชิด ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนและการบริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งส่งผลกระทบทำให้กำลังซื้อและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวมีทิศทางชะลอตัวต่อเนื่อง และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ส่งผลต่อภาคการผลิต ทำให้ส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการ เครื่องจักรและอุปกรณ์ แรงงาน การขนส่ง ตลอดจนห่วงโซ่อุปทานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรม” นายศุภกิจ กล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนตุลาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.11 % จากผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดไม่เกิน 1800 ซีซี รถบรรทุกปิคอัพ และรถยนต์นั่งไฟฟ้า เป็นหลัก ตามการขยายตัวของตลาดในประเทศและการส่งออก และการเร่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการหลังมาตรการ EV 3.0 จะสิ้นสุดลงสิ้นปีนี้
ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.38% จากผลิตภัณฑ์ Printed Circuit Board Assembly (PCBA) เป็นหลัก ตามการเติบโตของตลาดอิเล็กทรอนิกส์โลกที่มีอย่างต่อเนื่อง
น้ำมันปาล์ม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 36.46% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ เป็นหลัก เนื่องจากปริมาณผลปาล์มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่างจากปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และการกลับมาผลิตเป็นปกติของผู้ผลิตบางรายหลังหยุดซ่อมบำรุงในปีก่อน
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนตุลาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
เครื่องปรับอากาศ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน21.04% จากผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ เป็นหลัก เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศอ่อนแอ มีฝนตกน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมีราคาถูก
มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.65 % จากผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นหลัก เนื่องจากมีการชะลอการผลิตเพื่อรอคำสั่งจากการไฟฟ้า
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.41 % จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา และน้ำมันเบนซิน เป็นหลัก เนื่องจากการหยุดผลิตชั่วคราวเพื่อซ่อมบำรุงใหญ่ของผู้ผลิตบางราย
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี