วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
Ledger ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก รับมือภัยคุกคามไซเบอร์ ท่ามกลางการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก
ท่ามกลางการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ความเสี่ยงจากการหลอกลวงและอาชญากรรมไซเบอร์ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกรรมที่อาศัยลายเซ็นดิจิทัล ซึ่งอาจถูกปลอมแปลงหรือดัดแปลงได้ ด้วยเหตุนี้ มาตรการด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการจัดเก็บ Private Key แบบออฟไลน์จึงมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ Ledger จึงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับฮาร์ดแวร์ เพื่อเสริมพลังให้ผู้ใช้งานคริปโตสามารถควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลของตนได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และอุ่นใจยิ่งขึ้นในการบริหารจัดการทรัพย์สินของตนเอง
Jean-François Rochet, Executive Vice President, Consumer Services ของ Ledger ผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัล กล่าวว่า “ความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่แท้จริง” จำเป็นต้องมาพร้อมกับการใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากการลงนามทำธุรกรรมบนบล็อกเชนมีความสำคัญไม่ต่างจากการลงนามในสัญญาทางกฎหมาย หากข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอถูกเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้สินทรัพย์ของผู้ใช้งานตกอยู่ในความเสี่ยงได้ทันที อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ทั่วไปอย่างสมาร์ตโฟนและแล็ปท็อป ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับนี้
เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายดังกล่าว Ledger ได้พัฒนา หน้าจอระบบความปลอดภัยเครื่องแรกของโลก ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า “Signer” ทำหน้าที่เป็นหน้าจอที่เชื่อถือได้สำหรับตรวจสอบรายละเอียดของธุรกรรมก่อนลงนาม โดยอุปกรณ์จะใช้ชิป Secure Element ที่แยกการประมวลผลออกจากระบบหลัก เพื่อรักษาความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูล นอกจากนี้ มาตรฐาน Clear Signing ของ Ledger ยังช่วยแปลงข้อมูลธุรกรรมให้เป็นภาษาที่มนุษย์อ่านเข้าใจได้ง่าย พร้อมด้วยฟีเจอร์ Transaction Check ที่จำลองธุรกรรมเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบก่อนอนุมัติได้อย่างมั่นใจ
ในกรณีที่อุปกรณ์สูญหาย ผู้ใช้งานสามารถกู้คืนสินทรัพย์ทั้งหมดได้โดยการกรอก วลีการกู้คืนลับ 24 คำ (24-word Secret Recovery Phrase) นอกจากนี้ Ledger Recover ยังเป็นบริการเสริมสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสำรองข้อมูลการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลของตน ขณะที่ Ledger Recovery Key ซึ่งเป็นบริการล่าสุดของบริษัท เป็นกุญแจสำรองส่วนตัวในรูปแบบออฟไลน์ มาพร้อม Secure Element และระบบป้องกันด้วยรหัส PIN สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการควบคุมสินทรัพย์อย่างเต็มที่และเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งาน
นอกจากนี้ Ledger ยังได้เปิดตัว Ledger Nano Gen 5 เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันในราคาที่เข้าถึงได้ อุปกรณ์รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอที่ปรับแต่งได้ การใช้พลังงานต่ำ และระบบคุ้มครองความเป็นส่วนตัวแม้ในขณะปิดเครื่อง รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เพื่อความสะดวกในการพกพา พร้อมโซลูชัน “D to connect” สำหรับเชื่อมต่อกับ dApps และแอป Ledger Wallet สำหรับบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลได้ในที่เดียว
สำหรับองค์กร สถาบัน และแพลตฟอร์มซื้อขายที่ดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล Ledger นำเสนอ โซลูชัน Multisig ที่รองรับการอนุมัติธุรกรรมด้วยลายเซ็นหลายฝ่าย (Multi-signature) ช่วยกระจายความรับผิดชอบและลดความเสี่ยงจากการที่บุคคลเพียงคนเดียวถือครอง Private Key ทั้งหมด นอกจากนี้ โซลูชันดังกล่าวยังช่วยปกป้ององค์กรจากช่องโหว่ที่มักพบในระบบ Multisig ที่พัฒนาอย่างไม่รัดกุม ซึ่งในอดีตเคยนำไปสู่ความสูญเสียของสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล
สำหรับตลาดประเทศไทย Ledger มองเห็นศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีสูงที่สุดในโลก และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่พัฒนาอย่างก้าวหน้า บริษัทจึงมีแผนขยายความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน Ledger ยังระบุว่า อาชญากรรมทางการเงินดิจิทัลยังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ที่มีมูลค่าความเสียหายจากการฉ้อโกงสูงกว่า 2.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของอุปกรณ์ที่มีระบบตรวจสอบและยืนยันธุรกรรม ในฐานะเครื่องมือสำคัญในการลดความเสี่ยงของผู้ใช้งาน
“สินทรัพย์ดิจิทัลควรเป็นเรื่องส่วนตัว บทเรียนจากยุค Web 2.0 แสดงให้เห็นว่า เมื่อข้อมูลถูกควบคุมโดยองค์กรขนาดใหญ่ ความเสี่ยงย่อมตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจุบัน Ledger จำหน่ายอุปกรณ์ไปแล้วมากกว่า 8 ล้านเครื่อง ในกว่า 165 ประเทศ และช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับคริปโตมากกว่า 20% ของปริมาณธุรกรรมทั่วโลก ในอนาคต ผู้ถือครองคริปโตทุกคนจะต้องมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจดิจิทัล”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี