ศึกความเร็วระดับเวิลด์คลาส FIA Formula 2 Championship 2025 สนามสุดท้าย ปิดฤดูกาลด้วยภารกิจสำคัญของ  “เติ้น–ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์” นักขับฟอร์มูล่าทรีชาวไทยหนึ่งเดียวจาก AAS Motorsport ที่ได้รับโอกาสขยับขึ้นทดสอบในคลาส F2 กับทีม Trident เพื่อสั่งสมประสบการณ์ ก่อนลุยเต็มฤดูกาลใน   ปีหน้า โดยมีสนามยาส มารีนา เซอร์กิต ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเวทีทดสอบ ระหว่างวันที่ 5–6 ธันวาคม ที่ผ่านมา

โดยเติ้นประเดิมด้วยการพารถสูตรหมายเลข 23 ลงทดสอบระบบครั้งแรกในรอบ Practice เพื่อปรับตัวเข้ากับสมรรถนะของรถ F2 ก่อนเข้าสู่ช่วงคัดเลือก (Qualifying) ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายยิ่งขึ้น กดเวลาดีที่สุดได้ 1:39.701 นาที จัดอยู่ในอันดับที่ 22

การแข่งขันในรอบ Sprint Race เป็นอีกบททดสอบสำคัญของ “เติ้น ทัศนพล” ที่บังคับรถสูตรหมายเลข​ 23​ ออกตัวจากกริดที่ P22 โดยตลอดทั้ง 23 รอบ บรรยากาศในสนามถูกขับเคลื่อนด้วยเกมความเร็วที่อัดแน่นไปด้วยแรงกดดันจากนักแข่งระดับหัวแถวของโลก ที่เปิดเกมบุกอย่างดุเดือด ทุกโค้งเต็มไปด้วยจังหวะชิงพื้นที่และการต่อสู้สุดเข้มข้น ต่างต้องต่อสู้ทั้งกับคู่แข่งและกับตัวเอง​ เช่นเดียวกับนักแข่งไทย​ แม้ระยะห่างจะเพิ่มขึ้น แต่เติ้นยังคงเร่งผลักดันตัวเองอย่างเต็มที่ในทุกโค้ง พยายามสร้างโอกาสทำอันดับอย่างไม่ลดละ จนสามารถไต่อันดับขึ้นมาได้ ก่อนวิ่งเข้ารับธงหมากรุกในอันดับที่ 18 ไปในที่สุด แม้ผลลัพธ์จะยังไม่ใช่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ภาพรวมฟอร์มในวันนี้สะท้อนพัฒนาการชัดเจน ทั้งการคอนโทรลรถภายใต้แรงกดดันสูง การบริหารยาง และการรักษาเพซระยะยาว ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการยกระดับสู่ศึก F2 ในฤดูกาลหน้าอย่างแท้จริง

สิ้นสุดการแข่งขันกันที่รอบ Feature Race เมื่อ “เติ้น ทัศนพล” รวบรวมสมาธิลงสู้สมรภูมิ Yas Marina หนึ่งในแทร็กสุดโหดที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคนิคการจัดการยาง ซึ่งต้องอาศัยสมาธิสูง ความนิ่ง การคุมจังหวะ และการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ ตลอดทั้ง 33 รอบ โดย​เติ้น​ยังคงออกสตาร์ทจากกริดที่ 22 นอกจากต้องทำความเร็วเพื่อหาช่องขึ้นแซงอย่างมีชั้นเชิง​แล้ว ยังต้องใช้กลยุทธ์เอาตัวรอดจากเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้นอย่างจัง​ ก่อนเร่งเพซไล่สปีดขยับอันดับขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถทะยานทะลุกลุ่ม Top 10 สู่ตำแหน่งสูงสุดถึงอันดับที่ 8 ได้ช่วงกลางเรซ ก่อนจะต้องเดินเกมตามแผนเข้า Pit เปลี่ยนยางช่วงท้าย ส่งผลให้นักแข่งไทยตกลงมาหลายอันดับ  และจบเกมวันนี้ในอำดับที่ “17” ​ นับเป็นการทำผลงานที่น่าประทับใจสำหรับบททดสอบแรกในการก้าวเข้าสู่ศึกของจริงที่แข็งแกร่งกว่าอย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่า ที่เพิ่มทั้งความพร้อม ความมุ่งมั่น และความเข้าใจ เพื่อปูทางสู่เส้นทางนักแข่งระดับโลกในเวที FIA Formula 2 ฤดูกาลแรกของเขาปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงอย่างเป็นทางการ