โอกาสพิเศษ วันพ่อแห่งชาติ ในปีนี้ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” คว้าคุณพ่อมือใหม่ นาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ต้าร์มาพูดคุยค้นใจถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต หลังภรรยาสาวน้ำหวาน-พัสวี คลอดลูกสาวคนแรก “น้องลูก้า” (ด.ญ.พิณวา เยาวพลกุล) มาเป็นโซ่ทองคล้องใจ จนใครต่อใครลงความเห็นว่า พ่อต้าร์หลงลูกหนักมากกก
สมาชิกใหม่ในอ้อมกอด
ตอนนี้ลูกสาว “น้องลูก้า”1 ขวบ 3 เดือนแล้วครับ ปีหน้านี้ก็จะส่งเข้าโรงเรียน จะได้เรียนรู้ภาษา ติดต่อโรงเรียนไว้ตั้งแต่เขาอยู่ในท้องเลยครับ (หัวเราะ) ตั้งแต่ไม่รู้เพศ ตอนกรอกใบสมัคร ใส่ไม่ถูกเลยว่าจะเพศไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย (หัวเราะ) คือการเป็นพ่อ-แม่เดี๋ยวนี้ เราต้องเตรียมการ ผมก็เตรียมพร้อม วางเอาไว้จนถึงเขาเรียนจบเกรด 12แล้วครับ ให้เขาพร้อมสอบ SAT แล้วก็เลือกมหาวิทยาลัย คือตั้งใจให้การศึกษาพื้นฐานเขาจนจบ นั่นคือสิ่งที่ผมจะทำได้ พอเขาก้าวไปเป็นผู้ใหญ่ เข้า Collegeก็เป็นเรื่องของเขาแล้วล่ะ เขาต้องเลือกเองว่าอยากเรียนอะไร
คุณพ่อสไตล์ นาวิน ต้าร์
ผมเป็นคนไม่ดุนะ อาจจะตามใจเขามากกว่าคุณแม่นิดหน่อย แต่จริงๆ ก็ตามใจทั้งคู่แหละ แต่คุณแม่จะเข้มงวดกว่านิดหนึ่ง (หัวเราะ) ผมบางทีก็ใจอ่อนนะลูกสาวน่ะ เรารู้สึกว่าไม่อยากตี ไม่อยากดุแล้วเดี๋ยวค่อยไปสอนทีหลัง แต่แม่เขาบอกไม่ได้นะ ต้องเริ่มเลยตั้งแต่ตอนนี้ผมก็ใกล้ชิดกับเขามากพอสมควร เพราะผมถือว่าช่วงตั้งแต่แบเบาะจนถึง 4-5 ขวบเป็นช่วงเวลาที่เขาจะต้องได้รับการซัพพอร์ตในด้านของอารมณ์ ในด้านของความมั่นใจ ความปลอดภัย พื้นฐานอะไรเหล่านี้ จากคนเป็นพ่อ-แม่ การที่เราเลี้ยงเอง อยู่กับเขาจริงๆ ดีกว่าอันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการเลี้ยงเด็ก แต่พอเขา 4-5 ขวบ ไปแล้ว เขามีเพื่อนแล้ว ก็คงจะต้องหาคนมาแบ่งเบาภาระ เราก็ไปทำอย่างอื่น ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าเป็นพ่อลูกอ่อนอยู่ ก็ให้เวลาเขาเต็มที่ครับเพราะว่าชีวิตของเขาสำคัญ แล้วก็เราก็ต้องทำให้ดี
คุณพ่อมือใหม่
ผมทำทุกอย่างเลยครับ เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ ยกเว้นไม่มีนมให้เขาดื่มเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ถ้ามีนมก็ให้แล้ว ช่วงนี้เขาทานอาหารได้แล้ว ก็จะลำบากในการป้อนนิดหนึ่ง ต้องใช้ความอดทน ต้องหลอกล่อบางทีเขาไม่อยากกิน อยากเล่น แล้วบางทีการเป็นเด็กก็ไม่มีเหตุผล อยากเล่นแต่ก็หิว ง่วงแต่ก็ไม่นอน อะไรแบบนี้ ก็เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้ไปกับเขา เราจะใช้เหตุผลกับเขาไม่ได้ เราต้องใช้การสังเกต แล้วก็มองว่าเขาต้องการอะไร เพราะเด็กเขาจะรู้แค่ความต้องการของตัวเอง เขาก็จะเอาแต่ใจ แต่เด็กตลกนะ หลอกใช้เราได้ตลอดเวลา (หัวเราะ) เขามีวิธีของเขาที่ทำให้เราใจอ่อน บางทีก็โอ้โหเหนื่อยมากเลยที่ทำทุกอย่างเพื่อเขา แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างที่ทำให้เขาก็ด้วยความรักที่เรามีต่อเขาแหละ แล้วเราก็เชื่อว่าเราจะรักเขาให้ถูกวิธี
ต้นแบบของการดูแลลูก
ผมกับภรรยาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ไหนจะเรื่องงาน เรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมาย แล้วยังต้องเลี้ยงลูกด้วย ก็งงๆ พอๆ กับเขาแหละ เพราะเราก็เป็นครั้งแรกเราเองก็สอนใครไม่ได้ ว่าการเป็นพ่อ-แม่ที่ดีเป็นยังไง โอเคเรารู้ล่ะว่าเรารักเขา รักมากด้วย ซึ่งเราเองก็ไม่เคย แต่ก็ต้องจัดการกับความรักตรงนี้ของเราให้ดีก็งงพอๆ กับคนอื่นครับ สุดท้ายก็ใช้ใจและประสบการณ์ของเรานี่แหละนำชีวิตของเราทั้งหมดไป ซึ่งเราก็คิดว่ามันจะดีนะผมว่าเป็นเรื่องที่พ่อ-แม่มือใหม่แต่ละคนจะต้องเรียนรู้กันด้วยตัวเอง แล้วก็ยากเหมือนกันนะ ไม่มีใครรู้ดีที่สุดหรอก ผมเองก็จะเน้นอ่านหนังสือ แต่พออ่านๆ ไปก็ไม่ช่วยนะ (หัวเราะ) หนังสือ 5 เล่ม ก็คิดกันไป 5 แบบ เด็ก พ่อแม่ แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ละคนมีวิธีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันออกไป เราจะทำยังไงที่จะเลี้ยงเด็กที่จะโตขึ้นมาในโลกที่เราเองก็ยังไม่รู้จักเลยว่าจะเป็นยังไง เขาจะต้องแข็งแรงพอกับอนาคต ซึ่งเราก็ไม่รู้อีกว่าอนาคตจะเป็นยังไง
ถ่ายทอดจากคุณพ่อ ส่งต่อถึงคุณลูก
ผมเป็นเด็กที่โตมากับการสอนด้วยเหตุผลมาตลอด เรื่องของความมีเหตุผล ทำอะไรก็อยู่บนหลักของเหตุผล แต่ด้วยความที่ลูก้าเป็นผู้หญิง ผมอยากให้เขาเป็นคนที่มีความสุข มากกว่าเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุด แต่ถ้าเขาไม่มีเหตุผลเลย เขาก็จะอยู่ร่วมกับคนได้ยาก เขาก็ต้องรู้ว่าตัวเขาต้องการอะไร แล้วการบาลานซ์ทั้งสองอย่างคือเหตุผลและอารมณ์ เป็นศิลปะที่เขาจะต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อจะทำให้ได้คือคนเราอยู่บนพื้นฐานแบบนี้แหละ ผมเป็นเด็กที่มี Passion รู้สึกอะไรก็รู้สึกหนักมาก ดราม่า แล้วเราเป็นเด็กผู้ชายด้วย บางทีอารมณ์ความรู้สึกก็แสดงออกได้ไม่มากก็เลยใช้เหตุผลเข้ามาเกี่ยว แต่สิ่งที่เรียนรู้ในบางเรื่อง มันก็ใช้เหตุผลไม่ได้ ต้องใช้ใจ การที่เรายึดอยู่บนหลักของความถูกต้องอย่างเดียว บางทีมันเหนื่อย กดดันที่ต้องแบกรับ ผมก็รู้สึกว่าเออนี่คือบทเรียนของชีวิตเรานะที่เราได้รับมา และรู้สึกอยากจะถ่ายทอด มันมีอีกหลายเรื่องที่เรารู้สึกว่าเราทำได้ดีหรือไม่ดี เราได้เรียนรู้ เราก็คงจะช่วยให้คำแนะนำได้ ไม่ใช่จะไปปั้นหรือตีกรอบอะไรให้เขา ที่ทำได้ก็คือคงอยากจะให้เขาได้โตไปเป็นคนที่เขาอยากจะเป็น อยากให้เขาเป็นคนที่อยากจะทำอะไรก็ทำได้
แพลนลูกคนที่สอง
เริ่มคิดอยู่บ้างครับ เพราะจริงๆ เราก็อยากจะมีมากกว่า 1 คนอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องไปกดดันมากกับคนเดียว แต่ความรู้สึกของภรรยาก็จะแบบรักใครไม่ได้อีกแล้ว จะรู้สึกว่าแบบรักเขามาก แล้วก็เป็นห่วง ไม่อยากจะแบ่งความรักนี้ให้ใคร แต่ผมอยู่มาแบบมีพี่มีน้องที่แบ่งความรักกันเราก็จะบอกว่ามันคือเรื่องธรรมชาตินะแล้วไม่มีทางว่าเราจะรักใครสองคนเหมือนกันไม่มีทางว่าเดี๋ยวจะต้องรักคนหนึ่งตลอดไป แล้วไม่รักอีกคน ซึ่งจริงๆ เดี๋ยวมันก็จะเฉลี่ยและปรับกันไปเอง ผมคิดว่ามันต้องมีวิธีที่ลงตัว และโดยธรรมชาติเด็กถ้าเขามีพี่น้องหรือมีเพื่อน อย่างน้อยเขาก็ยังมีคนมาพูดคุย ปรึกษา เพื่อคอมเพลนเรื่องเกี่ยวกับพ่อ-แม่ (หัวเราะร่วน) เรื่องที่พูดกับพ่อแม่ไม่ได้ ก็จะคุยกับพี่น้องแทน เขาจะได้ไม่เหงา ผมว่าถ้าคนเดียวทุกอย่างมันจะเข้มข้นไปหมด ลูกเขาก็จะเป็นผู้นำกล้าคิดกล้าทำ ทำอยู่คนเดียวก็คอนโทรลคนละแบบ จริงๆ ผมก็มองว่ายังไงก็ได้ แต่ถ้ามี 2-3 คนขึ้นมา ก็จะรีแลกซ์กว่า ผมรู้สึกว่าจะเป็นครอบครัวที่เบากว่า ทุกอย่างไม่ต้องหนักไปอยู่คนเดียว คนหนึ่งพลาดหรืออะไรก็ยังมีอีกคน จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ดีหมด แต่ก็อยากให้เป็นผู้ชายนะ เพราะคนแรกเป็นผู้หญิงแล้ว ก็อยากจะให้มีพี่สาวที่ดูแลน้องชาย แต่ถ้ามีลูกสาวอีกคนหนึ่งก็น่าจะดีเหมือนกัน เพราะก็ชอบลูกสาว ลูกสาวน่ารักน่ะ ไม่ดื้อมาก ไม่ซนมากก็สนุกดี (หัวเราะ) แต่ลูก้าดูแก่นพอสมควรอยู่เหมือนกันนะ ไม่ค่อยเรียบร้อยเป็นแบบเปรี้ยว แสบมาเลย ไม่ใช่ผ้าพับไว้ ชอบปีนนู่นนี่นั่น แกล้งคนนั้นคนนี้ มีความห้าว เขาเป็นของเขาเองนะ เราก็ไมได้ไปสอนอะไรเขา
ความเห่อหลานของ ปู่ ยา ตา ยาย
คุณตากับคุณยายจะเห่อมากครับ เป็นหลานคนแรก คุณยายนี่ไม่ใช่ว่ารักหรือตามใจนะ เทิดทูนและบูชาเลย (หัวเราะ) ผิดไม่ได้ ไม่มีผิด สุดๆ แล้ว ฝั่งคุณปู่คุณย่าก็เป็นหลานคนที่สอง แต่เป็นหลานสาวคนแรก แล้วความที่ดูๆ ไป น้องก็หน้าตาคล้ายๆ ปู่ ได้ปู่มาเยอะ ปู่ก็เห่อ พอไม่ได้เจอก็จะคิดถึงมาก ฉะนั้น ปู่ ย่า ตา ยาย ก็จะมาหาเราบ่อย แบ่งจัดสรรกันมา อยู่ในลักษณะนั้น ทุกคนมาโฟกัสที่น้องลูก้า ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นเรื่องของครอบครัวชุลมุนดีครับ (หัวเราะ)
แพลนวันพ่อ
ปกติผมไม่ค่อยทำอะไรนะ เพราะที่บ้านไม่ได้มีอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ไม่ค่อยฉลองอะไรกัน คือที่บ้านไม่ค่อยมีความอ่อนโยนในด้านนี้ แล้วบางทีก็ไม่ค่อยแสดงออกกัน อาจจะเพราะเป็นลูกผู้ชายกันเยอะด้วย แต่ที่แสดงออกก็จะเป็นลูกสาวคนเดียว เขาก็จะมีลูกอ้อนอะไรของเขากับคุณพ่อ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ก็เพิ่งเป็นคุณพ่อปีแรก ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องยังไง เป็นแบบไหนรู้แต่ว่าลูกเราเล็กก็อยากจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด ให้เขาโตไปเป็นเด็กเล็กที่แข็งแรง ยังไม่ต้องถึงขั้นที่จะต้องไปทำงานที่ไหน หรือเป็นคนยังไงหรอก ผมก็มองใกล้ๆ ไว้ก่อน แต่เรารู้นะว่าตั้งแต่เราเริ่มที่จะมีลูก ก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของความรักที่พ่อแม่มีมาให้เรา ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ แล้วเราเองก็เพิ่งจะได้สัมผัสด้วยตัวเองก็เมื่อตอนมีลูกนี่แหละ เหมือนกับที่ทุกคนพูดๆ กัน ใครไม่มีก็ไม่รู้ซึ้ง แล้วมันก็เพิ่งรู้จริงๆ โอ้โห...จู่ๆ ก็มีคนหนึ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วมาเปลี่ยนโลกเราเลย โผล่ขึ้นมาปุ๊บ มาเป็นทุกอย่างเลย ผมพูดได้เลยว่าผมเป็นคนใหม่ มองความสำคัญทุกอย่างเปลี่ยนหมด มองอะไรเปลี่ยนไปเยอะ แต่ก็ดีที่เรารู้จักทำเพื่อคนอื่นมากกว่า จากที่แต่ก่อนสนองแต่ตัวเอง พอมีลูกก็รู้ถึงความรักอีกแบบ ไม่ว่าเขาจะยังไงเราก็รักเขา แล้วทำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงเราก็จะยืนอยู่เพื่อเขา และในวันพ่อมันก็คงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ฉลองความรักของพ่อที่มีต่อลูก เป็นความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ เป็นความรัก ความเสียสละที่พ่อมีให้ ซึ่งก็ไม่ได้หวังอะไรครับ
อัพเดทผลงานเบื้องหน้า
ตอนนี้ผมทำพิธีกรทางพีพีทีวี 36 ครับ รายการ “ความจริงไม่ตาย” เป็นกึ่งๆ รายการสารคดีนิดๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตและมีผลมาถึงปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมบ้าง เรื่องที่เป็นข่าว หรือประวัติศาสตร์ที่เราจะยังพอจำกันได้ สนุกดีครับ เราได้ใช้ความเป็นเราพูดให้คนเข้าใจ เรากับทางรายการก็ได้ทำงานด้วยกันจริงๆ ในเรื่องของสคริปต์ เขาก็ฟังผมด้วย ผมเองก็มีโอกาสไปเสนอไอเดีย แชร์นู่นนี่นั่นได้ ซึ่งเขาก็รับฟังเรา ถือว่าเป็นการทำงานที่สนุก เป็นรายการที่จรรโลงสังคม คือผมเองก็เชื่อว่าสาระกับบันเทิงมันน่าจะอยู่ด้วยกันอย่างแนบเนียน เพื่อที่คนดูเขาจะได้เก็บเกี่ยวไปบ้าง แต่ในยุคปัจจุบันเน้นที่บันเทิงหนักมากเหลือเกิน จนไม่มีที่ให้คนที่ชอบดูสาระดู เพราะฉะนั้นฝากด้วยนะครับกับรายการ “ความจริงไม่ตาย” ออนแอร์ทางช่อง PPTV ทุกวันพุธ เวลา 21.30 น. (ส่วนของงานแสดง?) ตอนนี้ยังไม่ได้รับครับ หลังจากมีน้องลูก้า ก็ยังหาเวลาไม่ได้ ขอหยุดไว้สักพักหนึ่ง พอทุกอย่างลงตัวก็น่าจะรับได้ ปีหน้าก็น่าจะโอเคครับ
กับบทบาทนักไตรกีฬา
ช่วงนี้พักอยู่ครับ หลังจากบาดเจ็บ ก็มีกลับไปเริ่มวิ่งบ้าง กำลังค่อยๆ ฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิม ไม่เข็ดครับ แต่จะกลับมาแข็งแรงกว่าเดิม เพราะเรารู้แล้วว่าเจ็บตรงไหน และรู้ขอบเขตของเราว่าได้แค่ไหน จุดที่พลาดก็จะไม่พลาดอีก ที่พลาดตอนนั้นคือล้ม แล้วก็ล้มอยู่ที่เดิม เหมือนเราซ้อมหนักเกิน แล้วเราเองก็อาจจะไม่ฟังร่างกายของเราด้วย ตอนนี้เลยรู้สึกเข้าถึงร่างกายมากขึ้น พอซ้อมหนักแล้วนะเราก็ต้องเบาลง สลับกันไป ตอนนั้นผมหนักไปหน่อย แต่ตอนนี้ได้เรียนรู้อะไรเยอะแล้วครับ มั่นใจว่าสิ่งที่เรียนรู้มา จะทำให้เราทำได้ดีกว่าเดิมอีก คิดว่าจะกลับไปแข่งแน่นอน ที่ผ่านมาผมต้องหยุดปั่น วิ่ง ว่ายน้ำได้อย่างเดียว ทำให้ตอนนี้ว่ายน้ำเร็วขึ้นมาก ซึ่งไม่เคยเป็นสิ่งที่ถนัดเลยตั้งแต่ว่ายน้ำตอนแรกก็กลัวมาตลอดตอนนี้ว่ายน้ำมาเลย เร็วแน่นอน แต่ไม่ได้ถึงขั้นนักว่ายน้ำอาชีพนะครับ แต่ก็จะเร็วขึ้นมากกว่าเดิม ถ้าฟิตกว่านี้ก็จะเร็วกว่านี้อีก เดี๋ยวรอดูว่าจะออกมาเป็นยังไง ขอเวลานวดปั้นนิดหนึ่ง แล้วจะออกมาเป็นนักกีฬาคนใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมครับ
ธุรกิจครอบครัว
ธุรกิจที่ทำกับครอบครัวไปได้ดีครับ เรื่องของวิตามินช่วยเพิ่มน้ำนมแล้วก็บำรุงร่ายกายของแม่ เราทำมาพร้อมๆ กับลูก้า ที่ทำทุกอย่างก็ทำให้ลูก ผมรู้สึกว่าสมัยก่อนเราทำทุกอย่างก็ทำด้วยใจเรา ตอนนี้ทุกอย่างก็จะลูกๆ หมดเลย ก็ไปได้สวยครับ กำลังเจริญเติมโตได้ดี ตอนนี้ก็มองถึงช่องทางให้กว้างขึ้น เราอยากจะส่งออกนอกด้วย วางแผนไว้เป็นแผนระยะยาวอยากจะไปขายให้ได้ในทั่วโลกครับ
มุ่งมั่นขนาดนี้ เห็นทีจากคุณพ่อมือใหม่เจอกันอีกทีหนุ่ม นาวิน ต้าร์ คงได้กลายเป็นคุณพ่อมืออาชีพ ที่มีแต่คนมาขอคำปรึกษาค่ะว่าแต่...อย่าลืมหาเวลาผลิตทายาทลำดับที่สอง มาเป็นเพื่อนเล่นน้องลูก้าด้วยนะคะ
กัลลัตตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี