ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องดัง HOW TO TRAIN YOUR DRAGON เดินเรื่องมาถึงภาคสุดท้ายของไตรภาค ในชื่อ HOW TO TRAIN YOUR DRAGON HIDDEN WORLD (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 3) โดย ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์)จัดมาให้คนไทยได้ตื่นตะลึง และตระการตากับเทคนิคใหม่ของหนังแอนิเมชั่น ที่ใส่มาแบบไม่ยั้ง เตรียมให้ได้พิสูจน์กันในโรงภาพยนตร์31 มกราคมนี้

สิ่งที่เริ่มต้นจากการเป็นมิตรภาพอันเหลือเชื่อระหว่าง ไวกิ้งหนุ่ม และ มังกรไนท์ ฟิวรี่ ที่น่าสะพรึงกลัว กลายเป็นการผจญภัยสุดอลังการ ที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และก้าวมาถึงตำนานบทใหม่ ที่น่าอัศจรรย์ใจที่สุดของหนังแฟรนไชส์แอนิเมชั่น เล่าถึง ฮิคคัพ ที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าและผู้ปกครอง เผ่าเบิร์ค เคียงข้าง แอสทริด ได้สร้างสรวงสวรรค์ของเหล่ามังกรที่แม้จะวุ่นวายแต่ก็สงบสุขขึ้นมา ในตอนที่การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของไลท์ ฟิวรี่เพศเมียเกิดขึ้นพร้อมๆ กับภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดที่หมู่บ้านของพวกเขาเคยเผชิญมา ฮิคคัพ และ ทูธเลส จะต้องโบกมือลาบ้านเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขาเคยรู้จักและเดินทางสู่โลกลี้ลับที่เชื่อกันว่าอยู่ในตำนานเท่านั้น ในตอนที่ชะตากรรมที่แท้จริงของพวกเขาถูกเผยออกมา ทั้งมังกรและผู้ขี่มังกรจะต้องร่วมกันต่อสู้ จนถึงสุดขอบโลก เพื่อคุ้มครองทุกอย่างที่พวกเขาหวงแหน

ผู้กำกับ แฟรนไชส์ ดีน เดอบลัวส์ ได้กลับมาร่วมงานกับทีมนักพากย์ระดับแนวหน้า อย่าง เจย์ บารูเชล (ฮิคคัพ), อเมริกา เฟอร์เรรา (แอสทริด) รวมถึงนักแสดงเจ้าของสองรางวัลอคาเดมี อวอร์ด เคท บลังเช็ตต์, เจอราร์ด บัตเลอร์,โจนาห์ ฮิล ฯลฯ อำนวยการสร้างโดย แบรด ลูอิส และบอนนี อาร์โนลด์

ด้วยความที่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดยาวประกอบไปด้วยไฟล์ดิจิตอลประมาณ 500 ล้านไฟล์!! ภาพยนตร์จากดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น จึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ในบางส่วนของ Hidden World มีไฟล์ดิจิทัลกว่า 100,000 ไฟล์สำหรับเฟรมเพียงเฟรมเดียว งานยักษ์ใหญ่ทั้งหมดนี้ถูกขับเคลื่อนโดยตัวประมวลผลภายในสถานที่ของดรีมเวิร์คส์ในเกลนเดลซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบประมวลผลจำนวน 48,000 คอร์ เป็นเวลาเนิ่นนานเกินไปแล้วที่การให้แสงเป็นเหมือนอุปสรรคที่ปิดกั้นควาทะเยอทะยานของภาพยนตร์แอนิเมชั่น แม้กระทั่งสำหรับสตูดิโอที่เป็นผู้นำด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็ตาม “ตอนนี้เรามีเครื่องมือที่ทรงพลังและใช้งานง่ายเป็นตัวสนับสนุน ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างโลกที่กว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มฉากสวยๆ และตัวละครจำนวนมากกว่าที่เราจะสามารถเรนเดอร์ได้เมื่อก่อนหน้านี้” เดอบลัวส์กล่าว “สิ่งที่เคยต้องเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งที่มีการสร้างช็อตหนึ่งๆ ขึ้นมาตอนนี้กลายเป็นแค่บทสนทนาไปเสียแล้วครับ” โดยเขากล่าวยกย่อง คริส เดอฟาเรีย ผู้เข้าทำงานกับดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่นระหว่างการพัฒนา มูนเรย์ : เครื่องมือติดตามแสงแบบใหม่ ที่มีหน้าที่ในการให้แสงแอนิเมชั่นและเรนเดอร์ภาพแบบเรียลไทม์ มูนเรย์ กลายเป็นเครื่องมือวิเศษที่คำนวณแสงได้เหมือนกับอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

ผู้อำนวยการสร้างและเดอบลัวส์ ยอมรับอย่างภาคภูมิใจว่า ความทะเยอทะยานของพวกเขาสำหรับลุคของอีพิคผจญภัยเรื่องนี้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ที่น่าทึ่งชิ้นนี้ “ตอนนี้เราสามารถรับมือกับตัวละครจำนวนมหาศาลได้ รวมถึงรายละเอียดที่มากมายและประณีตบรรจงในมังกรของเราด้วย” ผู้กำกับพูดอย่างภาคภูมิใจ “ในขณะที่เมื่อก่อนเราอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชะอุ่ม แต่ตอนนี้ ตัวละครของเราสามารถเดินผ่านใบเฟิร์นหรือเดินเลียดไปกับต้นไม้ได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะครับ สิ่งที่มันเปิดโอกาสให้เราทำได้เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจจริงๆ ครับ”

มูนเรย์ ไม่เพียงแต่ทำให้รายละเอียดต่างๆ คมชัดขึ้นและทำให้นักวาดภาพสามารถออกแบบองค์ประกอบใหม่ๆ ได้เท่านั้น สำหรับ Hidden World มันยังเปิดโอกาสให้พวกเขาสร้างไฟที่เสมือนจริงบนหน้าจอเป็นครั้งแรกอีกด้วย ไม่เพียงแต่พวกมังกรจะพ่นและคำรามเป็นไฟเท่านั้น แต่ฉากมากมายในเบิร์คและนิวเบิร์คสว่างไสวขึ้นได้ด้วยไฟ ทั้งเทียนไข คบเพลิง ไฟจากมังกร หรือแม้กระทั่งโคมระย้าไฟ ด้วยความสามารถเชิงเทคนิคของมูนเรย์วิสัยทัศน์ที่น่าตกตะลึงของเดอบลัวส์ก็ถูกผลักดันไปสู่อีกระดับหนึ่งในภาพยนตร์ภาคสุดท้ายของไตรภาค โดยเฉพาะในสิ่งแวดล้อมของดินแดนลี้ลับ คัลเดรา ซึ่งมีน้ำตกที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ และต้นไม้ที่ผลิบาน รวมถึงในเบิร์ค ที่อยู่บนระดับความสูง 52,000 ฟุตและเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่และเมฆที่จับกลุ่มกันเป็นก้อน

“สิ่งแวดล้อมพวกนี้มีขนาดใหญ่กว่าทุกสิ่งที่เราเคยทำมาเยอะมาก” ทีมงานกล่าว “มูนเรย์ทำให้เราสามารถใส่ทุกอย่างที่เราต้องการเข้าไปในโลกของเราได้ มันเป็นความรู้สึกที่อิสระเสรีอย่างเหลือเชื่อสำหรับทีมผู้สร้างครับ”