บีโอไอผนึก ‘China EV100’ ยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ซัพพลายเชน EV ระดับโลก

บีโอไอผนึก ‘China EV100’ ยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ซัพพลายเชน EV ระดับโลก

วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.50 น.

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 บีโอไอ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ นายจาง หยงเหว่ย รองประธานและเลขาธิการ สถาบันพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่ (China EV100) ซึ่งเป็นคลังสมอง (Think Tank) และเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลจีน นับเป็น MOU ฉบับแรกที่ China EV100 ลงนามกับประเทศในอาเซียน โดยมี 8 องค์กรพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ กรมสรรพสามิต สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน สถาบันยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม และหารือความร่วมมือกับ China EV100 ในครั้งนี้ด้วย

สำหรับการลงนาม MOU ระหว่างบีโอไอกับ China EV 100 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ควบคู่กับการยกระดับขีดความสามารถและเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก โดยจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทาง การจัดทำนโยบายเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน การเสริมสร้างการแข่งขันที่สมดุลและเป็นธรรม การพัฒนาบุคลากรและระบบนิเวศทั้งด้านการผลิต การจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้ว การพัฒนาระบบอัดประจุไฟฟ้าและระบบสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ การยกระดับผู้ประกอบการไทยผ่านความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการจีน การสร้างกลไกสนับสนุนการร่วมลงทุนระหว่างจีน-ไทย การจัดกิจกรรมและเวทีความร่วมมือทั้งในประเทศไทยและจีน เช่น การจัด Thailand–China EV Forum ภายในงาน SUBCON Thailand ในเดือนพฤษภาคมของทุกปี และการเข้าร่วมงาน China EV100 Forum ที่ประเทศจีน ในเดือนมีนาคมของทุกปี


“ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรฝ่ายไทยกับ China EV100 ในครั้งนี้ จะช่วยให้ไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ทั้งด้านนโยบายและวิธีการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีน อีกทั้งจะเป็นสะพานเชื่อมผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน และเป็นช่องทางสะท้อนความคิดเห็นจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้การจัดทำนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ EV มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” นายนฤตม์ กล่าว

นายจาง หยงเหว่ย รองประธานและเลขาธิการ China EV100 กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของทั้งจีนและไทย โดย China EV100 พร้อมสนับสนุนวิสัยทัศน์ของไทยในการเป็นศูนย์กลาง EV ในอาเซียน และยินดีที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการจีนให้เพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทย รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และจีนให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงไม่กลัวเรื่องการถูกลอกเลียนแบบเหมือนกิจการอื่น ๆ อีกทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกิดการผลิตที่ไทย จะช่วยลดความเสี่ยงจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วยตัวเอง และยังสามารถเพิ่มความเร็วในการผลิตออกสู่ตลาดด้วย จึงมีโอกาสสูงที่จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต จะมุ่งเน้นการพัฒนาระบบอัจฉริยะของรถยนต์มากขึ้น ก็จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเข้ามามีบทบาทพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2568 บีโอไอได้ให้การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและกิจการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 1.4 แสนล้านบาท ครอบคลุมกิจการผลิตรถยนต์ BEV 21 โครงการ เงินลงทุนรวม 40,449 ล้านบาท กิจการผลิตแบตเตอรี่ 54 โครงการ เงินลงทุนรวม 79,473 ล้านบาท กิจการผลิตชิ้นส่วนสำคัญอื่น ๆ เช่น Traction Motor, BMS DCU, Inverter, On-board Charger 45 โครงการ เงินลงทุนรวม 10,002 ล้านบาท กิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 32 โครงการ เงินลงทุนรวม 6,066 ล้านบาท

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top