นางสุภาพร สุขมาก รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้ร่วมหารือกับร้านค้า TOPTHAIบนแพลตฟอร์มพันธมิตร Tmall ในกิจกรรม “Openhouse & Sourcing Forum” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Live Commerce ผ่าน Influencer เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าไทย (สาธารณรัฐประชาชนจีน) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568  ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก เกี่ยวกับมาตรการเชิงรุก เพื่อผลักดันสินค้าไทยสู่ตลาดจีน โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้

โดยกรมได้เชิญแพลตฟอร์มพันธมิตร Tmall มาให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์มและจับคู่ธุรกิจ พร้อมได้รับเกียรติจากนายสกรรจ์ แสนโสภา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และนายวุฒิศักดิ์ กาญจนาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล มาให้ความรู้เกี่ยวกับการค้า เทรนด์ตลาด  ช่องทางการตลาดออนไลน์ในจีน และข้อมูลร้าน TOPTHAI เพื่อเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการขยายช่องทางการตลาดในยุคดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการในการจำหน่ายสินค้าไทยไปยังตลาดจีนผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งงานดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีผู้สนใจเข้าร่วมการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 30 คู่ อีกทั้งจะเป็นการยกระดับสินค้าไทยบนตลาดออนไลน์ สร้างความมั่นใจ ต่อยอดสินค้าไทยที่มีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT , TTM (Thailand Trust Mart) , PM Awards ให้มีโอกาสในตลาดจีน

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าว กรมได้มุ่งเน้นผลักดัน แบรนด์สินค้าไทยที่มีคุณภาพของไทย ให้สามารถขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์สู่ตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้กลไกการ Live Commerce ร่วมกับ KOL ในตลาดจีน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภค สร้างความน่าเชื่อถือ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจีน ในช่วงวันที่ 15 – 25  มกราคม 2569 ควบคู่กับการรักษากระแสการยอมรับสินค้าไทย และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สินค้าไทยในตลาดจีน การกระตุ้นการส่งออก และการสร้างรายได้เข้าประเทศ ภายใต้นโยบายของกระทรวงพาณิชย์

ปัจจุบัน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีความร่วมมือกับพันธมิตรอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์มชั้นนำ ใน 9 ตลาดทั่วโลก อาทิ Tmall, Bigbasket, Klangthai, Shopee, Rakuten, LetsTango และ Amazon เพื่อเปิดตลาดต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย ภายใต้โครงการ “TOPTHAI” หรือ “ร้านค้าปลีกออนไลน์ของกรมฯ” ซึ่งนับเป็นก้าวใหม่ที่ช่วยลดอุปสรรคการส่งออก และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดโลก และดำเนินโครงการดังกล่าวเข้าสู่ปีที่ 5มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกว่า 2,400 แบรนด์ สร้างมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท

-031