** พื้นฐานของประเทศไทยคือประเทศเกษตรกรรม...และมีข้อได้เปรียบกว่าทุกชาติในโลกตรงที่เรามีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก...ปู่ย่าตายยายของเราทำเกษตรมามากว่า 500 ปี...แต่ทำไมทุกวันนี้เกษตรกรของไทยจึงเป็นกลุ่มคนที่จนที่สุดในประเทศ ยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำ ยิ่งเป็นหนี้ เว้นแต่กลุ่มทุนสินค้าเกษตรที่เป็นหนึ่งเดียวที่รวยและรวยติดอันดับต้นๆของประเทศ...คำตอบทุกคนรู้อยู่ว่า ภาคเกษตรของไทยเน้นแต่ขายสินค้าขั้นปฐมภูมิ คือปลูกได้แบบไหนก็ขายแบบนั้น...ต้นทุนการผลิตสูง แต่ผลผลิตต่อไร่ต่ำ...ซ้ำไม่มีความแน่นอนเรื่องราคาผลผลิต...ไหนจะเจอภัยพิบัติที่ทำให้ผลผลิตเสียหาย ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาซ้ำซากทุกปีและต่อเนื่องหลายสิบปี...และตอนนี้ภาคเกษตรของไทยกำลังเจอปัญหาใหม่...นั่นคือแรงงานภาคการเกษตรกำลังลดลงต่อเนื่อง เพราะคนรุ่นใหม่ แม้แต่ลูกหลานของเกษตรกรก็ไม่อยากจะอยู่ในภาคเกษตรอีกต่อไปแล้ว...!!

แต่วันนี้...แวดวงการเงิน...มีอะไรจะมาเล่าให้ฟังครับ...เรื่องของเรื่องคือปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น...มีผู้เริ่มจุดประกายที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นแล้วครับ...ไม่ใช่ใครที่ไหน...คุณฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เองครับ...ช่วงเวลากว่า 2 ปีมานี้...แวดวงการเงิน...ได้เห็นเขาได้ริเริ่มแก้ปัญหาให้ภาคการเกษตรในหลายจุด...เช่นเรื่องการพัฒนาคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการให้การสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อลดต้นทุนและยกระดับคุณภาพของสินค้า...ด้วยโครงการสินเชื่อเพื่อเกษตรกรรุ่นใหม่ (New Gen & Young Smart Farmer)…สร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มอำนาจต่อรองให้เกษตรกร ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรมารวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนการเกษตร...หาพื้นที่ทางการตลาดให้เกษตรกรนำสินค้ามาจำหน่ายโดยตรงกับผู้บริโภคในหลากหลายอีเว้นท์ ที่เห็นประจำๆก็ตลาดนัดที่สำนักงานใหญ่ของ ธ.ก.ส.เอง...ส่วนปัญหาเรื่องจำนวนแรงงานในภาคเกษตรที่ดลลง..คุณฉัตรชัย ก็ได้ริเริ่มโครงการสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์: ดึงคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยเกษียณกลับสู่ภาคการเกษตร ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับสินค้าเกษตรสู่ตลาดมูลค่าสูง…ซึ่งถึงวันนี้ ก็ก็สามารถสร้างเกษตรกรรายใหม่จากโครงการนี้ได้แล้วกว่า 1 พันราย...

และในวันนี้ ธ.ก.ส.ได้จับสินค้าเกษตรของลูกค้ามาแต่งตัวใหม่...อัพเกรดผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้นหลายรายการ...และไปไกลถึงขั้นมีแผนจะหาผู้ร่วมทุนมาสร้างโรงงานแปรรูปสินค้าให้กับลูกค้าของ ธ.ก.ส.เองด้วย...เพราะตอนนี้ไปจ้างโรงงานอื่นทำ OEM ให้ ต้นทุนมันแพง...แวดวงการเงิน...คิดว่า ธ.ก.ส.มาถูกทางแล้วนะ...หวังว่า...ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง...ในฐานะประธานบอร์ด ธ.ก.ส.โดยตำแหน่ง...จะสนับสนุนแนวทางนี้ต่อไป...และเป็นแรงขับ ดันให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการแนวทางนี้อย่างเข้มข้นต่อไปในอนาคต...**

** อนันตเดช พงษ์พันธุ์ **