กำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลายออกไปทุกขณะกรณีทีวี.เพื่อคุณช่อง 3 ช็อกคนดูสั่งแบนละคร”เหนือเมฆ 2”ตอนอวสานอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยท่ามกลางกระแสข่าวเป็นใบสั่งจากฝ่ายการเมืองที่ไม่พอใจเนื้อหาของละครที่แทงใจดำเพราะสะท้อนให้เห็นถึงความชั่วร้ายของนักการเมืองกังฉินที่คอร์รัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวง

ละคร”เหนือเมฆ2” ถือเป็นละครน้ำดีฟอร์มใหญ่ที่มีดารามืออาชีพร่วมแสดงอย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็น ฉัตรชัย เปล่งพานิช สินจัย เปล่งพานิช นพพล โกมารชุน เกรียงไกร อุณหะนันท์ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง  โดยเนื้อหาของละครเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเน่าเฟะเหลวแหลกในแวดวงการเมืองที่เต็มไปด้วยการคดโกงทุจริตคอร์รัปชั่น และความกระหายอำนาจ  การต่อสู้ระหว่างความดีความชั่ว ซึ่งผู้กำกับภาพยนตร์และนักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์หลายต่อหลายคนออกมาให้ความเห็นว่า เนื้อหาของละคร”เหนือเมฆ2”สะท้อนความเป็นไปในสังคมที่ไม่ได้มีอะไรที่เสียหาย กลับให้แง่คิดเชิงสร้างสรรค์ทำให้คนไทยหันมาตื่นตัวสนใจปัญหาการเมืองซึ่งผูกพันเกี่ยวข้องกับพลเมืองของประเทศทุกคน จึงเป็นเรื่องน้ำดีที่มีประโยชน์ด้วยซ้ำ ต่างจากละครน้ำเน่าที่มีให้เห็นอย่างดาษดื่น แต่น่าแปลกใจที่ละครดีๆ ที่นานๆ ครั้งจะมีให้ชมกลับถูกสั่งถอดรายการเอาดื้อๆ ทั้งๆที่กำลังจะถึงตอนอวสานอยู่แล้ว

ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อ้างเหตุผลที่หักดิบแบน”เหนือเมฆ2”ตอนจบด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรงถึงขั้นกระทบความมั่นคงของประเทศซึ่งขัดกับมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์

หลังกรณีหักดิบแบน”เหนือเมฆ2”ลุกลามบานปลายจนมีเสียงก่นด่าทั่วเมืองว่าช่อง 3 ยอมเป็นทาสรับใช้อำนาจทางการเมืองทำให้ นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลสื่อของรัฐ รีบออกมาปฏิเสธพัลวันว่ารัฐบาลไม่ได้สั่งให้แบน “เหนือเมฆ2” แต่คำชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลกลับถูกตั้งข้อสังเกตว่าเหมือนเป็นการร้อนตัว

การที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การหักดิบแบน “เหนือเมฆ2” เป็นใบสั่งจากฝ่ายการเมือง ก็ด้วยพฤติกรรมของรัฐบาลหุ่นเชิดทักษิณชุดนี้รวมทั้งพฤติการณ์ของระบอบทักษิณในอดีตมันทำให้สังคมเชื่อเช่นนั้น เพราะมักใช้อำนาจและเงินทำทุกอย่างเพื่อผูกขาดอำนาจและบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองต้องการโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งการแทรกแซง ครอบงำ และคุกคามสื่อที่ไม่ยอมสยบเป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณ

ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คุมอำนาจนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศเคยใช้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) คุกคามการทำหน้าที่ของสื่อ รวมทั้งองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) หรือนักการเมืองที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ระบอบทักษิณมาแล้ว ขณะที่ยุคหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเคยพยายามผูกขาดอำนาจครอบงำสื่อด้วยการซื้อกิจการของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเพื่อใช้เป็นกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อ ขณะเดียวกันก็มีการใช้เงินหรือผลประโยชน์รูปแบบต่างๆ พยายามซื้อคนทำสื่อที่ยอมขายตัวเป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณ ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการตรวจสอบด้านจริยธรรมสื่อของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยก็เคยตรวจสอบพบเบาะแสคนของพรรคเพื่อไทยส่อเจตนาซื้อคนทำสื่อสำนักต่างๆ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว

พฤติกรรมพยายามแทรกแซง ครอบงำและคุกคามสื่อยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลหุ่นเชิดทักษิณเพราะฉะนั้นอดีตจึงฟ้องปัจจุบันและอาจไม่น่าแปลกใจกับเหตุการณ์หักดิบแบน”เหนือเมฆ2” เพราะสันดอนแก้ได้ แต่สันดานแก้ยาก ขณะเดียวกันก็คงต้องจับตาดูบทบาทของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นนี้อย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ หรือจะเป็นแค่เสือกระดาษที่นั่งกินเงินเดือนสูงลิบไม่คุ้มค่ากับภาษีของประชาชน

ทีมข่าวการเมือง