ตบเท้าเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการประกวด จนได้รับตำแหน่งชนะเลิศ โครงการค้นหานักแสดงหน้าใหม่ Media Search ของช่องมีเดีย แชลแนล แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของพระเอกหนุ่มหล่อหน้าใส ปุณ-ศิริปัญญา จันทิหล้า เขาหมายมั่นปั้นมือที่อยากจะพิสูจน์ความสามารถด้านการแสดง แม้จะเคยผ่านการเป็นพระเอกละครเรื่องแรก “กิ่งทอง ดอกฟ้ากับหมาวัด” แต่ดูเหมือนหนุ่มปุณจะไม่ค่อยแฮปปี้กับการแสดงของตัวเองสักเท่าไหร่ โดยตั้งความหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็น “นักแสดงคุณภาพ” ให้ได้

เข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร

ผมรู้จักพี่คนหนึ่งครับ เขาแนะนำให้ลงประกวด โครงการค้นหานักแสดงหน้าใหม่ Media Search  โดยพี่น็อต (นุติ เขมะโยธิน) โดยเริ่มประกวดรอบแรกที่ภาคอีสาน จัดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี และได้รับเลือกเป็นตัวแทนภาคอีสานมาประกวดต่อที่กรุงเทพฯ สุดท้ายก็ได้ตำแหน่งชนะเลิศครับ แล้วก็มีโอกาสได้เล่นละครกับช่อง Media channel เรื่อง กิ่งทอง ดอกฟ้ากับหมาวัด เล่นกับ ตาล-กัญญา ครับ

ละครเรื่องแรก

ดีใจมากครับ เพราะเป็นความฝันของตัวผมเองที่อยากเป็น นักแสดง อยากทำงานในวงการบันเทิง เป็นความฝันตั้งแต่เด็ก
ตอนเด็กๆ ผมชอบดูหนัง ดูละครมากครับ และตัวผมเองก็ชอบเลียนแบบว่าเป็นนักแสดงในนั้น แล้วคนที่ชอบเล่นเป็นตัวละครอีกคนคือ คุณพ่อครับ บางครั้งพ่อก็จะเล่นเป็น ตัวโกง ส่วนผมเป็นพระเอก ผมกับพ่อสนุกมากและตอนสุดท้าย ใครชนะก็จะได้หอมแก้มแม่ครับ และคนที่ได้หอมเป็นประจำนั้นก็คือผมเอง

คุณพ่อ-คุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง

พอแม่รู้ข่าวแม่ก็ดีใจมากที่ผมจะได้เล่นละคร และได้เป็นพระเอกด้วย พอละครออนแอร์ผมกลับไปดูละครกับแม่ แม่ผมยิ้มไม่หุบหลายชั่วโมง ผมดีใจมากครับกับการได้เล่นละคร และผมก็ไม่เคยลืมตั้งแต่ฉากแรกจนฉากสุดท้าย มันเป็นความสุข สุขมากๆ ที่เราได้ทำ
ในสิ่งที่เราฝัน และฝันเราก็ทำให้ทุกคนมีความสุข

บทบาทในเรื่องนั้นเป็นอย่างไร

รับบทเป็น พลูด่าง ครับ พลูด่างเป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นคนซื่อๆ ใครให้ทำอะไรก็ทำได้หมด เป็นคนสบายๆ เรียบง่ายมาก อยู่ได้ทุกที่ แต่งตัวไม่เป็นตามประสาเด็กต่างจังหวัดครับ อาศัยอยู่ที่วัดกับหลวงตา แอบหลงรักผู้หญิง แต่ก็ไม่กล้าบอกเค้า ผมว่าบางทีก็คล้ายๆ ผมตรงที่เป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาอยู่กรุงเทพฯก็เลยค่อนข้างจะ
ใกล้เคียงตัวจริงครับ

หลังจากได้ตำแหน่ง และได้เล่นละครเรื่องแรกชีวิตเปลี่ยน

เปลี่ยนมากครับ ตั้งแต่การใช้ชีวิต ความรับผิดชอบมากขึ้น การที่ต้องออกมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ ใช้ชีวิตตัวคนเดียว เรียนด้วยพร้อมกับทำงานไปด้วย แล้วผมก็ใหม่กับวงการมาก ทุกอย่างดูใหม่ไปหมด บางครั้งอาจจะดูตื่นเต้น ประหม่าบ้าง แต่ใจผมก็สู้ตลอด ไม่ท้อครับ

ฟีดแบ๊กจากละครเรื่องแรกเป็นอย่างไร และคิดว่าการแสดงของตัวเองเป็นอย่างไร

ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ คนที่ได้ดูส่วนใหญ่นะเป็นคนต่างจังหวัดและจะมีหลายๆ คนบอกว่ายังเล่นไม่ดี ยังไม่เก่งพอ ผมเข้าใจ เพราะผมก็ยังใหม่กับวงการ ก็จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ยอมรับว่าการแสดงละครเรื่องแรกของผมไม่ได้เรื่องเลย หลายๆ ครั้งผมคิดว่าทำไม เราไม่ทำให้ดีกว่านี้ เล่นให้อินกว่านี้ จนมีครั้งหนึ่งที่คิดจะล้มเลิกความฝัน แต่พ่อกับแม่คอยให้กำลังใจ และมีคำพูดหนึ่ง ครั้งนั้นเราพยายามทำเต็มที่แล้ว ครั้งหน้าเรามีโอกาสเราต้องทำให้มันออกมาดีจนไม่มีที่ติ ครับ

ละครเรื่องที่ 2 นางฟ้ารำวง

เริ่มจากที่ผมได้รู้จักกับพี่ชายแฮ็คส์ (สุทธา ทวีศรีธนโชค) ในงานประกวดเวทีหนึ่งครับ พี่ชายแฮ็คส์เป็นกรรมการในการตัดสินครั้งนั้นครับ ผมได้มีโอกาสได้เข้าไป สวัสดี แล้วได้แนะนำตัวเอง หลังจากเสร็จการประกวด เป็นช่วงที่ผมกำลังจะตัดสินใจออกจากวงการ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่แย่ที่สุด ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้ไม่มีกำลังใจจะทำความฝันต่อพ่อกับแม่ได้ให้กำลังใจผมจึงฮึดขึ้นสู้อีกครั้ง ครั้งนี้ผมเลยถือวิสาสะโทรศัพท์ขอโอกาสกับพี่ชายแฮ็คส์ พี่ชายแฮ็คส์เป็นคนใจดีมากครับ ให้โอกาสผมทั้งๆ ที่รู้ว่า สภาพร่างกายจิตใจในตอนนั้นผมแย่มาก แต่พี่ชายแฮ็คส์ก็ดูแลผมด้วยการเปลี่ยนความคิดด้านลบให้เป็นบวกสอนผมหลายๆ อย่างมาก แล้วพี่ชายก็มอบโอกาสที่ดีอีกครั้งให้ผมได้มาเล่นละคร นางฟ้ารำวง ได้เป็นพระเอกด้วยครับ กราบขอบคุณพี่ชายแฮ็คส์มากเลยนะครับ

บทบาทในเรื่อง นางฟ้ารำวง เป็นอย่างไร

ผมรับบทชื่อ อานนท์ เป็นหนุ่มวิศวกรไฟแรง เป็นสุภาพบุรุษ มีความกล้าหาญ มีความรักที่จริงใจ มีความจริงใจกับทุกคน ได้แสดงร่วมงานกับ น้องแป้ง มิตรชัย ด้วยครับ น้องแป้งน่ารักมากครับ ทำงานด้วยแล้ว มีความสุขมาก น้องเค้าเก่งด้วย ถ้ามีโอกาสอีกครั้งก็อยากจะร่วมงานกับน้องแป้งอีกครับ

เรื่องเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเรียนจบแล้วคิดว่าจะไปทำงานด้านไหน

ตอนนี้เรียนอยู่คณะมนุษยศาสตร์และประยุกต์ศิลป์ เอกศิลปะการแสดงครับ ที่ผมเลือกเรียนคณะนี้ เพราะชอบครับ อาจารย์เก่งด้วยครับ มีการสอนที่เข้าใจง่าย นักศึกษากับอาจารย์มีความสนิทสนมกันมาก การสอนเลยเข้าใจง่ายและนำไปปฏิบัติง่ายขึ้น ผมวางแผนไว้ว่าถ้าเรียนจบแล้ว ก็คงไปทำงานด้านวงการบันเทิงครับ ไม่เบื้องหน้าก็เบื้องหลัง เพราะผมรู้สึกมีความสุขกับการได้อยู่กับการทำงานวงการบันเทิงครับ

ตัวจริงนิสัยเป็นอย่างไร

ผมเป็นคนง่ายๆ อยู่ง่าย ทานง่าย แต่งตัวง่ายสบายๆ ชีวิตเรียบง่าย ทำกับข้าวทานเอง เข้ากับคนอื่นง่าย หัวเราะเก่ง ยิ้มเก่งมีหลายๆ คนบอกว่าเวลาอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ มีความสุข การสนับสนุนเพื่อนๆ จะคอยช่วยเหลือเวลาที่ไม่ไปเรียน คอยช่วยเรื่องเรียนเก็บงานไว้ให้ตลอด เพื่อนผมใจดีกันทุกคนครับ ส่วนที่บ้านเต็มที่ครับ อยากทำอะไรก็สนับสนุนทุกเรื่อง ช่วยคอยเป็นกองหนุนครับ

มีไอดอลในการทำงานหรือเปล่า

พี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี ครับ เพราะพี่เค้าเก่ง เวลาพี่เค้าเล่นละคร พี่เค้าดูมีเสน่ห์ เล่นเป็นธรรมชาติ ดูแล้วอินเล่นเก่งจริงๆ ครับ ตัวผมเองก็คงทำไม่ได้เหมือนพี่ติ๊ก เพราะเป็นคนละคนกัน ความสามารถก็ต่างกัน แต่ผมก็ยึดแนวทางการวางตัวการเล่นละครของพี่ติ๊กเป็นตัวอย่างครับ

วางเป้าหมายชีวิตในการทำงานวงการบันเทิงอย่างไร 

วงการบันเทิงให้ประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนใหม่สังคมใหม่ แนวคิดใหม่ของการมองดูโลกกับผม ผมตั้งใจว่าจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดครับ ผลข้างหน้าจะออกมายังไงก็ค่อยปรับเปลี่ยนไป ในวันหนึ่งเมื่ออิ่มตัวผมตั้งใจว่าจะไปนั่งเขียนหนังสือ เขียนพอร์ตหนังดีๆ ทำร้านกาแฟ เปิดรีสอร์ทที่บ้าน ที่ภูเขาสักที่ในจังหวัดที่ผมเกิด คอยดูแลคุณพ่อคุณแม่ในยามที่ท่านอายุมากขึ้น แต่ผมก็ยังไม่ได้เลิกงานวงการบันเทิงทันทีนะครับ เพราะผมก็ยังมีความคิดที่จะเขียนบทละครต่อ เพราะผมรักในวงการบันเทิง รักครอบครัว รักในสิ่งที่ทำครับ

ใครที่ยังไม่จุใจตามไปแอบส่องหนุ่มคนนี้ได้นะที่ Instagram @pun_siripanya