** การบ้านกองโตที่คอยต้อนรับ...คุณพรชัย ฐีระเวช ว่าที่อธิบดีกรมสรรพสามิต คนใหม่อยู่เวลานี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องที่...ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 กรมสรรพสามิต...จัดเก็บรายได้ 446,728 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าถึง 56,260 ล้านบาท หรือ 11.2%…ซึ่งก็ด้วยปัจจัยแวดล้อมด้านลบหลายอย่างเข้ามากระทบ...เช่น ภาษีรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)…ยอดขายรถยนต์ในประเทศก็ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีมีจำนวนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้...รวมทั้งภาษีบุหรี่ที่ลดลงอันเนื่องมากยอดขายบุหรี่ถูกกฎหมายลดลงอย่างน่าใจหาย...อย่างน้อยๆก็ประมาณ 25% เนื่องจากถูก “บุหรี่เถื่อน”เข้ามาแย่งตลาด...แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไขเรื่องนี้นะ...ยังพอมีช่องทางที่จะเพิ่มรายได้จากภาษีสินค้าบางตัวที่อยู่ในพิกัดของสรรพสามิตได้อยู่...เว้นรถยนต์ ซึ่งคงลำบากหน่อยถ้าเศรษฐกิจแย่แบบนี้...ภาษีน้ำมัน...ก็คงไม่โดนหั่น เพราะราคาน้ำมันอยู่ในช่วงทรงตัวในระดับต่ำ บางช่วงก็ลดลงด้วยซ้ำไป...ทีนี้หันซ้ายหันขวาก็คงจะมีภาษีสุราและภาษีเบียร์...ที่ยังมีช่องให้ขึ้นได้อยู่ เพราะอัตราที่เก็บยังไม่เต็มเพดาน(ถ้ากล้าหาญพอนะ)...!! จริงๆเรื่องเหล้าเรื่องเบียร์...ขึ้นภาษีไปเถอะ สังคมเขาไม่ว่าหรอกครับ...มันสินค้าทำลายสุขภาพอยู่แล้ว...และคนที่รวยอยู่ตอนนี้ก็บรรดา “เจ้าสัว”เพียงแค่ 2-3 กลุ่มเท่านั้น...หากกลัวว่าประชาชนคนไทยจะไม่มีทางเลือก...ก็อยากจะบอกว่าคนไทยที่อยากเมา ชอบเมา...ก็ยังหันไปหา “สุราชุมชน” ได้อยู่...หรือคนชอบเบียร์...ก็ยังมีเบียร์คร๊าฟของคนไทยรสชาติดีๆอีกเป็นร้อย...ลองไปคิดหามาตรการช่วยผู้ผลิตเหล่านี้ให้เขาต้นทุนลดลง...ให้สามารถสู้กับเบียร์แบรนด์ใหญ่ของค่ายสิงห์ ค่ายช้าง..ได้บ้าง อันนี้ก็ได้ของแถมเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยตัวเล็กๆได้อีกด้วย...อ้อ..เกือบลืมเรื่องสุราชุมชน...มีหลายร้อยรายเลยที่มีศักยภาพพอที่จะอัพเกรดสุราขาวของพวกเขาขึ้นเป็นสุราสีหรือบรั่นดีได้เลย...เพียงแต่ตอนนี้กฎหมายและกฎระเบียบของกรมสรรพสามิต...กดทับไว้...ปลดล็อกให้พวกเขาเสียเถอะ...นอกจากจะช่วยผู้ประกอบการไทยได้แล้ว...กรมสรรพสามิต...เองก็ยังจะเก็บภาษีได้อีกด้วยนะ...อีกปมหนึ่งคือเรื่องภาษีบุหรี่...แวดวงการเงิน เชื่อว่าคุณพรชัยรู้ดีว่าควรต้องทำอย่างไรโดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างภาษีที่ใช้อยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้บุหรี่เถื่อนเติบโตอย่างก้าวกระโดด...!! อันที่จริงประเด็นเหล่านี้...แวดวงการเงิน...ก็เคยพุดคุยกับ รมช.คลังถึง 2 คน ที่สลับเข้ามากำกับกรรมสรรพสามิต...ทั้ง คุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และคุณเผ่าภูมิ โรจน์สกุล...ซึ่งทุกครั้งก็จะได้รับคำตอบว่าจะรับไปพิจารณา...แต่สุดท้ายผ่านมา 2 ปีกว่า จนทั้ง 2 ท่านพ้นจากตำแหน่ง ก็ยังไม่ได้ทำ...ก็หวังว่า “เสนาบดีคลัง”...ในครม.อนุทิน...คงจะกล้าหาญพอที่จะตัดสินเรื่องพวกนี้เสียทีนะ...**  

**อนันตเดช พงษ์พันธุ์**