ช่วงนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ซึ่งเป็นจำเลยในคดีพิษโครงการรับจำนำข้าวออกมาเคลื่อนไหวสร้างภาพชิงพื้นที่ข่าวอย่างต่อเนื่องเหมือนต้องการโชว์พลังข่มคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และรัฐบาลนายกฯลุงตู่ โดยอดีตนายกฯหุ่นเชิดจัดงานวันเกิดครบรอบ 48 ปีที่วัดแสนสุข ย่านมีนบุรี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีบรรดาอดีตรัฐมนตรี อดีตสส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงมาร่วมอวยพรวันเกิดกันอย่างคับคั่งแต่นัยแอบแฝงก็คือโชว์พลังขบวนการเพื่อแม้ว

แต่ความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาก็คือการออกมาประกาศกร้าวของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง ที่นอกจากจะอวยอดีตนายกฯหุ่นเชิดน้องสาวนายใหญ่จนเลิศลอยด้วยการระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีอนาคตอีกยาวไกลแล้ว ที่สำคัญ นายจตุพรยังส่งสัญญาณอย่างมีนัยทางการเมืองก็คือคำประกาศกร้าวที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีทางติดคุกแน่นอน “และจะไม่มีคุกไหนที่จะรับคนชื่อยิ่งลักษณ์ได้เพราะไม่แข็งแรงพอจนคุกแตกอย่างแน่นอนเนื่องจากประชาชนไม่มีทางยอม”

การใช้พลังม็อบเสื้อแดงข่มขู่กดดันเป็นวิธีการถ่อยดิบเถื่อนที่ขบวนการเพื่อแม้วถนัดและใช้ข่มขู่ศาล องค์กรอิสระหรือฝ่ายตรงข้ามมาตลอดในอดีตที่ผ่านมา และชั่วร้ายถึงขั้นใช้ม็อบสร้างสถานการณ์ก่อจลาจลคู่ขนานกับกองกำลังก่อการร้ายใต้ดินเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ ดังเช่น เหตุการณ์ม็อบเสื้อแดงก่อจลาจลทั่วกทม.วางแผนจุดไฟรถบรรทุกแก๊สให้ระเบิดทั่วกรุง รวมทั้งบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2552 หวังล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองโดยกองกำลังก่อการร้ายชุดดำในปี 2553

ท่าทีของ นายจตุพร จึงสะท้อนธาตุแท้ขบวนการเพื่อแม้วที่ยึดหลักกูเป็นใหญ่พร้อมทำสิ่งชั่วร้ายได้ทุกอย่างแม้แต่การจาบจ้วงเบื้องสูงและบ่อนทำลายชาติเพื่อตัวเองโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้น และเหิมเกริมถึงกับส่อเจตนาข่มขู่แม้กระทั่งศาลสถิตยุติธรรม

โครงการรับจำนำข้าวนั้นมีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายล่มจมให้ชาติบ้านเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งการดำเนินคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกซึ่งเป็นเครือข่ายคนใกล้ชิดตระกูลชินเพราะความผิดชัดเจนหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้ร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบจนยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลได้พิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่ามีมูลจึงรับคำฟ้องไว้พิจารณา

การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังจะเข้าตาจนถึงขั้นมีแนวโน้มต้องติดคุกและชดใช้ค่าเสียหายแก่แผ่นดินมูลค่าหลายแสนล้านบาท เป็นเหมือนหนามยอกอกที่ถึงอย่างไรนักโทษชายย่อมไม่ยอมให้น้องสาวตัวเองต้องติดคุกอย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้นจากนี้ไปเชื่อว่าเครือข่ายเพื่อแม้วทั้งบนดินและใต้ดินคงรอคอยโอกาสป่วนเมืองเข้มข้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่นายจตุพรเคยประกาศว่าถ้าข้าอยู่ไม่ได้พวกเองก็อย่าหวังอยู่กันอย่างสงบสุขอีกเลย

ทีมข่าวการเมือง