หลายคนคงได้โยกขยับ ร้องเพลงโปรด ตามศิลปินในดวงใจกันไปแล้วกับคอนเสิร์ตเดอะ พาเลซ แอนด์ ดิ ออริจินัล แน่นอนหนึ่งในแขกรับเชิญพิเศษบนเวทีกับเจ้าของเพลงดังวันวานยังหวานอยู่ อย่างวง “แมคอินทอช” อย่าง เหมียว-สมบัติ ขจรไชยกุล, ต้น-วงศกร รัศมิทัต,หนุ่ย-สมเกียรติ ชวนสมบูรณ์, หมู-กิติพันธ์ปุณกะบุตร, นิด-สุเมศ นาคสวัสดิ์ และ ปริ๊นซ์-มรุธา รัตนสัมพันธ์ ที่ขึ้นร้องโชว์กันแบบเต็มวง ให้แฟนเพลงได้ระลึกความหลัง ชนิดสร้างความสนุกสนานกันแบบลืมวัย แต่กว่าพวกเขาจะรวมตัวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ได้โอกาส “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” คลุกวงในถามความในใจมาฝากกัน
ความรู้สึกของการกลับมารวมวง
เหมียว: ดีใจเหมือนได้กลับบ้าน ตอนเป็นวัยรุ่นเด็กๆ ก็เพิ่งตั้งวง แมคอินทอช และเล่นด้วยกันตอนอายุ 20 พอมาตอนนี้เหมือนกับเรากำลังกลับมาบ้านที่เราเคยโตมาด้วยกัน ทุกคนเป็นทั้งเพื่อนพี่น้องกัน
ต้น: สนุกครับ เหมือนได้ย้อนวัยไปในยุคที่เราเป็นเด็กแล้วก็ได้เข้ามาในวง แมคอินทอชมาเล่นดนตรีด้วยกัน ซ้อมดนตรีกันอีกครั้ง ก็ได้คุยเล่นสนุกสนานกันเหมือนเดิม คอนเสิร์ตครั้งแรกที่เราได้กลับมารวมตัวกันคือ 30 ปีแมคอินทอชนั่นคือปีค.ศ. 2012 พอมาถึงครั้งนี้ก็ประมาณ 4 ปีผ่านมา แต่ในระหว่างนั้นก็มีบ้างประปรายอย่าง เช่นไปรวมกันเพื่อซ้อมแล้วไปออกรายการวันวานยังหวานอยู่เขาเชิญมาเราก็ไป และล่าสุดจริงๆ ก็คอนเสิร์ตครั้งนี้ครับ 4 กันยายน ที่ผ่านมาแต่หลังจากนี้ก็คงจะมีงานเรื่อยๆ เพราะก็มีคนถามมาเสมอ
หนุ่ย : ก็ต้องขอบใจต้น แมคอินทอชที่นำพวกเรากลับมาเป็นออริจินัลอีกครั้งหนึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้ หลายๆ คนก็เป็นที่ชื่นชอบยอมรับ ก็ดีใจที่กลับมาได้เล่นดนตรีอีกครั้งหนึ่ง ตอนแรกคิดว่าจะเลิกไปแล้วนะ แต่จริงๆ แล้วก็ต้องกลับมาเล่นเพราะว่ามันอยู่ในสายเลือด ทุกครั้งที่สวมวิญญาณเล่นดนตรีก็ได้เลยนะ ถึงจะไม่คล่องตัวหรืออะไรก็ตามด้วยอายุเราที่มากขึ้นด้วย
หมู : เหมือนเราได้ย้อนชีวิตกลับไปตอนเด็กๆ ที่วันๆ เดี๋ยวก็ซ้อมดนตรี มีความสุขในการเล่นดนตรี สมัยในช่วงนั้นก็เรียนหนังสือไปด้วย ตอนนี้ก็สบายหน่อยไม่ต้องเรียนหนังสือแล้วชีวิตช่วงนี้ก็ค่อนข้างมีความสุขได้ทำอะไรเกี่ยวกับดนตรี
นิด : เหมือนเป็นการกลับมาเลี้ยงรุ่นได้เจอหน้ากัน น้องๆ พี่ๆ เพราะก็เจอกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เคยทำงานมาด้วยกัน เล่นมาด้วยกัน ก็หวังว่าครั้งต่อไปจะมีอีกเรื่อยๆ
จุดเด่นของวง แมคอินทอช
หมู : แมคอินทอช เป็นวงที่เป็นมนุษย์นักคิด ชอบคิดชอบวางอะไรที่ไม่เหมือนชาวบ้านมีแนวเพลงเป็นสไตล์ป๊อปมิวสิก ตอนที่เราทำเพลงขึ้นมาก็ไม่ได้คิดว่าจะดังหรืออะไรนะ แต่เราอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นคนที่แต่งเพลง ทำมิวสิก ทุกคนที่ดูแลพวกเรา เรียกว่าเราเข้าสู่องค์ประกอบที่ครบ พอกลับมาครั้งนี้อีกทีก็ได้เล่นเพลงเก่าที่เราเล่นอยู่มีความรู้สึกต่างๆเกิดขึ้น อย่างผมเวลาเล่นเพลง วันวานยังหวานอยู่ จะขนลุกขึ้นในตัวเลย รู้สึกว่ามาแล้วพลัง วิญญาณศิลปินต่างๆ ยิ่งบอกว่าเป็นรูปแบบคอนเสิร์ตก็จะมีแรงฮึดมากเป็นพิเศษ เชื่อไหมครับว่าพลังจากเราสามารถส่งต่อและหยิบยื่นให้คนฟังได้นะ แล้วคนฟังก็จะรู้สึกทันทีและขนลุกตามทันที
ความรู้สึกที่สัมผัสได้บนเวทีคอนเสิร์ตเดอะ พาเลซ แอนด์ ดิ ออริจินัล
หมู: กลิ่นอายของดนตรีก็มีผสมทั้งเก่าและใหม่ การเล่นดนตรีจากจิตวิญญาณจริงๆที่เขาเรียกว่าความเป็น มิวสิคัล เรากลับมารวมตัวครั้งนี้ก็เหมือนเราได้กลับมาอยู่ในโลกของมิวสิคัลอีกครั้งหนึ่ง
ความผูกพันของสมาชิกในวงตอนนี้
ปริ๊นซ์ : เราเจอกันบ่อยอยู่แล้ว ไปทานข้าว เลี้ยงรุ่นกันบ่อยอยู่แล้ว แต่ความพิเศษครั้งนี้คือการได้กลับมาเล่นดนตรีให้แฟนเพลงดูอีกครั้งหนึ่ง กลิ่นอายเพลงยุคเก่าๆ ที่แฟนเพลงได้ซึบซับบนเวทีพร้อมกันกับพวกเรา “แมคอินทอช”
จากใจ วง แมคอินทอช ถึง วง เดอะ พาเลซ (The Palace)
หนุ่ย : บ้านเราอาจจะเป็นเรื่องที่แปลกใหม่เหมือนกันที่หลายๆ วงมารวมตัวกันแล้วก็ได้มีกิจกรรมในการเล่นดนตรีแบบนี้ เพราะถ้าเป็นเมืองนอกก็เป็นเรื่องปกตินะที่เขาก็ทำกันหลายวงที่กลับมารวมกันแบบนี้ อย่าง เดอะ พาเลซ เขาก็ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงที่เป็นยุคที่ย้อนไปสักประมาณ 20-30 ปี เขาก็ทำได้ดี เป็นเรื่องใหม่ๆ สำหรับบ้านเรา แต่ก็มีวงอื่นเขาได้รวมกันแต่ไม่ได้มีโอกาสออกคอนเสิร์ตแบบนี้ก็อาจจะเล่นไปตามสถานที่ต่างๆ บ้าง ส่วน เดอะ พาเลซ เขาก็กลับมาแบบบิ๊กบึ้มเลย
เหมียว : เป็นความแปลกใหม่ดีที่เขาเอาวงหลายๆ วงมารวมกันแล้วก็พอคนดูได้ดูก็จะเห็นความหลากหลาย เห็นพี่ต้นก็นึกถึง พี่เหมียวพี่หมู พี่ปริ๊นซ์ แมคอินทอช พี่เต้ย วงอินคา เป็นต้น ก็ทำให้เขาสามารถที่จะทวนความจำย้อนไปได้ว่าช่วงเวลานั้นเข้าทำอะไรอยู่ ผมว่าเป็นการขายความทรงจำนะ
นิด : รวมตัวกันได้สมบูรณ์แบบ แล้วก็เล่นดนตรีได้ดีมาก เพราะว่าการที่จะเป็น เดอะ พาเลซ ก็คือนักดนตรีที่มีฝีมือหมดของแต่ละวงมารวมกัน
ที่ทุกคนการันตีอยู่แล้วเพราะฉะนั้นออกมาดีแน่นอน
ฝากถึงศิลปินวงใหม่ๆ ในปัจจุบัน
เหมียว : การที่เราเล่นดนตรีเราเล่นดีอย่างเดียวไม่ได้ อย่างวงแมคอินทอช ถ้าไปเปรียบเทียบกับวงดนตรีอื่นๆ ไม่ได้เล่นดีเลยนะ เล่นอ่อนสู้เขาไม่ได้ด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยเขาให้ความนิยมก็คือการเป็นกันเองและการ อดทนกับน้องๆ แฟนคลับแฟนเพลง เรื่องมนุษยสัมพันธ์กับแฟนคลับผมถือว่าเรื่องนี้สำคัญมากนะ เช่น บางคนนะเล่นดีมาก กลับมีแฟนน้อยกว่าอีกวงที่เล่นไม่ดีแต่แฟนเพลงเยอะ ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดนะว่า เราจะเล่นดีแล้วหยิ่งทะนงก็ไม่ได้เราจะต้องเอาใจแฟนๆ ด้วย อย่างสมัยนี้จะให้ผมแนะนำยังไงดีล่ะเพราะโลกเปลี่ยนไป กระแสไซเบอร์ ดิจิทัล ก็มีมากขึ้น จิตใจเด็กๆ รุ่นใหม่ๆ เขาก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากคนรุ่นเก่าๆ แต่ที่อยากจะสอนจริงๆ ก็ให้มองรุ่นพี่ๆ เขานิดหนึ่ง ไม่ใช่เอาแต่ใจตัว ต้องนึกถึงคนที่เราเป็นแฟนคลับเราด้วย
เทคนิคดีๆ แบบนี้วงรุ่นพี่แนะนำมานักดนตรีสมัยใหม่ควรเอาเป็นแบบอย่างไว้ด้วยสักข้อก็ไม่เสียหายอะไร เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ที่สำคัญอย่าหยุดพัฒนาผลงานและรักษาน้ำใจคนวงการเดียวกัน หรือแม้กระทั่งแฟนเพลงที่พวกเขาคอยสนับสนุนคุณ แล้วคุณจะเป็นที่ยอมรับของแฟนเพลงได้อย่างน่าภาคภูมิใจอย่างเช่นพี่ๆ วง “แมคอินทอช”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี