"ดร.ป๋อง สุพรรณ"เป็นฉายาของนายเสมอ งิ้วงาม สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง,อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย และเซียนพระชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย ด้วนความสามารถ เสียสละ และทุ่มเททำงานเพื่อสังคม โดยเฉพาะวงการพระเครื่อง มหาวิทลัยนานาชาติแห่งศีลธรรมฟลอริดา สหรัฐ อเมริกาจึงมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ณ หอประชุมคุรุสภา  เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒

ตำแหน่งทางสังคมของ ดร.ป๋อง สุพรรณคือ อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย, นายกสมาคมพระเครื่องเมืองสุพรรณ, สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง ๒ ปีซ้อน (๒๕๔๕/๒๕๔๖)  เจ้าของนิตยสาร"อมตพระเครื่อง"และนิตยสาร "พุทธคยา" ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์เกี่ยวกับพระเครื่องพระบูชาเป็นของตัวเอง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางของคนในวงการพระเครื่อง

บนเส้นทางสายพระเครื่อง ของ ดร. ป๋อง สุพรรณ ยังคงสดใสต่อไปอีกนานเท่านาน เพราะเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และจริงใจกับทุกคน มีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก รวมทั้งได้รับความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ในทุกวงการด้วยดีเสมอมา

 "ดร.ป๋อง สุพรรณ" เป็นคนสุพรรณโดยกำเนิด เกิดปีพ.ศ. ๒๕๐๘ ตอนเด็กๆ ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างลำบากมาก มีพี่น้องหลายคน จึงมีโอกาสเรียนหนังสือแค่ชั้น ป.๖ แล้วออกมาทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่

สารพัดงานที่รับจ้างทำ พอไม่มีงานอื่นทำก็ถีบสามล้อรับจ้างในตลาดสุพรรณ ต่อมาเป็นเด็กรถเมล์สายสุพรรณฯ-กรุงเทพฯ ต้องนอนกินบนรถ ชีวิตลำบากมาก

จากนั้นไปทำงานเป็น "คนเก็บศพ" กับมูลนิธิร่วมบุญสุพรรณบุรี ป๋องบอกว่างานที่ทำนี้ชอบมาก เพราะได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยไม่มีความรังเกียจ หรือเบื่อหน่ายท้อแท้แต่ประการใด แม้ว่าเงินเดือนที่ได้รับก็เพียงน้อยนิด พอกินพอใช้ไปวันๆ เท่านั้นเอง ประมาณปีพ.ศ. ๒๕๒๙ ขณะที่ ดร.ป๋อง สุพรรณ อายุได้ ๒๑ ปี นายอนุศักดิ์ นาถกุลพัฒน์ (อ้า สุพรรณ) เซียนพระชื่อดังของเมืองสุพรรณ เห็นป๋องทำงานขับรถอยู่กับมูลนิธิ ก็เลยชวนให้ไปทำงานด้วย

"ยังต้องดูว่าเป็นพระชำรุดอุดซ่อมหรือเปล่า หากซื้อผิดราคาก็ต้องขาดทุน ต้องระวังให้มากๆ สิ่งเหล่านี้เฮียอ้าสอนผมอยู่เสมอ .เฮียอ้ามักบอกอยู่เสมอๆ ว่าอย่าเล่นพระเก๊ รับรองว่าเงินในกระเป๋าจะมีเงินใช้ตลอดเวลา ผมจดจำคำพูดนี้ได้อย่างแม่นยำ จึงถือเป็นคติประจำใจในทุกวันนี้ และกลายเป็นโลโก้ของผมด้วยว่า "เคยซื้อพระเก๊ แต่ไม่เคยขายพระปลอม.."เฮียอ้าถือเป็นครูคนแรกของผม ที่สอนให้ผมดูพระเป็นเล่นพระแท้ เฮียอ้าจึงเป็นคนสำคัญที่ผมต้องจดจำไปชั่วชีวิต"

ตอนอยู่กับเฮียอ้า ดร.ป๋อง สุพรรณ บอกว่า ตนเองเริ่มเก็บเงินได้บ้าง พอรายจ่ายไม่ค่อยมีมากนัก เพราะเฮียอ้าเลี้ยงดี พอออกมาแล้วก็เอาเงินทุนเล็กๆ น้อยๆ นั้นตั้งตัว ออกหาซื้อพระตามบ้านคนรู้จักกัน โดยเฉพาะเมืองสุพรรณ มีพระกรุพระเก่ามากมาย และตัวเขาก็มีพรรคพวกเยอะ จึงมีโอกาสได้ซื้อพระแท้ๆ เอาไว้พอสมควร

เมื่อนำไปขายต่อก็ได้ราคา พอมีกำไรบ้าง ข้อสำคัญคือต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตและจริงใจกับทุกคน อันนี้ถือว่าเป็นจุดขาย ที่จะทำให้คนเชื่อถือเราได้ตลอดไป

จากประสบการณ์ตระเวนหาซื้อพระไปตามจังหวัดต่างๆ มานานพอสมควร ได้เพื่อนน้องพี่ในวงการพระเป็นพวกมากมาย ทำให้มีโอกาสเปิดร้านพระเป็นของตัวเองบนห้างบางลำภู งามวงศ์วาน (ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ในทุกวันนี้) ด้วยความเมตตาของ พี่พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย และ พี่ต้อย เมืองนนท์  2 เสาหลักแห่งวงการพระเครื่องไทย เป็นผู้ชักชวนให้มาเปิดร้านชื่อ "ป๋อง สุพรรณ" จนถึงทุกวันนี้

ดร.ป๋อง สุพรรณ ชี้แนะว่า อาชีพซื้อขายพระยังมีอนาคตสดใสไปอีกนาน เพราะคนรุ่นใหม่สมัยนี้หันมาให้ความสนใจในการสะสมพระเครื่องกันมากขึ้น นักธุรกิจใหญ่ๆ ข้าราชการทุกระดับ รัฐมนตรี นักการเมือง ฯลฯ ล้วนสนใจสะสมพระเครื่องกันมากขึ้น

ไม่ว่าจะสะสมด้วยเห็นว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ของเก่า หรือจะสะสมเป็นหลักทรัพย์เพื่อเก็งกำไรก็ตาม วงการพระจะไม่มีวันซบเซาอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญสุดๆ คือ ความซื่อสัตย์สุจริตและจริงใจต่อกันจะทำให้สามารถยืนอยู่ในวงการนี้ได้ตลอดไป

สำหรับความเชื่อเรื่องป่ฏิหาริย์ ดร.ป๋อง สุพรรณบอกว่า เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เราแขวนพระเราต้องศรัทธาในองค์พระเสียก่อน ถ้าศรัทธาแล้ว เรื่องอุบัติร้ายแรงก็จะไม่เกิดขึ้น

“คนที่แขวนพระแล้วเป็นคนดี กลับไปเจออุบัติเหตุร้ายแรงแบบนั้น อาจมาจากกรรมเก่า เป็นเวรเป็นกรรมที่เขาเคยทำเอาไว้ไม่ดีส่งผลควบคู่ด้วย แต่ถ้าเราทำบุญอย่างต่อเนื่อง บุญนั้นก็จะนำมาหนุนเรา กฎแห่งกรรมจึงเชื่อว่ามีอยู่จริง ใครทำอะไรไว้จะต้องได้รับกรรมตรงนั้นแน่นอน" นี่เป็นความเชื่อเรื่องกรรมของป๋อง สุพรรณ

"คนเราจะเริ่มทำความดีวันนี้ก็ยังไม่เสียหาย ธรรมะตามคำโบราณที่เขาให้เราส่องกระจกชะโงกดูเงา ก่อนที่เราจะไปว่าหรือนินทาคนอื่นก่อนว่าเขาเลว เราก็ต้องดูตัวเองว่าเราดีไหม ถ้าเราคิดว่าเราดี แล้วถึงจะไปสอนคนอื่นได้" ดร.ป๋อง สุพรรณ พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิด