DITP ปักหมุดไทยสู่ศูนย์กลางภาพยนตร์เอเชีย!  เปิดเกมรุกตลาดโลกในงาน AFM 2025 ปิดดีลทะลุกว่า 1,000 ล้าน

DITP ปักหมุดไทยสู่ศูนย์กลางภาพยนตร์เอเชีย! เปิดเกมรุกตลาดโลกในงาน AFM 2025 ปิดดีลทะลุกว่า 1,000 ล้าน

วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 11.05 น.

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลสำเร็จของการนำคณะผู้ประกอบการไทย 14 บริษัท เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าในงาน American Film Market 2025 (AFM) ระหว่างวันที่ 11–16 พฤศจิกายน 2568 ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ว่า ภารกิจในปีนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยบนเวทีโลก โดยคณะผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างผลงานโดดเด่นด้วยการเจรจาการค้าได้กว่า 304 นัดหมายภายใน 6 วัน และสร้างมูลค่าทางการค้ารวม 1,031 ล้านบาท นับเป็นผลลัพธ์ที่มีมูลค่าสูงและแสดงถึงศักยภาพของไทยในตลาดซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ระดับโลกอย่างเด่นชัด งาน AFM ซึ่งมีผู้เข้าร่วมราว 8,500 ราย จาก 80 ประเทศ และมีผู้จัดแสดงผลงานประมาณ 300 ราย จากสหรัฐอเมริกา อิตาลี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ รวมถึงหน่วยงานส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์กว่า 30 แห่ง ทำให้ได้รับความสนใจมากขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะการกลับมาจัดงานที่ลอสแอนเจลิสอีกครั้งหลังจากปีที่แล้วสลับไปจัดที่ลาสเวกัส ส่งผลให้ผู้ซื้อรายใหญ่และแพลตฟอร์มสำคัญของโลกเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ทั้งนี้ ความสำเร็จของผู้ประกอบการไทยในปีนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ศักยภาพของคอนเทนต์ไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก ทั้งด้านการขายลิขสิทธิ์ การร่วมผลิต และการบริการถ่ายทำภาพยนตร์” โดยมีดีลสำคัญ อาทิ บริษัท เฮโล โปรดักชั่นส์ จำกัด เจรจากับผู้ซื้อลิขสิทธิ์จากสิงคโปร์ที่สนใจภาพยนตร์เรื่อง Replace Me ซึ่งอยู่ระหว่าง Post-production พร้อมทั้งพบผู้ลงทุนจากสหรัฐอเมริกาที่สนใจร่วมทุนในภาพยนตร์เรื่อง พริก มูลค่า 30 ล้านบาท ขณะที่บริษัท เอ็ม ดิสทริบิวชั่น จำกัด เปิดตลาดใหม่ในรัสเซีย สหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะดีลขายภาพยนตร์เรื่อง หมู่บ้านโคกะโหลก ให้ผู้ซื้อจากฟิลิปปินส์ได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที ซึ่งเป็นตัวอย่างของความเชื่อมั่นในคอนเทนต์ไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับความสนใจสูงทั้งด้านลิขสิทธิ์และงานบริการ VFX โดยมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอินเดียสนใจซื้อเรื่อง Home Sweet Home รวมถึงบริษัทจากสหรัฐอเมริกาที่ต้องการใช้บริการ VFX สำหรับภาพยนตร์ทั้งเรื่อง นอกจากนี้ บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด ได้รับการติดต่อจากบริษัทสหรัฐฯ ที่มีแผนเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีในการต่อยอดธุรกิจบริการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศด้วย


“หนึ่งในจุดเด่นทำให้คอนเทนต์ไทยได้รับความสนใจอย่างมาก คือ ความแข็งแรงของคอนเทนต์ประเภทสยองขวัญและแอคชั่น ซึ่งเป็นแนวที่ไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ทั้งวิธีเล่าเรื่อง บรรยากาศ ผสานวัฒนธรรม ความเชื่อ และเทคนิคการสร้างความตื่นเต้นที่ไม่เหมือนใคร ประกอบกับคุณภาพการผลิตและเทคนิคพิเศษระดับมาตรฐานสากล แต่ยังคงต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ ทำให้ผู้ซื้อจากแพลตฟอร์มระดับโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ แนวโน้มตลาดสตรีมมิ่งทั่วโลกที่กำลังต้องการคอนเทนต์เอเชียที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และคอนเทนต์ไทยสามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างตรงจุด”

อธิบดีสุนันทากล่าวทิ้งท้ายว่า “DITP จะเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมคอนเทนต์และภาพยนตร์ไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการตลาดระหว่างประเทศ การพาผู้ประกอบการไปเปิดตลาดใหม่ และการผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยอาศัยจุดแข็งสำคัญของไทยทั้งด้านคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ คุณภาพการผลิตระดับโลก บุคลากรมืออาชีพ และระบบนิเวศน์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ครบวงจรและมีต้นทุนที่แข่งขันได้ เพราะการสร้างคอนเทนต์ไม่ใช่เพียงการขายผลงาน แต่คือการผลักดันอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างคุณค่า สร้างรายได้ และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งผลสำเร็จในงาน AFM ปีนี้คือหลักฐานสำคัญว่าประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์เอเชียอย่างแท้จริง”

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top