กลายเป็นประเด็นดราม่าอย่างมาก เมื่อนักร้องสาวรุ่นน้อง กระแต อาร์สยาม ได้ลงรูปภาพเปรียบเทียบใบหน้าตนเองกับนักร้องวสาวรุ่นพี่ ดาว มยุรี งานนี้เลยทำให้มีคนเข้ามาคอมเม้นท์กันเป็นจำนวนมาก จนสาวกระแตต้องลบรูปนั้นทิ้งไป โดยล่าสุด ดาว มยุรี ได้มาเปิดในผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ, หนิง ปณิตา และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร เจ้าตัวก็ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร เพราะรู้จักครอบครัวของกระแตมานานแล้ว และรู้ว่าน้องเป็นเด็กดี 

ประเด็นที่เกิดขึ้น กระแต อาร์สยาม ลงรูปเปรียบเทียบกับเรา? “ตอนแรกก็ตกใจเห็นเค้าแท็กรูปมาหาเรา แรกๆ เราก็ดูแค่รูปนะคะ ยังไม่ได้อ่านข้อความว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็เลยเข้ามาไล่อ่าน น้องเค้าก็แฮชแท็กมาหาเราด้วย คือเรากับน้องก็ไม่มีอะไรกันนะ จริงๆ พี่ดาวกับน้องสนิทกันมาตั้งแต่เค้ายังเด็กๆ กระแตเป็นเด็กนิสัยดี น่ารัก มีสัมมาคารวะกับเรา ไม่มีอะไรที่จะต้องมามีปัญหากัน คือแนวเพลงพี่มาในแนวภารตะรุ่นแรก แล้วน้องก็มาเจริญรอยตาม แล้วที่โพสต์เปรียบรูปใบหน้าอาจจะเป็นเรื่องด้านงานเพลงที่ว่าคล้ายกันมากกว่า”

คนอาจจะมองว่า ที่น้องทำแบบนี้อาจจะไม่มีมารยาทรึเปล่า ที่เอามาเปรียบเทียบกัน? “ต้องมองว่าใครเอารูปนี้ลง น้องหรือแฟนคลับ เพราะเราก็ไม่รู้ แต่เราก็ตามไอจีน้องอยู่แล้ว เราเพิ่งมาเห็นภาพนี้ข่าวว่ามีทั้งดีกับไม่ดี มีทั้งคอมเม้นท์ที่อ่านแล้วรู้สึกได้ เราไม่ได้มีปัญหากับน้องอยู่แล้ว แต่เราก็เข้าไปตอบคอมเม้นท์นะ จำไม่ได้ว่าตอบว่าอะไร เราชื่นชมน้องในการทำงาน เราไม่มีอะไรนะ น้องก็สวยของน้อง พี่ดาวก็สวยตามแบบฉบับของเรา ก็ไม่ได้มีปัญหากัน ก็สู้ๆ ค่ะ แต่น้องก็ลบรูปนี้ออกไป ก็ยังมีกระแสนี้อยู่ เราต้องยอมรับคอมเม้นท์ที่มีทั้งด้านลบและด้านไม่ดี”

มีคนเข้ามาชมว่าพี่ดาววางตัวดี เข้าใจรุ่นเด็กกับรุ่นใหญ่?​ “คือถ้าเราไม่รู้จักนิสัยใจคอน้องมาก่อน อาจจะรู้สึกโกรธก็ได้นะคะ แต่เค้าก็บอกว่าหนูกับพี่ดาวไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ ยังเคารพกันเหมือนเดิม ไม่ได้มียกหูเคลียร์นะคะ มีแต่คุณแม่ของน้องกระแตทักทายในไลน์กันมา ก็ไม่มีอะไร บอกน้องสู้ๆ”

“หลังมีประเด็นดราม่า ทีนี้ด้วยความที่พี่ดาวเป็นผู้ใหญ่ ก็เลยอาจจะมองข้ามไป เพราะด้วยน้องเป็นเด็กนิสัยดีมาก น่ารัก แล้วอีกอย่างหนึ่ง เค้าก็ขอโทษเรามาแล้ว ก็ไม่รู้จะไปดราม่ากันต่อทำไม ให้แฟนคลัยบเค้าตัดสินกันเอง แต่พี่ดาวไม่ได้อะไร”

น้อยใจมั้ย ว่าเวลาใครทำศัลยกรรมแล้วไม่สวย ก็ต้องมาเปรียบเทียบกับเรา? “ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เวลาใครทำศัลยกรรมแล้วไม่สวยก็ต้องมาเปรียบกับเราทุกทีเลย บางครั้งก็มีรู้สึกแต่ทีนี้มันเจอมาเยอะมากเลย พอมีเรื่องข่าวศัลยกรรมก็ต้องนึกถึง ดาว มยุรี ไม่ได้นึกถึงงานเพลงเลย คนก็จะมองว่าทำแล้วทำอีก ทำทำไม แต่เค้าไม่ได้เข้าใจหรอกว่าเราแก้สิ่งที่เราพลาดไป เราไปเจอพิษหมอเถื่อน หมอกระเป๋า 

ส้มเช้ง สามช่า เคยมาเสนอให้ไปศัลยกรรมที่เกาหลีนะคะ แต่ว่ามันราคาแพงเกือบล้านเลย จริงๆ อยากไปแต่เก็บเงินไว้ให้ลูกเรียนก่อนดีกว่า เราไม่มีคนเลี้ยงนะ เรามีค่าใช้จ่ายเพื่ออนาคตของเราด้วย”

พิษการทำศัลยกรรม ทำให้ไม่สามารถทานเนื้อได้ตลอดชีวิตเลยเหรอ? “ใช่ พี่ดาวไม่ทานเนื้อวัว หมูก็ทานบ้างแต่จะเน้นปลา เน้นผัก เพราะเราเลาะมุมปาก ข้างกรามมา 4-5 ครั้งเลยนะคะ พอเราเลาะมากๆ เข้ามันจะเกิดพังผืดรั้ง ถ้าเราทานเนื้อมากๆ มันจะสร้างพังผืดไปรั้งมุมปากเรา เลยเลือกที่จะไม่ทานเนื้อวัวนะคะ

อีกอย่างสวดศีลห้าด้วยทุกคืนค่ะ มา 2 ปีแล้ว สิ่งที่ทำให้เราปล่อยวาง เกิดจากกระแสข่าวที่เราโดนมา อย่างเรื่องหน้าตาเราไม่ควรผิดพลาด แต่เราดันมาผิดพลาด อีกทั้งกระแสสังคมที่ด่าเราหน้าเน่า หน้าเสีย สิ่งที่จะดึงให้จิตเรานิ่งก็คือธรรมะ โดยการปฏิบัติธรรม บางครั้งเราจะเขวไปบ้างนะ สิ่งที่เราทำได้ก็คือการสวดมนต์ สวดศีลห้าทุกคืน”

ก่อนที่จะมาสวดมนต์ พี่ดาวเคยเป็นโรคซึมเศร้าไม่ยอมส่องกระจกมาก่อนจริงมั้ย? “มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ตอนผ่าตัดช่วงที่สอง เอฟเฟคมันแรงมาก ไม่รู้ว่ามันไปสะกิดเส้นประสาทรึเปล่า ตอนนั้นยิ้มแล้วมันเบี้ยวแรงมาก เราไปออกรายการ ไม่กล้ายิ้มเลย เพราะกลัวมันจะเบี้ยว เราก็พยายามยิ้มน้อยๆ ไม่ค่อยพูดมากเท่าไหร่ พอหลังรายการจบก็จะถามพี่เลี้ยงเลยว่า มันเบี้ยวมั้ย ไม่มีความมั่นใจเลย ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราขาดความมั่นใจไปเลย แต่เราไม่หยุดงานนะ เราสู้”

เรื่องความรักเราก็ผิดพลาดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง? “นั่นแหล่ะ เรื่องศัลยกรรมนี่ต้องโทษตัวเองเลย เค้าเรียกว่าเชื่อคนอื่นมากเกินไป ไม่ยอมเชื่อตัวเองว่าสวยแล้วนะ เราไม่ยอมศึกษาหาข้อมูล เพราะสิ่งที่เค้าชวนเรา เราคิดว่าน่าจะดี ตัดสินใจเร็วเกินไป ของฟรีไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะคะ

ส่วนเรื่องความรัก ผ่านช่วงเศร้ามาบ้าง ทั้งอดีตและปัจจุบัน ไม่รู้ว่าเพราะดวงเราถูกลิขิตมาให้เป็นอย่างนี้รึเปล่า แต่ว่ามา ณ วันนี้เริ่มจะดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา”

ความรักครั้งล่าสุดเป็นยังไงบ้าง? “ตอนนี้ต่างคนต่างถอยหลังกันคนละก้าว เค้าถอย เราก็ถอย ด้วยความที่เราต่างคนต่างอารมณ์ร้อนทั้งคู่ ที่ต้องเลิกกันเพราะความไม่เข้าใจกันมากกว่า ความน้อยใจ แต่ไม่ได้มีอะไรนะคะ พอเราเชียร์เพลงของเรา เราลิ้งค์เข้าเพลงของเรา ทางคนของเราก็เอาข้อความนี้ไปดัดแปลงขึ้นรูปคู่ทางหน้าเฟซบุ๊คเค้า เค้าเข้าใจว่าเราไปว่าเค้า เราก็เลยลงขอโทษเค้าไป ว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะไปว่าใคร แต่เค้าก็ไม่พอใจ ก็ก๊อปข้อความนั้นแล้วบอกว่า พูดแบบนี้ให้ตุ๊กตาทองไปสองตัวเลย เราเห็นเราก็เลย เอ้า พูดอย่างนี้ก็เลยไปแจ้งความดีกว่า ก็เอาหลักฐานทุกอย่างไปที่ สน.”

ตอนนี้ทางฝ่ายคู่กรณีถึงขั้นหนีไปบวชเลย? “ตอนแรกก็ไม่รู้ ก็ไม่ได้คุยกันมาเดือนกว่า เราก็พยายามติดต่อเค้า บอกผ่านๆ คนที่เค้าสนิท ว่าถ้าเค้ารับรู้ก็ให้โทรมาเคลียร์ จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะแจ้งความเค้านะคะ เราแค่อยากปกป้องสิทธิ์และชื่อเสียงของเรา มา ณ วันนี้เค้าไปบวช ก็ได้มีการติดต่อคุยกันเป็นครั้งแรก เค้าขอโทษและขออโหสิ เป็นความรู้สึกดีๆ ที่ได้ฟัง ตอนที่โทรมาเค้าอยู่ในชุดขาวแล้ว ไปปฏิบัติธรรมแล้ว ไม่ใช่ว่าเราใจอ่อนนะคะ ในเมื่อเค้ากล้าโทรมาขออภัยกัน เราก็ขออโหสิ ต่างคนต่างขอโทษซึ่งกันและกัน”

จะกลับมาคืนดีกันได้มั้ย? “ก็เป็นเรื่องของอนาคต ในเมื่อเค้าโอเค เอาธรรมะเป็นหนทางของชีวิต เราก็ยินดีกับเค้าด้วย เพราะเราเคยบอกเค้าว่าอยากเห็นเค้าเป็นแบบนี้ เราคบกันมา 9 เดือนกว่า เค้าเป็นคนที่ดีมากๆ ก็ยังมีความรู้สึกที่ดีให้เสมอ”