สวัสดีค่ะ ชื่อ บุศ  บุศย์สิริ  รัตนาไพศาลสุข ตอนนี้เรียนจบแล้ว เกียรตินิยมอันดับ 1 จิตวิทยา จุฬาฯ ค่ะ  อายุ  (ยิ้ม)  ตอนนี้ก็ 24 แล้ว

ผลงานที่ผ่านมา

ก็มีละครเรื่อง ค่ะ รับบทเป็น ดารกา  และก็ละครเรื่อง ลูกทาส รับบทเป็น คุณแดง น้องสาวพี่หนุ่มศรราม และก็ดารารับเชิญละคร รากบุญ2 รับบทเป็นพยาบาลชื่อ จินดา และมีละครเวทีเรื่อง “วันดี คืนดี” ตอนนี้ก็กำลังซุ่มซ้อมกันอยู่  และล่าสุดก็กำลังถ่ายละครเรื่อง “สี่หล่อ ขอสืบ” ซึ่งก็รับบทเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกเลยคะ

จริงๆ ชอบการแสดงนะคะ เพราะพี่สาวก็เป็นนักแสดงเห็นตั้งแต่เด้กๆ พี่วุ้นเส้นคะ เป็นลูกพี่ลูกน้องเป็นญาติกับบุศ ก็มีปรึกษาพี่บ้างเขาก็ เอออๆๆ .. ให้เรียนจบก่อนค่อยทำ จะได้มีเวลา เพราะถ้าทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยมันจะหนักไป รอให้เรียนจบก่อน

ครั้งแรกกับวงการบันเทิง

บุศเคยไปประกวดกับโครงการหนึ่งคะ ได้อันดับที่ 2 และเวทีนั้นก็มีกรรมการที่เป็นผู้จัดเป็นกรรมการด้วย หนึ่งในนั้นก็มีพี่แดง ซึ่งพี่เขาก็เรียกเราเข้าไปแคสดู ก็ไม่ผ่านค่ะ แต่ก็ได้มาเล่นล่นละครเรื่อง “เวียงร้อยดาว” เรื่องแรก  รับบทเป็นดารกาจะออกแนวโลกจิตๆ หน่อย

เรื่องแรกละคร “เวียงร้อยดาว” รับบทหนักมาก รับบทเป็น ดารกา เป็นลูกของภรรยาคนที่สอง เป็นเด็กเก็บกด โรคจิต พ่อแม่ไม่รัก อยู่ที่บ้านก็มีแต่ญาติพี่น้องกันแย้งสมบัติไม่มีความสุข และเราก็อดทนอยู่เพราะแอบชอบ ปรมัตถ์  (ท็อป จรณ) ซึ่งลูกของทนายประจำตระกูล

เรื่องที่สอง “ลูกทาส” ก็แสดงเป็นน้องสาวของพี่ศรราม รับบทเป็น “คุณแดง” ซึ่งเกร็งมากเพราะบุศเห็นพี่เขาเล่นละครมาตั้งแต่เรายังเด็ก ก็แอบตื่นเต้นด้วยนะ (หัวเราะ)  ซึ่งพี่เขาน่ารักมากพยายามเข้ามาแนะนำมาซ้อมบทกับเรามันก็ทำให้เราผ่อนคลายลงบ้าง

เรื่องที่สาม ก็ละคร “รากบุญ”  รับบทเป็น จินดา จินดาจะเป็นที่ไม่โลภไม่อะไรเลย คือบ้านรวยมาก คุณพ่อรวยแต่เราก็ไม่เคยรู้จักว่าใครเป็นพ่อเราไม่เคยเจอกันมาก่อน เราก็อยากเข้าไปดูแลท่าน แต่ญาติพี่น้องก็คอยแต่จะแย้งสมบัติกัน เรื่องนี้ดราม่ามากคะ (ยิ้ม)

มีเขินบ้างใหม่ เพราะบุศเป็นเด็กใหม่

ต้องปรับต้องจูนเยอะมากเพราะเป็นเรื่องแรกด้วย ก็ได้พี่ๆ ในกอง ผู้กำกับคอยแนะนำคอยสอนค่ะ จะบอกว่าพี่ๆ ในกองละครเป็นอะไรที่น่ารักมากค่ะ  ซึ่งเราก็ขอคำแนะนำจากพี่ๆ ในกองด้วย

ได้ยินว่าเริ่มท้อ

ท้อมากกกก ... ค่ะ เพราะบุศไม่รู้เรื่องอะไรเลยทั้ง บล็อกกิ้ง มุมกล้อง ทั้งอะไรต่อมิอะไร กล้อง 3 ตัว ไม่รู้จะหันไปมุมไหน เครียดมากคะ แต่ก็อย่างที่บอก พี่ๆ ในกองน่ารักทุกคนคอยแนะนำและสอนเราตลอดเวลา ทำให้ผ่านมาได้ค่ะ

วิธีเข้าถึงตัวละคร

ต้องทำการบ้านต้องอ่านให้เข้าใจว่าตัวละครตัวนี้คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงคิดแบบนั้น จุดประสงค์ที่จะเข้าไปในซีนนั้นจะเข้าไปทำอะไร จะพูดเพราะอะไร ต้องการอะไร เราต้องเข้าใจความคิดของตัวละครก่อนเราถึงจะแสดงออกมาได้ค่ะ ถ้าเราเข้าใจบทยาวๆ แบบนี้เนี่ยเราก็ไม่จำเป็นต้องพุดเปะทุกประโยคก็ได้  ที่สำคัญนะคะบุศจะอ่านทั้งเรื่องเลยนะเพื่อทำความเข้าใจ ไม่ใช่ซีนไหนของเราจะอ่านแต่ของตัวเองไม่ได้ ต้องทำความเข้าใจกับตัวละครทุกตัว อารมณ์มันถึงจะต่อเนื่อง และที่สำคัญมากๆ คือ จะได้เม้ากับพี่ๆ ในกองได้ค่ะ (หัวเราะ)

พูดถึงละครเวทีเรื่อง “วันดี คืนดี”

เป็นละครเวทีที่ร่วมกับมูลนิธิโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์  ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับครอบครัว เป็นเรื่อวราวของคนกรุงเทพฯ ที่กำลังจะมีรถไฟฟ้าใช้ ช่วงนั้นเศรษฐกิจก็กำลังพัฒนา แต่คนในครอบครัวก็จะหัวโบราณหน่อยก็อยากให้ลุกรับราชการอย่างเดียวเลย ละครเวทีเรื่องนี้จะสื่อให้เห็นการใช้ชีวิตของครอบครัวหนึ่งซึ่งหลักการแนวคิดนั้นคนละอย่างกันเลย คุณตาคิดอีกอย่าง คุณพ่อ/แม่ คิดอีกอย่างลูกก็เป็นอีกแบบนึง ก็จะค้านกันอยู่แบบนี้คะ ซึ่งในสังคมเราความเป็นจริงแล้วมันก็เป็นแบบนั้น  และเรื่องนี้จะสื่อให้เห็นแง่มุมบางอย่างของครอบครัวในสังคมนั้นๆ และละครเวทีเรื่องนี้ยังสอนให้หลายๆ ครอบครัวให้เข้าใจซึ่งกันและกัน ษุศว่ามันเป็นละครเวทีน้ำดีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ทุกคนมาดูกันค่ะ

อย่าลืมไปดูกันเยอะๆ นะคะ ขายบัตรแล้วที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์   ทุกสาขา ฉายจริง 12 รอบ ช่วงเดือนตุลาคมค่ะ  ที่โรงละคร เอ็ม เธียเตอร์ค่ะ

ละครสี่หล่อ ขอสืบ

สี่หล่อ ขอสืบ คาแร็คเตอร์ในละครเรื่องนี้ไกล้ตัวเองมากคะ ดีใจ(ยิ้ม) รับบทเป็นนักข่าว ชื่อ วาริน ออกกวนๆ จะคอยกัดกับพระเอกตลอด เพราะเราต้องตามพระเอกตามข่าวเพราะเก๊งพระเอกเปิดบริษัท สี่หล่อ ขอสืบ ในเรื่อง บก. ก็คอยสั่งให้เราไปจับผิดตลอดแต่เราก็ไม่อยากจะทำ

เล่นทำเอาพระเอกปากแตก

(หัวเราะ) ออกตัวก่อนว่าหนูไมได้แค้นอะไรกับพระเอกเป็นการส่วนตัวเลยนะคะ  พึ่งร่วมงานกันเป็นเรื่องแรกด้วย ทำพระเอกปากแตก คือแตกจริงๆนะคะ ก็ในเรื่อง เขาต้องใส่ชุดหมี ก็หารายได้พิเศษเพราะบริษัทไกล้จะเจ๊ง ก็รับจ็อบพิเศษตามงานแจกขนมเด็กๆ  และเขาก็ช่วยคนแก่ที่เป็นลมด้วย ไอ้เราก็เป็นนักข่าวพอเห็นแบบนี้ก็อยากรู้ว่าเป็นใครอยากไปสัมภาษณ์ อยากทำสกุ๊ฟแต่เขาก็ไม่ยอมถอดชุดออก เพราะพระเอกรู้ว่าเคยมีเรื่องกับเรามาก่อน  พอเห็นแบบนั้นเราก็วิ่งเข้าไปจะถอดชุดดึงหัวออก ปกติเราต้องดึงขึ้นใช่ไหมค่ะ แต่บุศกระชากจากข้างหลัง สงใสปากคงไปโนโครงเหล็กข้างใน ทำเอาพระเอกปากเจ่อไปเลยคะ (หัวเราะ)

 แอบสะใจเล็กๆ

มันคือบบทบาทคะ อินเนอร์ล้วนๆ (หัวเราะ)

คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนแค่ไหน

ท่านก็สนับสนุนนะคะ คอยถามเราตลอดว่างานเป็นไงบ้างโอเคไหม 

เรื่องเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

จริงๆ แล้วบุศก็แอบเสียดายนะ อยากใช้วิชาที่เราเรียนมาแต่ก็ไม่อยากจับปลาสองมือ อยากทำงานไปทีละชิ้นทีละอย่าง กลัวมันจะไม่ดีสักอย่าง สำหรับบุศ พอเราได้รับโอกาสในเรื่องของการแสดงเราก็อยากทำให้มันออกมาดีที่สุด บุศคิดว่าการศึกษาเราสามารถเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต

ไอดอลของฉัน

บุศชอบพี่แอน ทองประสม บุศชอบดูพี่แอนแสดงละคร เพราะพี่เขาเล่นได้ละเอียดแล้วก็สื่ออารมณ์ของตัวละครออกมาได้ชัด และพี่เขาแสดงออกทางอารมณ์เก่งมาก สามารถเป็น Case Study ได้เลยนะ (หัวเราะ)  ไม่ว่าจะเป็นการวางตัว การเข้าสังคมถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆ

เคยพูดคุยกันหรือยัง

ไม่เคยยยยย .... เขิน (ยิ้ม)  แต่เคยแบบ  “ขอถ่ายรูปหน่อยคะ”   อะไรแบบนี้

อยากเรียนรู้อะไรจากพี่แอน

อยากให้พี่เขาสอนเรื่องการแสดง ทำอย่างไรเราจะได้เก่งเหมือนพี่เขา 

วางแผนอนาคตใว้อย่างไร

บุศอยากทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนและยังไม่ได้ตั้งเป้าว่าเราจะต้องอยู่ในระดับไหน อยากแข่งกับตัวเอง เราทำงานให้ดีขึ้นในทุกๆ ครั้งที่เราได้รับมอบหมายมา ไม่อยากตั้งความหวัง เพราะการตั้งความหวังใว้มากๆ เวลาไม่ได้อย่างที่คิดเราก็ผิดหวัง ฉะนั้นทำให้ดีทีสุดดีกว่า  หลังจากนั้นได้น้อยได้มากค่อยมาว่ากัน ดีกว่ายังไม่ได้ทำ

และสุดท้ายก็ฝากติดตามบุศด้วยนะคะ เร็วๆ นี้กับละคร “สี่หล่อ ขอสืบ” ตอนนี้ก็ถ่ายทำไปได้ 60 เปอร์เซนต์แล้ว และละครเวที เรื่อง “วันดี คืนดี”  ฉายเดือนหน้านี้แล้วถ้ายังไม่มีบัตรก็จองได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์   ทุกสาขา  อย่าลืมเข้าไปติดตามและพูดคุยกับบุศได้ที่  Instragram @BUTR นะคะ ขอบคุณค่ะ

เจฟฟฺ @jjiradt