ผ่านประสบการณ์การเป็นนักแสดงและใช้ชีวิตอยู่เบื้องหลังในกองถ่ายมานับไม่ถ้วน สำหรับผู้บริหารและผู้ผลิตรุ่นใหม่ไฟแรง “ยังเติร์ก”(คหบดี กัลย์จาฤก) เจนเนอเรชั่น 3 แห่งตระกูล“กัลย์จาฤก” ลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อ “ต๊ะ” นิรัตติศัยกัลย์จาฤก ที่เปิดตัวในฐานะผู้บริหารควบตำแหน่งผู้จัดภายใต้สังกัด “บริษัท ดราเมจิก จำกัด” ส่งละครเรื่อง “สารวัตรใหญ่” เป็นเรื่องแรกชิมลางสู่จอ 7 สี ซึ่งเพียงแค่เปิดตัวตอนแรกก็เรียกเรตติ้งพุ่งทะยานถึง 6.9 ได้อย่างงดงามและสมความภาคภูมิจนทำเอาเจ้าตัวถึงกับยิ้มไม่หุบ ล่าสุด “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ได้มีโอกาสพิเศษสัมภาณ์ผู้จัดไฟแรง “ยังเติร์ก” คหบดี พร้อมทั้งล้วงลึกเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ และไขปริศนาคำถามคาใจใครหลายคนว่าเหตุใดจึงแยกตัวออกมาจาก “บริษัทป๊าสั่งย่าสอน” กับความคาดหวังความกดดันภายใต้“ดราเมจิก”
l ‘ดราเมจิก’ เป็นบริษัทลูก ‘ป๊าสั่งย่าสอน’
เรียกว่าเป็นเครือเดียวกันแล้วกันครับพี่ก็ดูแลอีกบริษัทน้องชายก็ดูแลอีกบริษัท ตัวของน้องชาย (จูปีเตอร์-รฤกฤกษ์ กัลย์จาฤก) เขาก็ทำทั้งหน้าที่ผู้จัดและผู้กำกับ ของผมเองทำหน้าที่เป็นผู้จัดละครอย่างเดียวครับ
l แยกตัวออกมาเพราะมีปัญหากับน้องชาย?
ไม่มีแน่นอนเพียงแต่ว่าเราสองคนโตแล้วและรู้สึกว่าอยากใช้ความเป็นตัวเองในการบริหารงานมากกว่า สไตล์ของเราทั้งคู่ไม่เหมือนกันแม้ลายเส้นค่อนข้างจะใกล้เคียงกันก็ตาม ข้อดีคือบางครั้งเราผลิตละครให้ช่อง 7 ละครพี่ชายออกต้นปีน้องชายออกท้ายปีแบ่งกันผลิตจะได้ช่วยๆ กัน (ยิ้ม)
l ผลงานการผลิตและคาแร็กเตอร์มีความแตกต่าง?
จริงๆ ทางผมเองกำลังมีโปรเจกท์ใหญ่ที่จะทำในปีนี้ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ ปีนี้คนจะได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสองบริษัทนี้ ของจูปีเตอร์จะเน้นหนักในเรื่องของโปรดักชั่นทั้งภาพยนตร์และละครที่เกี่ยวข้องกับความจริง หรือบู๊จัดจ้าน ฝั่งดราเมจิกก็มีความบู๊จัดจ้านแต่ผสมผสานความโรแมนติกคอเมดี้เข้าไปด้วย ในปีนี้คนจะเห็นความแตกต่างชัดเจนของสองพี่น้องที่สร้างคาแร็กเตอร์ของบริษัทขึ้นมาใหม่
ถ้านึกถึง ‘ป๊าสั่งย่าสอน’ คือโปรดักชั่นใหญ่ แล้ว ‘ดราเมจิก’ จะนึกถึงอะไร?
ดราเมจิก ผมอยากให้มองว่าเป็นนักมายากลมากกว่า dramagic magic beyond imagination ผมทำบริษัทขึ้นมาเพื่ออยากให้มีความตื่นเต้นเซอร์ไพรส์หลายๆ อย่างเกิดขึ้น ดราเมจิกก็คือแอ๊กชั่นผสมผสานรักโรแมนติกคอเมดี้ที่มีความกลมกล่อมอยู่ในละครหนึ่งเรื่องอาจจะบู๊ 60% มีฉากกุ๊กกิ๊กมาด้วย 40% พยายามทำให้กลมกล่อมครับ
l เมื่อแยกบริษัทออกมาทำให้มีความกดดันแค่ไหน?
ผมโชคดีที่มีคุณพ่อ (ต๊ะ-นิรัตติศัย กัลย์จาฤก) เป็นที่ปรึกษาให้ตลอด แม้ว่าตอนทำงานด้วยกันผมเป็นผู้จัดก็จริง น้องชายมาช่วยกำกับแต่ว่าทีมงานของเราก็ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนตลอดเวลา ฉะนั้นการแยกบริษัทออกไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อยหรือยาก เราสามารถสร้างคาแร็กเตอร์ให้กับสิ่งที่เราต้องการ เพียงแต่มันท้าทาย รู้สึกกดดันจากคนรอบๆ ว่าเราต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ที่ชื่อบริษัทเป็นภาษาอังกฤษเพราะบริษัทกำลังขยายงานไปต่างประเทศเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่สามารถพูดได้ เน้นหนักในเรื่องของการทำงานกับต่างประเทศ ส่วนตัวผมเองอยากร่วมงานกับต่างประเทศ ป๊าสั่งย่าสอนต่างประเทศอาจจะออกเสียงยาก อีกอย่างน้อยชายของผมอาจไม่สะดวก
l เปิดตัว‘สารวัตรใหญ่’เป็นเรื่องแรกเรตติ้งพุ่งถึง 6.9?
สารวัตรใหญ่ เราปิดกล้องมาได้ประมาณ1 ปี แล้วก็คุยกับทางช่องเพื่อจะหาเวลาลงมานานมาก ตอนที่ทำครั้งแรกรู้ว่าทางช่องอนุมัติปั๊บ สารวัตรใหญ่คุณพ่อเคยทำเอาไว้ฉายไม่จบเมื่อ 25 ปีที่แล้ว พ.ศ.2537 คือโซเชียลมีเดียยังไม่มี การควบคุมสื่ออยู่ที่ทีวี.ทั้งหมด ฉะนั้นพอนำเสนอในมุมมืดถึงแม้เป็นละครหรือบทประพันธ์ก็ตามเขาก็ดูว่าคุณนำเสนอตำรวจในทิศทางที่ไม่ดีหรือเปล่า พอออนแอร์ตอนแรกก็ลุ้นเป็นการเปิดตัวดราเมจิกเรื่องแรกด้วย พอเข้าไปดูไลฟ์ก็ลุ้นว่าคนดูจะถึงหนึ่งหมื่นหรือเปล่าถ้าถึงหมื่นถือว่าเยอะมากสำหรับละครช่อง 7 ที่มีการไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ปรากฏว่ากระแสตอบรับมันดีมาก ทุกคนดีใจกันหมด คุณพ่อเองก็ปลื้มที่ลูกชายสามารถดูแลทีมงานแล้วทำให้ละครเรตติ้งขึ้นมาขนาดนี้ได้ ในตอนเช้าเรตติ้งออกมา 6.9 มันเกินกว่าที่คาดไว้มาก ผมคิดว่าสัก 4.9-5 ก็ดีใจแล้วอย่าต่ำกว่านี้เลย ทุกคนก็มาแสดงความยินดีแล้วผมเองก็รู้สึกดีใจที่มีทีมงานที่ดีสามารถทำงานแล้วทำให้เรตติ้งสูงได้ขนาดนี้
l คิดว่าอะไรทำให้เราประสบความสำเร็จจากละครเรื่องนี้?
หลายๆ องค์ประกอบ หนึ่งในองค์ประกอบคือนักแสดง คนที่จะมาเป็นสารวัตรใหญ่คือเป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่คนหนึ่ง ไม่ใช่จะเอาใครมาเล่นก็ได้รับบทเป็นตำรวจต้องมีความน่าเชื่อถือ มีความรู้เรื่องกฎหมายและการจะเข้ามาเป็นตำรวจหรือเปล่า ในหัวของผมมีแค่ “พี่เอส” (กันตพงศ์บำรุงรักษ์) ผมไม่เคยได้ร่วมงานแต่ได้ไปดูและศึกษางานของเขา ตอนแรกเจ้าตัวก็คงไม่รู้คิดว่าคุณพ่อเป็นคนเลือก วันแรกที่ได้คุยกันเขาก็เล่าว่าที่บ้านทำงานในลักษณะนี้ พื้นฐานชีวิตและการพูดการจาผมรู้แล้วว่า ต้องคนนี้แหละ สารวัตรใหญ่ ซึ่งนักแสดงคนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ของเขาได้ดี “บทประพันธ์ของพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร” เป็นอีกหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากดูละครน้ำดีที่สามารถพูดถึงสังคมและตีแผ่ส่วนหนึ่งได้ แต่ไม่ได้จะบอกว่าวงการสีกากีไม่ดีเราเพียงต้องการเชิดชูตำรวจน้ำดีที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่
l ‘สารวัตรใหญ่’ออกมาถูกจังหวะ?
ผมคิดว่าถูกจังหวะ อย่างแรกคือต้นปีด้วยแล้วเชื่อว่าคนไทยมองหาฮีโร่คนใหม่แม้เป็นฮีโร่ที่มาจากละครที่ส่งเสริมให้คนคิดดีทำดี เปิดตัวแฮปปี้แต่ก็ลุ้นว่าละครเรื่องนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน คุณพ่อทำไว้ไม่สามารถออกอากาศได้ทั้งหมด ผมอยากจะสานต่อในสิ่งที่คุณพ่อเคยทำเอาไว้ และอยากจะทำละครให้ที่บ้านให้ตระกูลกัลย์จาฤกภูมิใจ หรือให้ผู้ใหญ่ทางช่องภูมิใจว่าเด็กสมัยใหม่สามารถทำละครที่ให้ทุกคนดูอย่างมีความสุขดีต่อสังคม ผมโชคดีที่ได้ผู้กำกับ “พี่สโนวี่” (พลชย เมธา) เป็นคู่คิดที่ดี และมีทัศนคติในการทำงานที่ดี
l ยุคสมัยของละครไทยเปลี่ยนไป และช่องทางการรับชมที่มากขึ้น
เอาตามตรงไม่อ้อมค้อมและพูดให้ดูดี รู้สึกหนักใจในการที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเราเองก็คุยกับผู้ใหญ่และคุณพ่อ อธิบายให้เขาฟังเยอะเลยว่าพฤติกรรมของคนดูมันเปลี่ยนไป เนื้อหาคอนเทนท์มันส่งผลโดยตรงจากละครที่เมื่อก่อนจะเห็นว่าเรตติ้งขึ้นถึง 10 ทุกวันนี้เป็นไปได้น้อยมากจะมีสักกี่เรื่องที่ทำแตะได้สองตัวเอง เอาแค่ 5 ก็ดีใจแล้ว ไม่สามารถทำละครยืดเยื้อได้อีกบางครั้งละครดีแต่ไม่มีคนดู ผู้ผลิตอย่างผมค่อนข้างหนักใจ ทุกอย่างต้องฉับไวไปไปหมดเลยแม้กระทั่งการตัดต่อ เราต้องทำคอนเทนท์ทำละครที่ชัดเจนเพื่อให้คนเลือกที่จะดูเราคู่แข่งเยอะไม่ได้มีช่องทางน้อยเหมือนเมื่อก่อน เป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผมแต่ก็ต้องทำให้ได้ ถ้าผลิตงานออกมาแล้วไม่มีคนดูก็เสียดายเหมือนกัน ฉะนั้นต้องทำการบ้านการผลิตละครแต่ละเรื่องจะยืดเยื้อไม่ได้ ค่อยๆ ปรับและพัฒนาไปทีละขั้นต้องทำให้คนหลายๆกลุ่มพอใจในงานของเรา
l หลังจากนี้ ‘ดราเมจิก’ มีการวางแผนในอนาคตไว้อย่างไร?
ปีนี้มีจะเปิดตัวดราเมจิกที่เป็นโปรเจกท์ใหญ่ทั้งหมด ซึ่งยังไม่ขอพูดรายละเอียดแต่ปีนี้คนจะได้เห็นการเปิดตัว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเตรียมมาเพื่อบริษัทนี้ไม่ใช่แค่จะก้าวในประเทศไทยแต่จะออกไปสู่ต่างประเทศ มีมากกว่าละครเร็วๆ นี้ แต่จะมีอะไรบ้างก็อยากให้ทุกคนรอ ในปีนี้จะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นเรื่องละครเราอยู่กับช่อง 7 อยู่แล้ว แต่เราจะมีโปรเจกท์อื่นที่ร่วมกับต่างประเทศ ต้องรอดู ไม่แย้มแน่นอนครับอยากให้รอดูทีเดียว (ยิ้ม)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี