คอละครไทยอาจจะยังไม่คุ้นหน้าสาว “เอมี่” ภวานี เบดี กันดีนัก แต่บันเทิงฝั่งอินเดีย เขารู้จักว่าเป็นดาราไทย ที่สามารถพูดภาษาภารตะได้คล่องปร๋อ วันนี้ “บันเทิงแนวหน้า” เลยต้องขอเปิดพื้นที่ ทำความรู้จักสาวคนนี้กันสักหน่อย

เปลี่ยนความชอบให้เป็นงาน

“เอมี่เรียนจบบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ภาคอินเตอร์ค่ะ แต่ด้วยความที่ชอบงานด้านบันเทิง จึงส่งเดโม สมัครงานตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ปี 2 และก็ได้งานเป็นดีเจ ทำอยู่พักใหญ่ แต่เหมือนตรงนั้นไม่ใช่สำหรับเราค่ะ”

ค้นหาตัวเอง

“ในช่วงที่เราสับสน ไม่รู้ว่าชอบอะไร แต่เราหนีจากวงการบันเทิงไม่ได้ เลยสวดมนต์ขอพรจากเทพที่นับถือให้ช่วยนำทาง
หลังจากนั้นเอมี่ก็ได้งานแสดงกับทางบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ค่ะ เป็นตัวร้าย พอได้ลองงานแสดง ทำให้รู้ว่าตรงนี้คือใช่สำหรับเรา แต่อุปสรรคสำคัญคือ หุ่นเราเองค่ะ (หัวเราะ) ด้วยความที่มี่เป็นลูกครึ่ง (ไทย-อินเดีย) ช่วงนั้นมี่อวบมาก เลยถูกสั่งให้ลดน้ำหนัก ประกอบกับเริ่มเรียนหนัก เพราะขึ้นปี 3 ด้วย เลยวางแผนชีวิตตัวเองใหม่ หายจากวงการไป เพื่อเรียนให้จบค่ะ”

เริ่มงานแสดงเต็มตัว

“อยู่มาวันหนึ่งก็มีพี่โมเดลลิ่งติดต่อให้ไปเล่นละคร กับทางค่ายกันตนาค่ะ แต่โอกาสไม่ค่อยวิ่งเข้าหา ทำให้รู้สึกท้อ จนมาถึงจุดพีค ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร มี่ก็สวดมนต์ ด้วยความที่เรานับถือศาสนาซิกข์ มี่ไหว้คุรุนานัก และก็พระแม่อุมาบอกท่านว่า ถ้าเราเกิดมาเพื่อทำงานตรงนี้ ช่วยแสดงให้เราเห็นสักนิด ให้เรามีงาน ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น มี่ไปเดิน Terminal21 แล้วเกิดมีกองถ่ายอินเดีย มาถ่ายทำที่นั่นพอดี เขาเห็นเราแล้ว เขาสนใจ และมี่ก็พูดภาษาเขาได้ด้วย ผู้กำกับฯเลยเรียกให้ลองไปแคสติ้งหนังอินเดียดูค่ะ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นหนังบอลลีวู้ดหรืออะไร ก็เล่นไปเหมือนได้เสริมประสบการณ์ให้กับตัวเอง แต่แล้วเขาเกิดชอบ เลยติดต่อให้เราเซ็นสัญญาด้วย”

เซ็นสัญญาโกอินเตอร์

“เขาให้เราเซ็นสัญญา โดยมีข้อตกลงว่าอยู่เมืองไทยเรารับงานเองได้ แต่ห้ามเล่นหนังเท่านั้นเองค่ะ เขาขอมาแค่นี้ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ป้อนหนังให้มี่ตลอด ในขณะที่มี่เองก็มีงานละครในไทยควบคู่ไปด้วย”

ปัญหาเกิดคิวหนังอินเดีย ชนละครไทย

“ตอนนั้นมี่ถ่ายละครเป็นนักแสดงประกอบเรื่อง “ล่ารักสุดขอบฟ้า” ทางช่อง 7 อยู่ แล้วทางอินเดียก็ติดต่อมาให้เราไปแสดงหนังที่โน่น เราเราเลยบอกเขาว่า ถ้ายูยกกองมาถ่ายที่ไทย เราสามารถเล่นให้ได้เต็มที่ แต่ถ้าให้บินไปถ่ายโน่นตอนนั้นเราไม่สะดวก ปรากฏว่าเขาประชุมกองกัน แล้วยกกองมาถ่ายที่ไทย เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของเรื่องเลยค่ะ เหมือนโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปในตัวเลย หนังชื่อเรื่อง โรเมโอ รานยา (romeo ranjha) ลองหาดูกันนะคะ เขาเอาวัฒนธรรมไทยเข้าไปใส่เยอะมาก (เคยบินไปถ่ายหนังที่อินเดียไหมคะ?) เคยค่ะ ถึงตอนนี้มี่เล่นหนังอินเดียมา 3 เรื่องแล้วค่ะ”

ผลงานปัจจุบัน

“ตอนนี้ถ่ายละครเรื่อง เหยี่ยวรัตติกาล กับ คู่หูคู่เฮี้ยนภาค 2 เป็นรับเชิญค่ะ ส่วนหนังอินเดีย เดี๋ยวจะมีบินไปถ่ายที่รัฐปัญจาบ ประมาณ 10 ตอน ค่ะ”

ไม่เคยเรียนการแสดง แต่ทำเพราะใจรัก

“ถึงจะไม่เคยเรียนการแสดง แต่เอมี่โชคดีตรงที่ได้พี่ๆ ในวงการช่วยผลักดัน อย่างพี่แก้ว-อภิรดี ที่ช่วยสอน ช่วยแนะนำเรื่องการแสดงของเอมี่เยอะมากค่ะ”

ประวัติส่วนตัว

“คุณพ่อเอมี่เป็นคนไทย-อังกฤษ คุณแม่เป็นคนอินเดียค่ะ เอมี่เกิดและโตที่ไทย เรียนที่ไทย นับถือศาสนาซิกข์ แล้วศาสนาเปิดกว้างมาก อย่างเรื่องทำบุญเราสามารถร่วมทำบุญกับศาสนาพุทธ เราสามารถไหว้พระได้ ไม่มีแบ่งแยกอะไรเลย แต่ซิกข์จะสอนให้ซื่อสัตย์กับอาชีพที่ทำ ซื่อสัตย์ต่องาน ซื่อสัตย์ต่อบรรพบุรุษและก็สอนให้ทำแต่ความดี ซื่อสัตย์ต่อความดี ไม่ให้เอาเปรียบใคร โกงใครค่ะ”

ความฝันในวัยเด็ก

“เด็กๆ ฝันว่าอยากเป็นทหารค่ะ ด้วยความที่คุณพ่อเป็นทหาร เราก็เลยอยากเป็น แต่พอโตขึ้นก็เปลี่ยนความคิด ว่าอยากเป็นดีเจ แล้วก็ได้เป็นจริงๆ ที่อาร์เอส กับคลื่นแม็กซ์ ทำอยู่ประมาณเกือบ 1 ปี แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ของเราค่ะ”

เปรียบเทียบกองถ่ายละครไทยกับกองหนังอินเดีย

“กองถ่ายไทยจะชิวๆ สบายๆ จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก แต่ถ้าเป็นกองของอินเดียทุกอย่างเขาจะฟิก แต่ว่าอินเดียนคือ
รายละเอียดไม่แน่นอน บททุกอย่างเปลี่ยนตลอดเวลา อุปสรรคเยอะมาก เขาจะละเอียดมากค่ะ บางทีแค่ซีนดื่มน้ำ เขาหลายคัทมาก คือเก็บรายละเอียดเยอะกว่าบ้านเรามากเลยค่ะ ถ่ายเอ็มวีตัวหนึ่ง บ้านเราไม่ถึงหนึ่งวันเสร็จ แต่บ้านเขาถ่ายเอ็มวีตัวหนึ่งเอมี่โดนไปประมาณเกือบ 5 วันค่ะ วิถีชีวิตของดาราในกองถ่ายก็จะไม่เหมือนกัน นักแสดงของเขาจะมีรถ เหมือนรถบ้าน ข้างในมีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องกินข้าวทุกอย่างอยู่ในนั้นไว้รอคิวเข้าฉาก แต่บ้านเราตัวใครตัวมันค่ะ (หัวเราะ) แต่ข้อเสียของกองอินเดีย คือเรื่อง การแต่งหน้าทำผม เขายังไม่ค่อยพัฒนาค่ะ บ้านเราช่างแต่งหน้านี่คือเป๊ะมาก แล้วฝ่ายคอสตูมช่างแต่งหน้าของอินเดียจะเป็นผู้ชายหมดเลยค่ะ ไม่มีผู้หญิงเลย เป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่ใช่เก้งกวางด้วยนะคะ ผิดกับบ้านเรามาก”

ได้ร่วมงานกับ พิ้งค์กี้ หรือ แอน มิตรชัย บ้างไหม

“ไม่ค่ะ ไม่ได้เจอกันเลย เหมือนเราอยู่คนละสังกัดกันค่ะ คนละรัฐกันเลยค่ะ

ศัลยกรรมกับความสวยบนใบหน้า

“จริงๆ คือเอมี่ยังไม่เคยทำเลยค่ะ เคยแต่ผ่าฟันคุด (หัวเราะ) แต่ถ้าคิดจะทำก็น่าจะทำจมูกค่ะ เพราะเคยดั้งหัก เพราะถูกรุ่นพี่นักแสดงเตะฟุตบอลมาโดนโดยไม่ตั้งใจ ตอนนี้ยังไม่หายดีเลยค่ะ ยังเป็นรอย เลยคิดว่าอยากจะทำ แต่ถ้าเป็นส่วนอื่น ไม่เคยคิดจะทำค่ะ”

งานแสดงในไทย “เอมี่” ภวานี เบดี ยังคงต้องไต่เต้า แต่ถ้าในโลกแสงสี บนดินแดนภารตะ สาวไทยคนนี้โดดเด่นไม่เบาทีเดียวค่ะ