เล่นหรือแสดงบทไหน เป็นต้องได้รางวัล นับเป็นมาตรฐานทางการแสดงของ “ตุ๊ก” จันทร์จิรา จูแจ้ง ที่กำไรเต็มๆ ตกอยู่กับผู้ชม เช่นเดียวกับในวันที่ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดละคร เธอจึงตั้งมาตรฐานผลงานของตัวเองให้สูงขึ้นตามไปด้วย สตาร์เรโทรสัปดาห์นี้ ขอพาไปสัมผัสตัวตนของผู้หญิงที่ชื่อ “ตุ๊ก” จันทร์จิรา จูแจ้ง
l ผลงานการแสดงบนหิ้ง
เล่นมาหลายเรื่องมากค่ะ และทุกเรื่องก็เป็นมาสเตอร์พีซของตุ๊ก ตอบยากมาก แต่ละเรื่องที่ได้เล่นก็ใกล้กันมากเลย อย่าง
เรื่อง “จับตายวายร้ายสายสมร” อันนี้ชอบนะมีเรื่องราวเยอะ “บุญรอด” ก็ชอบ “รักแรกอุ้ม”,“พริกขี้หนูกับหมูแฮม” คือทุกเรื่องเป็นมาสเตอร์พีซหมด เพราะตุ๊กเต็มที่กับทุกบทบาทที่ได้รับ
l เรื่องที่ทำให้ได้รางวัล
ได้รางวัลจากเรื่อง “ต้องปล้น” ค่ะ เป็นหนังใหญ่ เล่นเป็นผู้หญิงหากิน พี่หนุ่ย-อำพล เป็นพระเอก เรื่องนี้เป็นเรื่องราวจริงๆ ที่เกิดขึ้น มีพี่หนึ่ง-วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ, พี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, อาตู่-นพพล โกมารชุน แล้วก็ตุ๊ก (พอมาทำละคร จึงชวนพี่หนึ่ง วรเชษฐ์ มากำกับฯ?) เขาน่าจะกำกับฯได้แล้วค่ะ ทำผู้ช่วยมานานแล้ว เล่นเป็นนักแสดงมาก็เยอะ ถึงเวลาแล้วล่ะ เราต้องให้โอกาสเขา ลองให้เขาทำ คุยกันว่า เขาอยากจะทำไหม ถ้าอยากทำก็โอเคลองดู เป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ด้วยค่ะ
l เป้าหมายเมื่อครั้งเข้าวงการมาแรกๆ
ตุ๊กไม่มีเป้าหมายค่ะ ตุ๊กแค่สวย แล้วเขาเอามาเล่นหนัง (หัวเราะ) อันนี้เรื่องจริงนะตุ๊กไม่ได้มีเป้าหมาย เด็กรุ่นตุ๊กจะเป็นสบายๆ ไม่ได้คิดว่าเข้ามาแล้วฉันจะอย่างงั้นอย่างงี้หรือวาดไว้เลยว่าฉันจะมีเงินเท่านั้นเท่านี้แล้วแต่คนมากกว่า อย่างตุ๊กเข้าเพื่อมาเอาประสบการณ์ พอได้เล่นก็เกิดตกหลุมรักไปเองในอาชีพนักแสดง แล้วถึงเริ่มรู้ว่านี่คืออาชีพ เพราะฉะนั้นต้องทำให้ดี ต้องทำให้ประทับใจ และเข้าไปนั่งในใจคนดูให้ได้(ไม่ได้ชอบงานด้านนี้มาก่อน?) ตุ๊กอยู่ในโหมดทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ แล้วเผอิญว่าวงการนี้มีเสน่ห์อย่างหนึ่งคือ พอเข้ามาแล้ว มันดึงดูด ถ้าเขารัก และเขารู้สึกว่าตรงนี้แหละสามารถเป็นอาชีพเขาได้ เขาก็สามารถอยู่ได้ ถ้าเขาอยู่ด้วยฝีมือ แต่ถ้ามาอยู่แบบเล่นๆ ไปอย่างงั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับงาน ไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพตัวเอง ตุ๊กว่าพวกนี้มาๆ ไปๆ เยอะ สำหรับตัวตุ๊กเองมาด้วยเหตุบังเอิญให้มา แต่เมื่ออยู่ๆ ไปแล้วหลงรัก จึงเลือกที่จะเป็นอาชีพ และตั้งใจทำให้ดีที่สุด จนมาถึงวันนี้ก็ปาเข้าไปเกือบ 30 กว่าปีแล้ว ตุ๊กเริ่มเข้ามาตอนอายุ 19 ตอนนี้ตุ๊กจะ 50 แล้วนะ ก็น่าจะถึงเวลาแล้วล่ะที่เราจะได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับรุ่นน้อง เพราะฉะนั้นขอให้ได้รับและเข้าใจว่าเรากำลังจะบอกอะไร ขอแค่เข้าใจและทำงานให้ออกมาได้ดีจริงๆ ไม่ได้เพื่อใครเลย เพื่อตัวเขาเองทั้งนั้น
l ก้าวสู่บทบาทใหม่ กับการเป็นผู้จัดละคร
ตอนนั้นตุ๊กทำรายการ “สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก” มีเด็กๆ อยู่ในมือ ที่เลือกทำละคร เพราะอยากเอาเด็กมาฝึก เมื่อเขาเป็นพิธีกรแล้ว เขาต้องเปลี่ยนบทบาท ต้องโตขึ้น ถ้าเกิดเราทำละคร เขาก็จะได้มีสนามให้เรียนรู้และลองทำอะไรที่แตกต่าง เราอยากหาพื้นที่ให้เขาได้ฉายแวว ได้ใช้ความสามารถ ถือว่าเป็นเรื่องที่หนักนะคะ สำหรับตุ๊ก ที่จะต้องสร้างคนให้สถานี การดิวงานกับเด็กก็ไม่ง่าย เพราะละครไม่ใช่ใครเล่นก็ได้ คือต้องเล่นด้วยความเข้าใจ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเลือกเด็กที่คิดว่าทำงานได้ พร้อมถ้าไม่ได้ก็เอาไว้ก่อน พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่น เพราะเมื่อละครออนแอร์ออกมาแล้ว ฟีดแบ๊กจะติดไปกับตัวเด็กตลอด (ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นนักแสดงกับผู้จัดฯ?) ตุ๊กว่าจะกลับไปเป็นนักแสดงเหมือนเดิมแล้วค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ถ้าไม่พร้อมเป็นนักแสดงดีที่สุด เพราะว่างานหนักนะคะสำหรับการเป็นผู้จัดฯ ไม่ใช่แค่ไปหานิยาย ไปหาคนเขียนบท ไปเสนองานแล้วได้ทำเลย จริงๆ มีอะไรมากกว่านั้นเยอะมาก
l คัดสรรงานต่างๆ ให้กับเด็กด้วยตัวเอง
ใช่ค่ะ ตุ๊กต้องดู เรียกว่าเฝ้าดูเลยก็ว่าได้คนนี้พร้อมหรือยังที่จะมาเล่นละคร พร้อมที่จะรับผิดชอบงานใหญ่หรือยัง พร้อมที่จะใช้ความสามารถหรือยัง พร้อมที่จะเข้าใจการทำงานหรือยัง แอตติจูดสำคัญมาก (เหมือนเลี้ยงลูกเลย?) ไม่มีก็เหมือนมีค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแม่ มีลูก 60 คน ต้องรับผิดชอบ(หัวเราะ)
l ผลงานการเป็นผู้จัดฯที่ภาคภูมิใจ
ทุกเรื่องนะคะ ไม่ว่าจะเป็น นางสาวผ้าขี้ริ้ว ก๊วนกามเทพ กุหลาบร้ายกลายรัก เรือนริษยา รักสุดปลายฟ้า และล่าสุด เฮฮาเมียนาวี เป็นผู้จัดมา 5 ปี ได้ปีละเรื่องซึ่งถือว่าน้อยอยู่เหมือนกันค่ะ
l ความแปลกใหม่ของ “เฮฮาเมียนาวี”
ละครไม่มีอะไรแปลกใหม่หรอกค่ะ (หัวเราะ) อยู่ที่ใครเล่าแบบไหนมากกว่า เรื่องนี้จะดูมีความเป็นครอบครัวนิดนึง น่าจะโดนใจชาวบ้าน เพราะว่าเป็นเรื่องผัวๆ เมียๆ ผัวเมียตีกัน พระเอกนางเอกขัดแย้งกัน งอนกันไม่รักกันบ้าง เดี๋ยวก็รักกันบ้าง ตัวละครมีภารกิจ มีอาชีพ มีเป้าหมาย ว่าจะต้องไปสร้างอาชีพให้กับพวกบรรดาแม่บ้านทหารเรือที่วันๆ ไม่ทำอะไร
l วิวัฒนาการของการเป็นผู้จัดฯ
เป็นผู้จัดก็ต้องจัดการ คุณต้องจัดการได้ทุกเรื่อง ต้องมองภาพรวมของงานให้ออก และมองให้ขาด คงเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงกว่าการที่เราเป็นแค่นักแสดง แล้วเดินมาเล่นเป็นบทนั้นบทนี้ แต่เพียงผู้เดียวแต่ตุ๊กต้องดูแลทีมนักแสดง ทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่าง แก้ปัญหา ถึงแม้เราจะเตรียมแก้มาแล้วก็ตาม ยังไงเราก็ต้องเจอปัญหาใหม่อยู่ดี เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้งานเดินหน้าไปได้ เราจะนำพาเป็นหัวเรือที่จะต้องนำพาคนอื่นๆ ขึ้นฝั่งอย่างไร มันเป็นเรื่องของรายละเอียดที่ใหญ่มากๆ ตุ๊กว่าใหญ่กว่าการมารับเล่นละคร แล้วก็จุกจิก เพราะฉะนั้นคุณต้องแข็งแรงพอ ต้องรับสภาพความกดดันต่างๆ ให้ได้
l โอกาสที่จะได้เห็นงานแสดงของ “ตุ๊ก” อีกครั้ง
จริงๆ แล้วเวลาทำอะไร ตุ๊กจะไม่ค่อยอยากเล่นหรือแสดงนะคะ ด้วยความเป็นตุ๊กด้วยแหละมั้ง ไม่รู้ทุกคนคิดเหมือนกันหรือเปล่า ตุ๊กเล่นเรื่องไหนหรือบทอะไร ตุ๊กจะเล่นชนิดที่แบบว่า เล่นเอารางวัล เพราะฉะนั้นตุ๊กจะไม่เล่นแค่เล่น และจะไม่แบ่งสมองเพื่อไปทำอย่างอื่นนอกเหนือจากงานแสดง จดจ่ออยู่กับบท และตัวละครที่รับเล่น ตุ๊กไม่มีหรอกเล่นไปแล้วมาแว่บทำละคร ไม่สามารถที่จะยกหูโทรศัพท์ฮัลโหลแก้ปัญหาระหว่างที่เล่นละครอีกเรื่องอยู่ได้ ซึ่งถ้าทำได้ก็จะไม่ได้ดีหรอกค่ะ เคยทำครั้งหนึ่ง ตอน ก๊วนกามเทพ แล้วผลที่ได้คือ ไม่ได้ดั่งที่ต้องการ แต่ว่าตอนนั้นจำเป็นที่จะต้องเล่น เพราะว่าเคมีทุกอย่างของตัวละครลงตัวพอดี ก็เลยคิดว่าเล่นเองดีกว่า เป็นละครเบาสมองเราจัดการได้เราเล่นมาเยอะไง เพราะฉะนั้นตุ๊กก็จะเข้าใจว่าจะเล่นยังไง แต่ถ้าเกิดเจอบทที่โอ้โห..ต้องใช้พลังเยอะ หมดสิทธิ์ค่ะ ตุ๊กต้องดูแลผู้กำกับ ดูแลทีม ต้องดูว่านักแสดงทุกคนเขาโอเคไหม และทุกวันก็ต้องมองข้ามช็อตว่าจะเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่มองแค่วันต่อวัน
แต่ด้วยความเป็นนักแสดงนะคะ บางทีเหมือนเรามีของ ก็อยากจะเล่น ถ้าเกิดมีบทดีๆ แล้วพอที่จะเคลียร์เวลาได้ ตุ๊กก็อยากจะลองดู แต่ก็ยังคิดไม่ออกนะว่าวันนั้นมาถึงจริงๆ แล้วจะเป็นยังไง ก็มีความอยากจะปล่อยของที่มีในตัวเองเหมือนกัน เราเกิดและโตมากับการเป็นนักแสดง อยู่ในสายเลือดเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันหนึ่งเราก็คงอยากจะเล่น เหมือนมีปี่ กลอง ระฆัง อะไรต่อมิอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา ก็อยากอยู่ แต่ตอนนี้ขอคอนเซนเทรทกับการเป็นผู้จัดฯก่อนค่ะ
l ช่วงชีวิตที่คิดว่าประสบความสำเร็จ
จะรู้สึกเมื่อเล่นละครแล้วคนบอกว่า เล่นละครดีจังเลย งานเยอะไม่ใช่ตัวบอกว่าตุ๊กประสบความสำเร็จนะคะ คนที่รักเราต่างหากที่เห็นเราแล้วรู้สึกรักเรา รักเวลาที่เราเล่นเป็นตัวละครตัวนั้นๆ รักที่เราเล่นละครเรื่องนี้อันนั้นตุ๊กถือว่าประสบความสำเร็จ (ถ้าอย่างนั้นได้สัมผัสมาหลายเรื่องแล้ว?) ใช่ค่ะ ตอนนั้นถามว่ารู้สึกยังไง ก็คงอิ่มเอมและชื่นใจมากๆ มากกว่าที่เราทำงานรับงานอีเว้นท์แล้วได้เงินเลยนะ ตุ๊กว่าทำงานแล้วคนมองเห็นในงานเรา และคนรักเรา อิ่มใจกว่าเยอะนะ อยากที่จะทำต่อไป เวลาเล่นทุกครั้งจะมีความรู้สึกว่าเราจะครีเอทีฟในการทำงานของเราให้ออกมายังไงให้ดี เหมือนมีกำลังใจรอเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเราจะพยายามครีเอทีฟอยู่ตลอดเวลา ตุ๊กว่านะนักแสดงหรือผู้กำกับ ผู้จัด ต้องมีครีเอทีฟและวิสัยทัศน์ถึงจะทำงานได้ดี
l คู่ชีวิตคนรู้ใจ
ไม่มีค่ะ เป็นคนทำงาน อยู่กับแม่สองคนมีเพื่อน ชีวิตตุ๊กมีแค่นี้ ตุ๊กเป็นคนทำงาน เป็นชีวิตที่ทำแต่งาน ชอบทำงาน หลังๆ ก็จะแบ่งเป็น งานเท่านี้นะกี่เปอร์เซ็นต์ ไปเที่ยวกี่เปอร์เซ็นต์ งานกับเที่ยวต้องไปด้วยกัน ต้องใช้ชีวิตด้วย ถ้างานอย่างเดียวก็เครียดเกินไป หรือเที่ยวอย่างเดียว แล้วงานไม่เดิน ก็ไม่ได้ (เรียกว่าไม่มีคนที่ดูๆ อยู่?) ตุ๊กไม่อยากมีแล้วค่ะ ตอนเด็กๆ เรื่องพวกนี้ก็มีนะ แต่ตอนนี้อย่างที่บอก ผ่านช่วงเวลานั้นไปแล้ว ตุ๊กโตเกินกว่าที่จะมานั่งพูดคุยกุ๊กกิ๊กแล้วล่ะค่ะ
l มุมมองเรื่องของการแต่งงาน
ไม่มองแล้ว มันผ่านและเกินมานานล่ะค่ะ ตอนนี้อยู่คนเดียวสบายๆ ทุกอย่างผ่านไปหมดแล้ว ด้วยวัยก็ไม่ใช่แล้ว ต่อให้เรายังสวยอยู่ในสายตาของคนอื่น ตุ๊กว่ายังไงก็ไม่ใช่นะ ยากแล้วล่ะ อย่างงี้แหละดีแล้ว เราก็ปรับชีวิตเราใหม่ เรามีเพื่อน ไปเที่ยวทำงานหนักดูแลแม่ให้มีความสุขตราบที่เขายังมีอายุขัย เราทำตัวเองให้มีความสุขกับการไปเที่ยว การได้สร้างคนก็เป็นการให้ เพราะฉะนั้นเราก็มีความสุขกับการได้ให้ค่ะ
l ไลฟ์สไตล์การเที่ยวของสาวโสด
ชอบสุดเลยนะ ช็อปปิ้ง แล้วก็ชอบไปเที่ยวต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้วเป้าหมายคือไปช็อปปิ้งนั่นแหละ (หัวเราะ) ธรรมชาติยังไม่มา เพราะยังไม่แก่ขนาดนั้น เดี๋ยวพอเริ่มแก่หน่อยธรรมชาติอาจจะมาก่อน ช็อปปิ้งมาเป็นอันดับสอง ทำบุญทำทาน ชอบทำทานซะส่วนใหญ่ ไหว้พระบ้าง สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ช่วงนี้จะออกกำลังกาย เป็นคนที่ชอบออกกำลังกายค่ะ ตุ๊กไม่ค่อยเป็นโรคอะไรนะ เพราะตุ๊กไม่ค่อยทำร้ายตัวเองด้วยบุหรี่ เที่ยว กินเหล้า นอนน้อย ตุ๊กมีวินัยในการดูแลตัวเองมาก ซึ่งไม่รู้ว่ามากกว่าคนอื่นหรือน้อยกว่าคนอื่นนะ ออกกำลังกายอาทิตย์ละ4 วัน วิ่งที่สวนลุมพินี วันหนึ่งก็ 7 กิโล10 กิโล บ้าง แล้วก็เทรน แล้วก็คอร์สเทรนนิ่งว่ายน้ำ (ฟิตไว้เผื่อถ่ายแบบ?) ตุ๊กถ่ายอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ก็จะเมนเทรนร่างกายไปเรื่อยๆ เพราะว่าเราไม่รู้ว่า เดือนไหนเพื่อนจะมาชวนไปถ่าย ก็จะเมนเทรนรูปร่างเราไว้ พอเขาเรียกปุ๊บเราก็ไป ล่าสุดปก VOGUE ถ่าย 3 คนมีตุ๊ก พลอย (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) น้องญาดา(ญาดา วิลลาเรจ)
l ถือว่าช่วงนี้ชีวิตแฮปปี้สุดๆ
แฮปปี้ค่ะ ช่วงนี้ถือว่าชีวิตค่อนข้างสมบูรณ์ งาน สุขภาพ ครอบครัว ส่วนความรักก็ผ่านไปแล้วกัน
l สารส่งตรงถึงแฟนๆ ที่รอการหวนคืนจอ
พยายามอยู่นะคะ พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะหาละครสักเรื่องเล่น แล้วมีความสุขเล่นแล้วคนดู ดูแล้วมีความสุข หาอยู่ ขอให้รอคอยอยู่ต่อไป ถ้าอยากดูจริงๆ เดี๋ยวก็จะพยายามเคาะสนิมออกมา แล้วก็คิดว่าการกลับมาของเรา คนก็ต้องคาดหวังแน่นอน เพราะฉะนั้นเราก็อย่าไปทำลายความคาดหวังของเขา กลับมาก็ต้องหาบทที่ต้องได้ใช้พลังงาน หรือใช้ฝีมือที่เรามีอยู่ให้ได้มากที่สุดค่ะ
ผู้จัดท่านไหนมี บทเด็ด บทแซ่บ รีบยื่นด่วนๆ คร่า..
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี