‘วุฒิ-นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์’แอ๊กชั่นสตาร์ดาวรุ่ง
ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์‘เร็วทะลุเร็ว’
สวัสดีครับ ผม วุฒิ-นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์ เรียกสั้นๆ ว่า วุฒิ ก็ได้ครับ เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี ครับ เหน่อได้นะ (ทำเสียงเหน่อ)
เข้ามาเป็นนักแสดงได้อย่างไร
เริ่มแรกเลยผมได้ไปแข่งมวยที่จังหวัดราชบุรี เป็นมวยไทยโบราณครับ ก็ได้แชมป์จากเวทีนั้นมา ตอนนั้น วุฒิอายุ 9 ขวบเองนะ คือทางทีมงานอาพันนาก็คงเห็นว่าเรามีแววด้าน บู๊ แอ๊กชั่น ก็ได้มาติดต่อกับทาง คุณพ่อ-คุณแม่ วุฒิ จากนั้นมีปรึกษากับพ่อ-แม่ว่าจะยังไงดี วุฒิก็เลยตัดสินใจเข้ามาแคสติ้งดู หลังจากนั้นก็ได้ฝึกซ้อมเรื่อยๆ เกือบ 10 ปีได้ครับ ก็ย้ายจากสุพรรณบุรีเข้ามาที่กรุงเทพฯ เลย
เหมือนเคยเห็น วุฒิ แสดงหนังเรื่องอะไร สักเรื่อง
ผมเคยแสดงเรื่อง 5 หัวใจฮีโร่ ก็นานพอสมควร ตอนนั้นยังเด็กอยู่เลย เมื่อ 6-7 ปีที่แล้วครับ
ตอนนี้ก็โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว
ยังเล้ยยยย ยังเด็กอยู่ พึ่งจะ 20 เอง (หัวเราะ)
พูดถึงภาพยนตร์เรื่อง ล่าสุดหน่อย
สำหรับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “เร็วทะลุเร็ว” ก็เป็นเรื่องราวของชีวิตมือปืนที่ชื่อว่า นที (เดี่ยว-ชูพงษ์) ครับ ซึ่งก็เป็นพี่ชายของ ธาร
พี่ชายของธารต้องการรู้ความจริงว่าใครเป็นคนที่ฆ่าพ่อ-แม่ เขาก็เลยต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงเพื่อจะรู้ว่าใครเป็นคนที่ฆ่าพ่อ-แม่ แล้ววันหนึ่งนทีก็ไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งก็คือพลอย (เมย์-นิศาชล) ซึ่งนทีได้รับคำสั่งให้ไปปกป้องพลอย แต่เหมือนโดนหักหลัง ก็เลยโดนตามล่า เขาก็เลยพาพลอยมาเจอ ธาร พวกตามล่าก็ตามมาด้วย ทีนี้ก็เลยพากันช่วยพากันหนี แล้วก็ล้างแค้นด้วย แล้วก็ช่วยกันสืบว่าใครฆ่าพ่อให้แม่ด้วย
บทบาท-คาแร็กเตอร์
ผมรับบทเป็น“ธาร” ซึ่งก็เป็นวัยรุ่นใช้ชีวิตตามปกติธรรมดาครับ มีพี่ชายที่ชื่อ นที (เดี่ยว-ชูพงษ์) ธารเห็นพี่ชายแล้วรู้สึกว่าเท่ อยากจะกล้าอยากจะเก่งแบบพี่ชาย
นทีกับธารสูญเสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่เด็ก อาศัยอยู่ในอู่ซ่อมรถกับอา ก็ใช้ชีวิตเป็นเด็กอู่ คอยช่วยอาซ่อมรถ แล้วอยู่มาวันหนึ่งพี่นทีก็หายไป โผล่มาอีกทีก็พาผู้หญิงคนหนึ่งมา เหมือนหนีอะไรมาสักอย่างเหมือนกับโดนไล่ล่าจากที่อื่นมา แล้วคนที่ตามล่าก็ตามมาเหมือนกัน ธารก็เลยต้องพาพี่ชายหนีแล้วก็แก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อ-แม่ด้วย
หลังจาก “5 หัวใจฮีโร่” เราหายไปทำอะไรมาบ้าง
หลังจาก “5 หัวใจฮีโร่” ไปก็มีซ้อมบ้าง เรียนบ้าง แล้วก็ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนธรรมดาครับ ตามประสาวัยรุ่น แต่พอรู้ว่าจะได้เล่นหนังเรื่องนี้ ก็ต้องมีเตรียมตัวมากขึ้น ต้องมีการซ้อมเป็นหลายชั่วโมงต่อวัน ก็มีทั้งแยกซ้อม มีเวิร์กช็อปการแสดงบ้าง เหมือนเป็นการซ้อมไปในตัว
ได้ยินว่าซ้อมหนักมาก
ครับ พอรู้ว่าต้องเล่นเรื่องนี้ ก็ต้องซ้อมหนักขึ้น ให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ถือว่าต้องซ้อมหนักกว่าตอนเล่นเรื่องที่แล้วมาก เพราะตอนนั้นยังเด็ก แต่เรื่องนี้เราโตขึ้นก็ต้องมีการฝึกเพิ่มการคล่องตัว เพิ่มความแข็งแรง ทั้งฟิตกล้ามเนื้อให้มันเข้าที่ คือร่างกายต้องพร้อมก่อน ถ้าร่างกายไม่พร้อมเวลาถ่ายมันก็จะเหนื่อยครับ
และที่อาพันนาเน้นเราอยู่เสมอคือเรื่องของอารมณ์ในการเล่นแอ๊กชั่น เราเล่นแอ๊กชั่นไม่ได้เล่นแค่เตะต่อย คือเราต้องใช้อารมณ์ข้างในออกมา เหมือนเราเล่นเป็นตัวละครอะไรเราก็ต้องสื่ออารมณ์ข้างในออกมาให้ดีที่สุด แล้วก็ใช้อารมณ์จากตรงนั้นจริงๆ ออกมาเป็นการต่อสู้ครับ
รอปล่อยวิชากับภาพยนตร์เรื่องนี้
ตอนที่รู้อาพันนาบอกว่าจะได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ก็รู้สึกดีใจที่รับโอกาสอีกครั้ง เหมือนเรารอเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเองมานาน มันเก็บกดครับ อยากออกไปโชว์ฝีมือ แถมยังต้องดวลกับพี่เดี่ยวด้วย ก็รู้สึกดีใจครับ ไม่ได้เป็นกังวลอะไร เพราะก็คุ้นเคยกับพี่เดี่ยว รู้จักกันมาหลายปี ได้มาเล่นเดียวกันสักที เราก็ได้โอกาสเรียนรู้วิชาจากพี่เค้าด้วย
ได้มาเล่นหนังของปรมาจารย์คิวบู๊ “พันนา ฤทธิไกร”
ได้มาร่วมงานกับอาพันนา เป็นนักแสดงภายใต้การกำกับของอาพันนา ก็รู้สึกดีใจมากซึ่ง เวลาเขาทำอะไรเค้าตั้งใจมาก จะใส่พลังให้กับการทำงาน แล้วก็นิ่งมาก บางทีเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เขาพูดสื่อสารออกมาได้เข้าใจได้ง่าย คำพูดเขาทำให้เรามีพลัง ทำให้เรากล้าเล่น และตั้งใจที่จะทำมันออกมาจริงๆ
ต้องมาดวลฝีมือกับนักบู๊รุ่นพี่ “เดี่ยว-ชูพงษ์”
การร่วมงานกันก็รู้สึกสบายใจที่ได้เล่นกับพี่เดี่ยว มีอะไรก็คุยได้ทุกเรื่อง สนุกสนานดี ก็มีแหย่มีแกล้งกันบ้าง เราพูดจากันในหนังเหมือนที่พูดกันข้างนอกเลย คือเป็นพี่น้องกัน พี่เดี่ยวก็ให้คำแนะนำเยอะ เพราะตอนซ้อมพี่เดี่ยว บางทีเขาก็จะให้คำแนะนำเรา แล้วก็ซ้อมให้เราด้วย ถามว่าหนักใจไหมถ้าต้องดวลแอ๊กชั่นกันก็ไม่หนักใจครับ แต่หนักใจเวลาทำเขา กลัวเขาเจ็บ กลัวเขาเป็นอะไร
Master of Action “อาจารย์ซีฟู”
แกเป็นคนที่แข็งแรงมาก ถ้าพูดถึงคนที่เล่นแอ๊กชั่น อายุขนาดนี้ถือว่าเก่งมาก อายุตั้ง 78 ปีแล้ว ก็มีให้คำปรึกษาวุฒิบ้าง เวลาออกอาวุธท่าทางแกก็จะปรับให้มันสวยงามขึ้น และแข็งแรงขึ้น หลายคนได้เห็น อ.ซีฟูในหนัง รับรองว่าต้องทึ่งกับลีลาแอ๊กชั่นของแก
ฉากอันตรายสุดๆ
ต่อเป็นฉากที่ต้องสู้บนรถไฟ ที่ถือว่าฉากที่เสี่ยงและอันตรายมาก ก็ถ่ายกันห้าวันเต็มๆ ถือว่าร้อนมาก เพราะช่วงนั้นถ่ายกันหน้าร้อน ทีมงานตัวไหม้กันเป็นแถว (หัวเราะ) ฉากนี้ก็เจ็บตัวกันพอสมควรเพราะทุ่มเทกันมาก มีบางช็อตที่เราต้องถีบพี่ๆ สตันท์ตกลงมา ก็นับถือใจพวกพี่ๆ สตันท์ที่ยอมร่วงลงมาจากรถไฟกันจริงๆ ความยากอยู่ที่คือพื้นที่มันแคบ แล้วพื้นที่มันจำกัดแล้วก็สูงด้วย ก็จะเกิดความระแวงในตัวของมันเอง มันทำให้ความกล้ามันหายไป ไม่เหมือนเล่นบนพื้นปกติ การดีไซน์ท่าก็ต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด แต่ว่าออกแบบมาแล้วก็สวยงาม ลองไปดูกันครับ
ยังคงรักในการแสดงหนังบู๊
ต้องบอกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมก็ว่าได้นะครับ ผมรักมัน และยอมที่จะฝึกฝน อดทน ซ้อมมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นนักแสดงแล้วแต่ผมก็ยังจะ ฝึกฝนวิชานี้ไปเรื่อยๆ ครับ
คุณพ่อ-คุณแม่ ว่าอย่างไรบ้าง
ท่านทั้งสอง แน่นอนครับ เป็นห่วงผมมากแต่ด้วยงาน ด้วยหน้าที่และสิ่งที่ชอบเขาก็ไม่ได้ห้ามอะไรเรา เพียงแต่สอนให้เรารับผิดชอบงาน หน้าที่ของตนเอง แต่ก็ยังแอบเป็นห่วงบ้างที่ต้องมาแสดงเรื่องนี้ เพราะก็เป็นฉากบู๊ซะส่วนใหญ่
ฝากผลงานของตัวเองหน่อย
ก็อยากให้ทุกคนติดตามนะครับ สำหรับ หนังเรื่อง “เร็วทะลุเร็ว” เรื่องนี้ก็จะโตกว่าเรื่องที่แล้วครับ ตามอายุเลยแต่ยังคงความมันส์ให้ติดตาม ก็อยากจะฝากผลงานด้วยนะครับ ลองไปชมกัน ไปเป็นครอบครัว ไปกับเพื่อนๆ รับรองว่าสนุกและไม่ผิดหวังแน่นอนครับ และอย่าลืมเข้าไปทักทายกันได้ที่ Instagram @nantawut_official ขอบคุณครับ
เจฟฟฺ
@jeffmarajeff
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี