พิพัฒน์ ถกแผนเร่งด่วนปี‘70 วงเงินกว่า 5,000 ล้าน เร่งฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้

พิพัฒน์ ถกแผนเร่งด่วนปี‘70 วงเงินกว่า 5,000 ล้าน เร่งฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้

วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 11.59 น.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ได้จัดการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจำปี 2570 รวมถึงโครงการสำคัญของส่วนราชการ เพื่อใช้เป็นกรอบในการฟื้นฟูและวางอนาคตภาคใต้อย่างเป็นระบบ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน

โดยที่ประชุมมีผู้แทนจากสภาพัฒน์ฯ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ป.ย.ป. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มอ่าวไทย–อันดามัน และผู้ว่าราชการจังหวัดในสามจังหวัดชายแดนใต้ เข้าร่วมประชุมเพื่อการบูรณาการทำงานร่วมกันในระดับพื้นที่และส่วนกลาง เพื่อให้ทุกโครงการ ตอบโจทย์ประชาชนจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ


ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ทั้งหมด 11 จังหวัด 2 กลุ่มจังหวัด และภาคใต้ชายแดน 3 จังหวัด 1 กลุ่มจังหวัด โดยมีการทบทวนศักยภาพ ปัญหา และโอกาสของแต่ละพื้นที่ใหม่ ปรับเป้าหมายและตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งปัญหาอุทกภัยซ้ำซาก การขยายตัวของเมือง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และโอกาสด้านการท่องเที่ยว–เกษตรมูลค่าสูง–โลจิสติกส์สมัยใหม่
ในส่วนของ แผนปฏิบัติราชการปี 2570 เร่งด่วน ภาคใต้ สนับสนุน 452 โครงการ วงเงินราว 3,900 ล้านบาท ภาคใต้ชายแดน สนับสนุน 150 โครงการ วงเงินกว่า 1,400 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอโครงการสำคัญจากส่วนราชการส่วนกลาง อาทิ โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเรือสำราญ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical–Wellness) โครงการยกระดับมาตรฐานปาล์มน้ำมัน–โอเลโอเคมิคอล โครงการป้องกันอุทกภัยพื้นที่ทะเลน้อย, โครงการพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ,โครงการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้

อย่างไรก็ตามโครงการทั้งหมดจะถูกรวบรวมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ต่อไป

“ช่วงที่ผ่านมา พื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ ทั้งสงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ต ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัย ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้เร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคม และบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่องจึงขอกำชับให้คณะอนุกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “คิดไกลกว่าการซ่อมแซม” คือใช้โอกาสการฟื้นฟูเพื่อยกระดับภาคใต้ให้แข็งแรงกว่าเดิม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจภาคใต้ ทั้งการท่องเที่ยวทางทะเล การท่องเที่ยวเชื่อมฝั่งอ่าวไทย–อันดามัน และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม–ศาสนา เช่น เส้นทางไหว้พระในนครศรีธรรมราชผ”นายพิพัฒน์ กล่าว

สำหรับจังหวัดสงขลาและอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งเป็นประตูท่องเที่ยวชายแดนสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย  ต้องฟื้นให้เร็ว และทำให้ปลอดภัยที่สุด ทั้งระบบคมนาคมและการบริการของเมือง พร้อมเน้นให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลเรื่อง ความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ เพราะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ภาคใต้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ให้เป็น นิคมอุตสาหกรรมฮาลาล”รองรับการลงทุนด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลระดับโลกอีกด้วย

-032

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top