วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
สกู๊ปพิเศษ : 4 บทบาทชีวิต  ลิขิตให้เขาเป็น... ท็อป-จรณ โสรัตน์

สกู๊ปพิเศษ : 4 บทบาทชีวิต ลิขิตให้เขาเป็น... ท็อป-จรณ โสรัตน์

วันจันทร์ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag :
  •  

ค้นหัวใจกันแบบล้วงลึก กับความเป็น ท็อป-จรณ โสรัตน์ พระเอกหนุ่มที่ส่งยิ้มหวานครั้งใด สาวๆ หัวใจละลายกันทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เราขอละเรื่องความรัก ที่เจ้าตัวเพิ่งกลับมาครองความโสด เข้าสู่โหมดตัวตนความเป็น “ชาย” ท็อป-จรณ ใน 4 บทบาท ลูกชาย, พี่ชาย, ผู้ชาย และนักแสดงชาย จะมีเส้นกราฟชีวิตในรูปแบบไหน ตามไปค้นหาคำตอบกัน

 


<<ลูกชาย>>

ความสัมพันธ์ในครอบครัว?

ครอบครัวผมมีพี่น้อง 2 คนผมเป็นคนพี่คนโต มีน้องชายเป็นตำรวจ (ไทด์-ไพบูลย์ สอโส) ผมเป็นลูกชายที่ตามใจแม่ (แพรวพัตรา สอโส) คือที่บ้านจะแบ่งแบบ ผมจะเป็นลูกแม่น้องชายจะเป็นลูกพ่อ (พลโทเชาวน์โรจน์ สอโส) ผมก็จะเป็นสไตล์ตามใจแม่อยากได้อะไร หรือว่าจะให้พาไปไหน ก็พาไป ส่วนน้องชายจะขี้อ้อน ไทด์จะนิสัยเหมือนแม่ ผมจะนิสัยเหมือนพ่อ ก็เลยต้องแยกกัน คนเหมือนกันจะอยู่ด้วยกันไม่ค่อยได้ (หัวเราะ) แต่ผมก็อยู่กับพ่อได้นะ จะนิ่งๆ เงียบๆ ไทด์กับแม่จะคุยเก่ง

 

ลูกชายในแบบของท็อป?

ผมเป็นลูกชายที่อยู่ในกรอบนะเพราะเป็นครอบครัวทหารด้วยมั้งครับคุณแม่ก็จะดุมากกว่าคุณพ่อ เขาจะมีระเบียบวินัยค่อนข้างสูง แล้วแม่จะเป็นคนหัวโบราณมากๆ เพราะเขาก็เติบโตมาในครอบครัวที่เลี้ยงมาแบบโบราณจริงๆ จะมีความเป็นวัฒนธรรมไทยค่อนข้างสูงมาก สมมุติเดินผ่านผู้ใหญ่ต้องโค้ง แต่ผมจะต้องคลานเข่าเข้าไป จะโดนฝึกมาแบบนี้ตั้งแต่เด็ก หรืออย่างผมยาวก็ต้องตัดผม เสื้อก็ต้องเข้าในกางเกงตลอด ห้ามใส่รองเท้าแตะออกจากบ้าน ต้องใส่ถุงเท้ารองเท้าผ้าใบ ตอนนั้นก็อึดอัดนะ ด้วยความที่เราเป็นเด็ก อย่างเวลาวันหยุด เห็นเพื่อนเขาเอาเสื้อออกนอกกางเกง ดูเท่จังเลย ก็อยากทำบ้าง อยากออกนอกกรอบบ้าง แต่พอโตขึ้นมาก็ทำบ้าง โดนดุช่วงแรกๆ สักพักก็เริ่มชิน (หัวเราะ) (มีบทลงโทษแบบไหนจากคุณแม่?) ไม้แขวนเสื้อตีบ้าง มือตีบ้าง คือคุณแม่จะตี คุณพ่อจะคอยห้าม(หัวเราะ) บ้านผมค่อนข้างเข้มงวดเรื่องเวลากลับบ้านมาก สมัยผมอยู่มหาวิทยาลัย ก็จะกลับบ้านทุกอาทิตย์ เรามาเรียนต่างจังหวัดก็จริง เราก็ต้องกลับบ้านวันศุกร์ตอนเย็นแล้วเช้าวันจันทร์ก็มาเรียน ผมจะค่อนข้างติดบ้าน เวลามีวันสำคัญวันพ่อ วันแม่ วันหยุดยาวๆ ก็จะอยู่กับครอบครัวตลอด เหมือนเป็นกฎแต่มันทำให้กลายเป็นความเคยชิน กลายเป็นวัฒนธรรมของครอบครัวไป ทุกวันสำคัญของวัฒนธรรมไทยเราก็จะทำ เช่น เอาพวงมาลัยมาไหว้คุณพ่อคุณแม่ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เหมือนถูกปลูกฝังมาแต่เด็ก โตมาพอเรามองย้อนไปแล้วรู้สึกดีนะครับที่ได้ทำ ได้สืบสานวัฒนธรรมไม่ได้หายไปไหน แล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีงาม เวลาเรามีลูก เราจะได้สอนลูกได้

ความในใจถึงคุณพ่อคุณแม่?

ผมอยากขอโทษที่ตอนเด็กๆ เราไม่ตั้งใจเรียน โดดเรียนบ่อยไปเล่นเกม ตามประสาเด็ก ส่วนเรื่องที่ภูมิใจ ผมว่าทุกวันนี้ผมก็ภูมิใจนะอย่างแรกเลย สอบเอนทรานซ์ติด เขาก็ดีใจ ภูมิใจ แล้วก็พอทำงานทุกคนก็ได้ทำงานในหน้าที่การงานที่ดี เขาก็ภูมิใจ พ่อกับแม่เอาไปอวดเพื่อนๆ ได้(หัวเราะ) ดีใจที่ได้เลี้ยงดูท่านครับ แต่เขาก็เลี้ยงดูตัวเองได้นะ (หัวเราะ) คุณพ่อก็ใกล้เกษียณแล้ว อย่างที่บอก บ้านผมจะอยู่ติดบ้าน เทศกาลก็จะไม่ค่อยไปเที่ยวไหนกัน ต่างประเทศก็แทบจะไม่ไปด้วยกันเลยด้วยซ้ำ เพราะแม่กลัวเครื่องบิน ไม่ชอบไม่อยากไป แล้วก็เป็นบ้านที่สังสรรค์ตลอดเวลา ต้อนรับเพื่อนๆ พ่อ เพราะพ่อเป็นทหารเขาก็จะมีเพื่อนเยอะ เวลาผมกลับบ้านไปน้อยมากที่เราจะได้อยู่กันแค่ 4 คน ส่วนใหญ่จะมาเป็น 10 บ้านไม่เคยเงียบเหงาครับ

 

<<ผู้ชาย>>

ผู้ชายสไตล์ท็อป?

ผมเป็นผู้ชายที่สบายๆ เป็นคนใช้ชีวิตชิลมากมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ เป็นคนขี้เกียจ ไม่ Active แม่ก็จะบอกว่าเป็นเด็กมีปัญหา จะชอบอยู่ในห้อง เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงอยู่คนเดียว ดูทีวี. นอน ถึงเวลากินข้าวก็ค่อยลงมากิน ไม่ค่อยพูด เงียบๆ ยิ้มๆ ไม่ทำการบ้าน แต่เป็นเด็กหัวดีนะ(หัวเราะ) อันนี้ตอนสมัยเด็กๆ นะครับ ฉะนั้นผมก็จะไม่ใช่เด็กที่ซน แม่ก็จะชอบ แล้วแม่ก็ดุด้วย ห้ามนอนบ้านเพื่อน เสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน แต่พอเวลาได้อยู่กับเพื่อนก็เลยจะค่อนข้างเกเร คือเด็กที่อยู่ในกรอบมากๆ พอวันหนึ่งที่แบบไม่ได้มีใครมาบังคับ มันก็จะพยายามออกจากรอบ อันนี้เป็นเรื่องปกติของคน เป็นธรรมดา เป็นวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตผู้ชายเต็มที่ แม่ก็จะมีตกใจเล็กน้อย ทำไมลูกฉันเป็นแบบนี้(หัวเราะ) (วีรกรรมแบบไหนคะ?)แบบยกพวกตีกันก็มีครับ ตอนประมาณวัยรุ่นมัธยมต้น ตามเพื่อนไป แต่ไม่ได้ถึงขั้นขึ้นโรงพักหรืออะไรขนาดนั้นนะครับ เป็นอารมณ์เด็กๆ วัยรุ่นผู้ชายต่อยกันธรรมดา

คำสอนแม่?

แม่จะสอนให้เราเป็นคนอดออม แม่จะสอนให้เราเก็บเงิน อยากได้อะไรก็ต้องเก็บตังค์ซื้อเอง ผมก็จะเก็บตังค์ทุกวัน อย่างน้อยก็ 5 บาท ฉะนั้นก็จะขี้งกไม่ค่อยกินขนม เก็บ 5 บาท 10 บาทแล้วพอถึงเวลาก็จะมีไปซื้อดอกไม้ให้สาวที่จีบในวันวาเลนไทน์ อะไรแบบนี้ก็มีมุมแบบนั้นบ้าง ซึ่งตอนนี้ก็มีบ้างซื้อดอกไม้ให้สาว อันนี้ไม่ได้เก็บตังค์นะเพราะเราทำงานเป็นเงินของเราเองแล้ว (ยิ้ม)

 

 

โหมดนักกีฬาชาย?

“สมัย ม.ต้น ผมเล่นบาสเกตบอลครับ แต่ก็ไม่ได้จริงจังมาก คือที่บ้านจะมีสนามบาสอยู่ข้างบ้าน แล้วพี่สาวข้างบ้านจะชอบเล่นบาส ด้วย ก็จะปั่นจักรยานไปเล่นบาส ด้วยกัน รู้สึกว่าเล่นบาส เท่จัง ส่วนฟุตบอลมีเตะบ้างแต่เพื่อนไม่ได้เยอะเท่าบาส พอเข้าโรงเรียนก็จะเลือกเข้าชมรมบาส อยู่ไปได้ประมาณสองอาทิตย์ เลิกเลย(หัวเราะ) เพราะว่าเหนื่อยมาก ไม่ไหว กลับบ้านเย็น มือแตก ตอนนั้นเราผอมด้วย แล้วเพื่อนสนิทตัวใหญ่ เพราะเวลาซ้อมเขาให้ไถนา เพื่อนจับขาแล้วใช้แขนเดิน ใครแพ้โดนทำโทษเพื่อนตัวใหญ่ก็ไถใหญ่เลย ผมนี่มือเหวอะเลย พอเราจะต้องเข็นกลับก็ไม่ไหวไง เราตัวเล็ก ตอนหลังคุยกัน ซ้อมมาอาทิตย์หนึ่งแล้วนะ ยังไม่ได้ลงสนามเลย ย้ายชมรมเถอะ ไม่เวิร์ก (หัวเราะ)

<<พี่ชาย>>

บทบาทพี่ชาย?

จริงๆ ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยได้ทำหน้าที่พี่ชายเท่าไหร่นะ (หัวเราะ) อาจจะเพราะอายุเราก็ไม่ได้ห่างกันเยอะด้วยแหละมั้งครับ ห่างกันแค่ 2 ปี ส่วนใหญ่ก็จะคุยกันเหมือนเพื่อนมากกว่า แต่ก็ไม่ถึงขั้นกูมึงอะไร มีความเคารพกันอยู่ผลัดกันดูแลแก้ไขปัญหากันบ้าง อย่างช่วงแรกๆ เราหาเงินได้เยอะกว่า ก็ช่วยน้องบ้าง เวลาเรามีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับกฎหมาย เขาเป็นตำรวจ ก็จะให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมายเราบ้าง ผลัดกันครับ

ทะเลากันบ้างไหม?

มีครับตอนเด็กๆ แย่งของเล่นกันต่อยกันเลยแหละ แต่ก็รักกัน แล้วพอโดนทำโทษก็จะโดนตีทั้งคู่ แต่พอตอนโตมาเขาก็ปกป้องผมบ้าง เพราะเขาก็ไปฝึกมาเยอะ สไตล์ตำรวจแหละ เขาจะมีวิธีการในการสื่อสารที่ดีกว่าเรา แล้วน้องผมค่อนข้างเป็นคนที่ไม่อยากออกสื่อ ไปรายการก็ไม่ไป ถ่ายรูปลงหนังสือหรืออะไรก็ไม่เอา เขาบอกเขาไม่ชอบให้คนมารู้จักว่าเขาคือน้องเรา ซึ่งเราก็เข้าใจนะ เขาก็คงไม่อยากให้คนมาจับจ้อง อยากจะมีชีวิตส่วนตัว

 

<<นักแสดงชาย>>

เข้าวงการด้วยความไม่ตั้งใจ?

ใช่ครับ ไม่ได้ชอบ ผมเป็นเด็กขี้อาย จริงๆ อยากเป็นนักบิน เพราะคุณพ่อเป็นนักบิน ขับเฮลิคอปเตอร์ก็อยากเป็นนักบิน แต่พอไม่ได้เป็นทหาร ก็อยากจะเป็นพวกขับโบอิ้งหรืออะไรแบบนี้ ได้เที่ยวด้วย คือความใฝ่ฝันก็อยากจะไปเที่ยวหลายๆ ประเทศ แล้วนักบินเท่นะ ได้เงินดี แต่พอไม่ได้ ก็เรียนวิศวะ เพราะคิดว่าโอเค เท่ดี เงินดีด้วยเหมือนกัน จนกระทั่งตอนอยู่มหาวิทยาลัย มีโอกาสได้ไปแคสงานละครช่อง 3 แล้วก็ได้เล่นละคร แรกๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เกี่ยวกับการแสดงแต่พอได้เรียนกับอาจารย์หลายท่าน ก็ค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ บวกกับรุ่นพี่ก็สอนวินัย โดยเฉพาะพี่นก-ฉัตรชัย เขาเข้มงวดกับเรามาก แล้วสิ่งที่เขาเข้มงวดก็เป็นเหมือนพื้นฐานให้เรามีแนวคิดที่จะเป็นนักแสดงที่ดี อยากรู้ว่าการแสดงคืออะไร เราต้องใส่ใจและเต็มที่กับมันมากแค่ไหน

ต่อสู้กับทุกปัญหา?

ผมว่านะเกิน 50% ที่เข้ามาในวงการ ก็คงคิดเรื่องเงินเป็นหลัก เพราะว่าเป็นอาชีพที่ค่าตอบแทนสูง เท่าที่เราเห็นและเคยได้ยินกันมา เป็นดาราเงินดีมีชื่อเสียง อะไรประมาณนั้น คือเราเด็กๆ เราก็คิดแค่แบบ ได้เงินก็โอเคแล้ว อยู่ได้ แต่พอเราได้มาเจอจริงๆงานในวงการเหนื่อยกว่าที่คิดเยอะ แล้วก็กดดันมาก นอนไม่หลับก็มี พรุ่งนี้ถ่ายละครท่องบททั้งวัน อ่านทั้งวัน 6-7 ชั่วโมงท่องไปเถอะ จำไม่ได้สักที (หัวเราะ) ก็เป็นเรื่องประสบการณ์และความเข้าใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมดีใจ แล้วก็ขอบคุณพี่นก และอาจารย์ทุกๆ ท่าน ทั้งหม่อมน้อย ครูเงาะ ที่ผมมีโอกาสไปเรียนด้วย คือแนวคิดแล้วก็การฝึกฝนของเราเองที่เราจะต้องเต็มที่ขนาดไหนในการแสดงแต่ละเรื่อง สุดท้ายมันก็เหมือนเรื่องเรียนแหละ ถ้าขยันอ่านหนังสือ นักแสดงก็คงไม่ต่างกัน ถ้าคุณฝึกฝนทำความเข้าใจกับบท ท่องบทแล้วก็ฝึกฝนร่างกาย คือการเตรียมพร้อมทุกๆ อย่าง การเป็นนักแสดงที่ดีคืออะไร ผมว่าแต่ละคน ตีความไม่เหมือนกัน ซึ่งในแบบของผม คือ นักแสดงที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครออกมาให้คนดูได้รู้สึก ได้เชื่อและอินไปกับโมเม้นต์ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในละคร ผมรู้สึกว่าการที่จะทำอย่างนั้นได้ คงต้องมีหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ แล้วก็เหนือสิ่งอื่นใด เป็นความเชื่อ สมาธิ อย่างเรื่องสมาธินี่สำคัญมาก เราจะทำยังไงให้สามารถเข้า-ออกสมาธิได้อย่างรวดเร็วที่สุด มันมีความเชื่ออยู่ เราจะทำยังไงให้เราเชื่อได้มากที่สุดเกือบ 100% และแน่นอนที่สุดเรื่อง ร่างกาย เพราะสุดท้ายแล้วการเป็นนักแสดงก็ต้องดูดี ฉะนั้นก็ต้องมีการฝึกฝนร่างกายให้เตรียมพร้อมตลอดเวลาว่าเราจะเล่นเป็นอะไรเล่นเป็นใคร มีอาชีพแบบไหน เขาจะต้องใช้ชีวิตยังไง เป็นเรื่องการทำการบ้านการเตรียมพร้อมร่างกายว่าจะต้องทำยังไง เรื่องเสียงก็ต้องฝึก แรกๆ ผมมีปัญหาเกือบหมดทุกอย่างเลยนะ การเดินเสียง ผมจะพูดเบาออกเสียงไม่ชัดก็พยายามปรับมาเรื่อยๆ ครับ

 

<< ตัวตนความเป็นท็อป>>

จริงๆ แล้วผมว่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต คือบทเรียนในชีวิตเราแล้วก็ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญอะไรหลายๆ อย่างที่เราควรจะทำ บางทีก็อาจจะลืมเลือนไป การที่เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง มานั่งทบทวนว่า บางอย่างเราลืมไปนะ สิ่งที่ดีที่เราเคยทำ เราก็อาจจะมาย้ำเตือนกับตัวเองแล้วก็มาเริ่มทำ ผมรู้สึกว่าการที่เรา “สร้างเป้าหมาย” ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวผมได้ไม่นาน และผมก็อยากส่งต่อถึงคนอื่นๆ ด้วย คือเราก็ไม่เคยมาถามตัวเองเลยว่า สุดท้ายแล้วชีวิตนี้เรามีเป้าหมายอะไร เป้าหมายแบบไกลสุด กับเป้าหมายระยะสั้น มันทำให้เรามี Motivation ในการที่จะก้าวเดินไปมากขึ้น สมมุติว่าเราทำงานหรือว่าทำอะไรสักอย่างมาสักพักหนึ่ง ก็จะเกิดความเคยชิน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น จนกลายเป็นความน่าเบื่อ กราฟชีวิตก็จะเนิบๆ ฉะนั้นเราก็ต้องหาอะไรมากระตุ้น ให้กราฟขึ้น สร้างความกระตือรือร้นให้กับตัวเอง โดยเริ่มคิดถึงเรื่องเป้าหมาย ว่าจริงๆ เราอยากทำอะไร เป็นอะไร เห็นภาพอะไรแบบไหน ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ แล้วการที่จะทำให้ถึงเป้าหมายแน่นอนว่าไม่ใช่คิดอย่างเดียว ก็ต้องทำด้วย เตรียมพร้อม เตรียมตัว อะไรที่มันจะทำให้เราไปถึงตรงนั้น เราก็ต้องไปเก็บเกี่ยวมาให้หมดให้ได้

 

เป้าหมายของท็อป?

ตอนนี้ผมเองก็มีหลายๆ อย่างที่อยากจะไป อยากจะทำ จริงๆ ตอนนี้เริ่มทำบริษัทของตัวเองแล้วครับเริ่มสนใจทางธุรกิจมากขึ้น เริ่มไปเรียนแล้วก็ได้ความรู้มากขึ้น เริ่มอ่านหนังสือเยอะขึ้น ฟังพอดแคสต์ (Podcast) ที่เกี่ยวกับ How to motivatedตัวเอง การเซตเป้าหมาย ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วศาสตร์ในด้านธุรกิจมันก็มีสิ่งที่น่าสนใจเยอะมากๆ แล้วสุดท้ายมันก็จะเป็นความยั่งยืน เป้าหมายผมคือ อยากมีบริษัทที่สามารถยั่งยืนได้จริงๆ เพราะคำว่ายั่งยืนมันยิ่งใหญ่มากนะ จากที่เราเคยฟังว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านบอกว่าอยู่อย่างพอเพียงทำยังไงให้ยั่งยื่น เศรษฐกิจยั่งยืนคืออะไร พอเราไปเรียนเราก็เลยเริ่มรู้สึกว่า อ๋อ ยั่งยืนมันคืออย่างนี้เหรอ มันคือการที่คุณสามารถมีธุรกิจที่ทำกำไรให้คุณด้วย แล้วคุณสามารถแชร์ทั้งประสบการณ์ ทั้งเงิน คืนสู่สังคมด้วย แล้วก็ในขณะที่พนักงานเองหรือคนที่มีโอกาสน้อยกว่าเรา ก็สามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้จริงๆ ยั่งยืนมันคือตลอดไปจริงๆ แล้วก็มีคนสามารถทำได้จริงๆ เยอะแยะมากมาย ผมได้ไปเห็นตัวอย่างในหลายๆ ตัวอย่างที่เรานึกไม่ถึง เช่น ดอยคำ โครงการหลวงของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ท่านวางแนวทางเอาไว้ผมก็เพิ่งรู้ด้วยซ้ำว่าเป็นแนวทางที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง จนต่างประเทศเขาบินมาดูงานที่เมืองไทยเลยนะว่าเขาทำยังไงสุดยอดมากๆ ผมแบบโอ้โห มันมีเรื่องที่แบบมันยิ่งใหญ่อีกมากมายในโลกนี้เราเลยรู้สึกว่า โลกมันกว้างใหญ่มากๆ ยังมีสิ่งที่เราต้องไปเรียนรู้อีกเยอะมากๆ ผมฟังพอดแคสต์ หนึ่งของ คุณรวิทย์ คุณแท็บ ผมชอบมากเลย เขาบอกว่า ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ แต่ว่าคุณยังใช้ชีวิตแบบเดิมๆ คุณจะประสบความสำเร็จได้ยังไง ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตเลย มันจะมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตได้ยังไง ผมฟังแล้วแบบโอ้โห! สุดยอดเลยผมเลยรู้สึกว่าชีวิตยังมีอะไรให้เราได้เรียนรู้อีกเยอะ อนาคตก็คงได้เห็นผมเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งแน่นอนครับ เป็นความสนุกที่ได้ไปเรียนรู้ แล้วก็อยากจะสร้างมันขึ้นมาให้ได้จริงๆ

เห็นความมุ่งมั่นในแววตาของหนุ่มท็อปแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานแฟนๆ คงได้เห็นความสำเร็จที่เขาวางเป้าไว้ ว่าแต่...ที่มุ่งมั่นตั้งใจขนาดนี้ เพราะคิดจะสร้างหลักปักฐานสร้างครอบครัวด้วยหรือเปล่าเอ่ย!?

 

 

กัลลัตตา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ด 2025’ ศิลปินนักแสดงชื่อดังตบเท้าร่วมงานคึกคัก ‘ไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ด 2025’ ศิลปินนักแสดงชื่อดังตบเท้าร่วมงานคึกคัก
  • ปรบมือสนั่นฮอลล์! \'เป้ย ปานวาด\'สปีชวลีเด็ด \'นัท มีเรีย\'เอามือทาบอกยกให้เป็น\'มีมแห่งปี\' (คลิป) ปรบมือสนั่นฮอลล์! 'เป้ย ปานวาด'สปีชวลีเด็ด 'นัท มีเรีย'เอามือทาบอกยกให้เป็น'มีมแห่งปี' (คลิป)
  • \'แตงโม\'ยังไม่ไปไหน? \'ริว จิตสัมผัส\'เปิดข้อความสุดสะเทือนใจ \'ทำไมไม่ช่วยฉัน\' 'แตงโม'ยังไม่ไปไหน? 'ริว จิตสัมผัส'เปิดข้อความสุดสะเทือนใจ 'ทำไมไม่ช่วยฉัน'
  • ครั้งแรกของเอเชีย! iQIYI (อ้ายฉีอี้) เปิดตัว\'ร้องท่องเอเชีย SING! ASIA\'รายการวาไรตี้เพลงบนเรือสำราญ ครั้งแรกของเอเชีย! iQIYI (อ้ายฉีอี้) เปิดตัว'ร้องท่องเอเชีย SING! ASIA'รายการวาไรตี้เพลงบนเรือสำราญ
  • \'เต้ กันตนา\'โพสต์คลิปฟาดใคร? \'I don’t care\'ชาวเน็ตโยงอดีตเมนเทอร์ที่ออกมาประกาศชัดซีซั่นนี้ไม่ร่วมงาน 'เต้ กันตนา'โพสต์คลิปฟาดใคร? 'I don’t care'ชาวเน็ตโยงอดีตเมนเทอร์ที่ออกมาประกาศชัดซีซั่นนี้ไม่ร่วมงาน
  • เดือด เด็ด โดด! ROCK ALARM 2025 สร้างประวัติศาสตร์ ชาวร็อกและเมทัลทะลุทะลัก 7,000 คน เดือด เด็ด โดด! ROCK ALARM 2025 สร้างประวัติศาสตร์ ชาวร็อกและเมทัลทะลุทะลัก 7,000 คน
  •  

Breaking News

‘ภูมิธรรม’โต้ครหาเคลียร์ข้าวล็อตสุดท้ายเอื้อคดี‘จำนำข้าว’ ย้ำหน้าที่ขายก็ต้องขาย

ดีดปาก‘จิรัฏฐ์’! ภูมิธรรมฉะอ้างเป็นตัวแทนประชาชนพร่ำเพรื่อ ปมจี้‘ทอ.’ถอนฟ้อง

‘ไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ด 2025’ ศิลปินนักแสดงชื่อดังตบเท้าร่วมงานคึกคัก

จับพระนอกรีตหนีคดีเสพยา-เล่นพนันออนไลน์ ดูหนังโป๊เป็นกิจวัตร

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved