nn ทันทีที่ คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง...ออกมาตีปี๊บเรื่อง “หวยเกษียณ”....ซึ่งในข้อเท็จจริงทำได้หรือไม่ได้หรือจะทำอย่างไรไม่รู้เพราะต้องรอไปอีก 6 เดือนถึง 1 ปีเพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม...แต่ที่น่าจะสำเร็จไปหนึ่งเรื่อง...คือทำให้“เป็นข่าว”ได้แล้วในสื่อหลายสำนักหลายแพลตฟอร์ม...มีการหยิบเอาประเด็นนี้มาพูดถึงกันต่อเนื่อง 2-3 วัน...!! แต่ประเด็นที่นำมาถกกันโดยสื่อหลายสำนักได้ขอความเห็นจากนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์หลายท่าน...ก็ล้วนแต่ตามมาหลากหลายคำถามกับโครงการนี้...เช่นว่า..เป็นการกระตุ้นการออมจริงไหม..เพราะยังไม่เห็นว่าเงินที่ประชาชนนำมาออมผ่านโครงการนี้ สุดท้ายแล้วเงินที่ผู้ออมจะได้รับหลังครบอายุเกษียณนั้นเงินที่ได้มาจะมีค่ามากกว่าเงินเฟ้อหรือเปล่า???...เงินที่ได้มาจากการออมจะเพียงพอกับที่จะเอาไปหาประโยชน์จากการลงทุนเพื่อตอบแทนผู้ออมที่ได้รับรางวัลไหม (เดือนละ 60 ล้านบาท)...ใครจะเป็นผู้บริหารกองทุนที่ว่านี้แล้วการันตีได้ไหมว่าจะไม่เกิดความเสียหาย...ใครการันตีว่าเงินออมเหล่านั้นจะไม่เสียหายหากบริหารผิดพลาด แล้วหากผิดพลาดใครรับผิดชอบแค่ไหนอย่างไร...???...!! ณ เวลานี้ก็จะมีคำถามประมาณนี้เพราะต้องรอดูว่ารายละเอียดสุดท้ายที่ตกผลึกแล้วจะออกมายังไง...ถึงวันนี้ค่อยมาว่ากันใหม่...แวดวงการเงิน...เชื่อว่าคงมีเครื่องหมายคำถามอีกเยอะกับโครงการนี้...
nn ช่วงนี้กระทรวงการคลัง...ในยุคของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ชื่อ พิชัย ชุณหวชิร...คงเป็นที่สนใจของสังคมไปอีกนานเพราะแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นที่กระทรวงนี้สำคัญต่อประเทศชาติโดยรวม...สำหรับ...แวดวงการเงิน...เรื่องใหญ่ที่สุดคือการใช้เงินงบประมาณในการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจ...ซึ่งเรื่องใหญ่ที่ผ่านไปไม่นานนี้...คือการปรับแผนการคลังระยะปานกลาง (ปี2568-2571) จุดที่น่าสนใจคือการกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มทุกปีปีละกว่า 1 แสนล้านบาท จากฐานปีงบ 2567 ที่ 3.6 ล้านบาท....แต่รัฐบาลกำหนดกรอบการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 2.5-3% เท่านั้นเอง...คำถามสำคัญคือเงินงบประมาณที่เพิ่มขึ้น...เอาไปใช้อะไรทำไมถึงไม่ได้ก่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่านี้ระดับ 2.5-3% (ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าศักยภาพของเศรษฐกิจไทย)...!!แล้วตัวเลขการขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้นทุกปีเพราะประมาณการรายได้ต่ำกว่ากรอบงบประมาณรายจ่ายนั้น...จะทำอย่างไรให้ยอดหนี้สาธารณะไม่พุ่งชนเพดาน 70% ต่อ จีดีพี...เร็วเกินไปนัก..(อันนี้ไม่ต้องถามหาว่าจะลดหนี้สาธารณะได้เมื่อใด)...ผู้รู้หลายท่านก็บอกว่ากรอบเงินประมาณรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปีจะไหลไปที่ 2 ก้อนใหญ่...งบรายจ่ายประจำ และชำระภาระดอกเบี้ยเงินของรัฐบาล...ดังนั้นสัดส่วนงบลงทุนจึงไม่มีมากพอที่จะช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้มากนัก...!! คำถามสำคัญคือ...นี่จะเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่สำหรับประเทศไทยใช่หรือไม่???...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี