เตรียมบาตรให้พร้อม ซ้อมวิ่งให้ไว ไปกับ “พี่นาค” ภาพยนตร์แนว Horror comedy เรื่องใหม่จากค่าย ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ผลงานการกำกับของ ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณที่เตรียมเข้าโรงฉาย 21 กุมภาพันธ์นี้ แต่ก่อนที่จะไปพิสูจน์ความสยองขวัญสั่นขากรรไกรผู้กำกับ “ไมค์” และ 2 นักแสดงนำ ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ กับ เจมส์-ภูวดล เวชวงศา ได้จับกลุ่มเม้าท์ อุ๊ปส์!! แท็กทีมมาบอกเล่าความสนุกเกริ่นนำของหนัง “พี่นาค” แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า”
ความน่าสนใจของพี่นาค
ไมค์ : เป็นหนังเกี่ยวกับนาคเรื่องแรกครับ หลังจากที่เรามีหนังเกี่ยวกับพระ เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องแรกที่พูดถึงนาค เพราะยังไม่มีเรื่องไหนที่นำเรื่องของการบวชนาคมาอยู่ในภาพยนตร์ และมาบวกกับความเป็นผี ผมว่าน่าสนใจพอสมควร และหลังจากที่เราปล่อยทีเซอร์ โปสเตอร์ใบแรกของหนังออกไป ก็ได้รับเสียงตอบรับฮือฮาพอสมควร เรียกว่าเซอร์ไพรส์พวกเราเหมือนกัน ทำให้รู้ว่าหนังของเราตอบโจทย์คนดู เพราะคงแปลกใหม่กับการที่หยิบเรื่องนาคมานำเสนอครับ
สับสนกับ “แม่นาค” และ “พี่มาก”
ไมค์ : ใช่ครับ ด้วยความที่ชื่อ“พี่นาค” ก็มีความสับสนพอสมควร ตั้งแต่เราปล่อยชื่อไป ทุกคนก็จะ เอ๊ะ...เกี่ยวกับแม่นาครึเปล่า แม้แต่ตอนไปหาโลเกชั่น ไปติดต่อ ทุกคนก็จะเข้าใจว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่นาค ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ครับ คำว่า “พี่นาค” จริงๆ มาจากเณรในเรื่อง ที่เรียก “พี่นาค” หรืออย่างผู้ใหญ่จะเรียก “พ่อนาค” ตอนแรกจะใช้คำว่า “พ่อนาค” แต่คิดว่า “พี่นาค” ดูใกล้ชิดกับคนมากกว่า เราก็เลยใช้คำว่าพี่นาค แต่ทีนี้ก็อาจจะไปพ้องกับคนที่อินกับคำว่าพี่มาก แม่นาค ก็เลยทำให้คนเขวไปในช่วงแรก จนเราต้องทำสกู๊ปออกมาว่าไม่เกี่ยว เป็นนาคที่บวชพระครับ
เรื่องลี้ลับในการทำหนังผี
ไมค์ : ถ้าในกองถ่ายจะไม่ได้เจอครับ อาจจะเป็นเพราะเราทำเกี่ยวกับพญานาค แล้วทุกวัดที่ไปจะเจอพญานาคทุกที่ โบสถ์จะเป็นนาคปรก ทีมงานก็จะไหว้ตลอด สวดมนต์ตลอด บอกกล่าวทุกที่ที่เราไป เพราะทุกที่แรงแน่นอน เราเลือกไปถ่ายวัดป่าจริงๆ ที่มีสุสาน มีหลุมฝังศพเยอะมาก เราก็เชื่อว่าถ้าเรามาทำงานแล้วเราไม่ได้ขอ ก็อาจจะไม่รอด เราก็จะขอทุกครั้ง ทำให้ถ่ายทำไปได้ด้วยดี แต่ถ้าจะเจอก็เจอข้างนอก คือในโรงแรมที่เราไปพัก เขาก็จะตามไป เพราะทุกครั้งก่อนออกกองผมจะสวดมนต์ทุกครั้ง แล้วก็แผ่เมตตาให้เขาก่อน แต่มีอยู่วันหนึ่งผมไม่ได้สวด เพราะว่าผมไปถึงเย็น ผมก็ไปสวดที่โรงแรม เขาก็จะตามไปรับที่โรงแรม ซึ่งผมรู้สึกได้ว่าเขามารับ จริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนมีเซ้นต์เรื่องนี้ แต่เราเชื่อไว้ก่อน เพราะว่าเราทำเรื่องของพญานาค เหมือนเราทำประวัติของท่าน ย้อนกลับไปช่วงพุทธกาลมีพญานาคเข้ามาเกี่ยว ผมก็ต้องให้ความเคารพ และที่สำคัญ คือโลเกชั่นที่ถ่ายเป็นป่าช้าด้วย เราก็เลยมีความเชื่อ และเชื่อว่าเขาได้รับจริงๆ การถ่ายทำเรื่องนี้จึงไม่ได้เจออุปสรรคอะไรครับ ส่วนของนักแสดงก็จะมีบ้าง อย่างพี่เอ้-ชุติมา ซึ่งเขาสายมูอยู่แล้ว ก็จะสัมผัสง่าย แต่เขามาดีครับ ทำให้การทำงานราบรื่นทุกอย่าง
โลเกชั่นหลัก
ไมค์ : วัดปลักไม้ลาย ที่นครปฐม เป็นโลเกชั่นหลักเลยครับ และมีทั้งที่นครนายก จันทบุรี ไปหลายที่ครับ เพื่อรวมกันให้เป็นวัดเดียว(หัวเราะ)
ทีมนักแสดง
ไมค์ : ถ้าเริ่มจากการแคส 3 ตัวแสดงหลัก ตัวพระเอก คือ “โหน่ง” โหน่งเขาจะเป็นคนไม่เชื่อเรื่องบวช หัวแข็ง มีความเป็นผู้ชายสูง เราเลยอยากได้คนที่แมน เพราะเขาต้องมีเพื่อนอีกสองคนเป็นตุ๊ด ซึ่งต้องคอนทาสต์กันมากๆ คือมีความแมน ไม่เชื่อเรื่องผี เรื่องโชคชะตา แต่ตัวเขาจะเจอเรื่องของเบญจเพสเลิกกับแฟน ตกงาน หรือแม้แต่เพื่อนเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องที่ต้องไปบวช แล้วแก้ไขได้ เราก็มองหาว่าใครที่จะเป็นโหน่ง ซึ่งไฟว์สตาร์ให้โจทย์มาว่า ต้อง Change ไปเลย เป็นคนที่คนไม่เชื่อว่าจะเล่นบทอย่างนี้ แต่พอได้ออกัส(ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์)มาเราก็เชื่อว่าถ้าเขาเล่นได้ คือ Change แน่ เพราะว่าภาพแรก ผมเห็นงานเก่าเขาอย่าง U-Prince Series เห็นความเป็นคุณชายหน้ามาแบบเจ้าชายมาก เราก็เคาะลองเรียกเขามาแคส และพอให้เขาลองเล่นบททะเลาะกับพ่อ แล้วอินเนอร์เกิด ผมเลยรู้สึกว่าตัวจริงเขาต้องไม่ใช่ในซีรี่ส์ และพอแคสเสร็จ ผมก็บอกเขาเลยว่าเป็นโหน่งให้พี่นะ ตอนแรกผู้ใหญ่ก็ไม่แน่ใจ แต่พอผู้ใหญ่เห็นเทปที่แคสออกัสก็โอเค เขาทำได้
มาถึง “บอลลูน” คาแรคเตอร์จะเป็นกะเทยบ้านๆ ปากจัดๆ ปากกับใจตรงกัน แล้วทีมงานก็ส่งเอม (เอม ตามใจตุ๊ด) มา แล้วเราเห็นไลฟ์สไตล์ของเอม เรารู้สึกว่าสนุก เป็นคนจริงใจ เราก็อยากได้ เพราะบอลลูนก็เป็นแบบนี้คิดอะไรก็พูด เราเลยเรียกเอมมาแคส แล้วความที่เขาเป็น เอม ตามใจตุ๊ด ทุกอย่างมันเข้ากันได้ดีมาก เขาไม่ใช่นักแสดง มาเล่นเรื่องแรก เราก็เลยบอกให้เป็นบอลลูน ในแบบฉบับของเอมเลย ไม่ต้องไปกังวลอะไรกับมัน ให้เขาครีเอตเองเลย เพราะคนชอบในความเป็นตัวตนของเขาอยู่แล้ว เราก็เลยเอาตรงนั้นมาอยู่ในหนัง แค่ขยับไปในสถานการณ์ที่เราสร้างขึ้น
อีกคนคือเฟิรส์ เราได้ เจมส์ (ภูวดล เวชวงศา) มาแสดง ผมร่วมงานกับน้องมาพอสมควร ก่อนหน้านี้ก็ “มอญซ่อนผี” ผมเลยบอกเขาว่าเจมส์ลองเปลี่ยนไหม จากเป็นวัยรุ่น ต่างด้าวในหนังเรื่องอื่น ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นอะไรที่คนไม่เชื่อว่าเจมส์จะเป็น เรื่องนี้ก็เลยลองมาเป็นตุ๊ดดู แต่ความยากของเจมส์ คือทำยังไงก็ได้ให้คนดูเชื่อว่าเจมส์เป็นเพื่อนเอม ตามใจตุ๊ดเพราะถ้าเจมส์ไปไม่ถึง ก็จะโดนกลบทันที เพราะเอมเขาของแท้ คุณเป็น mirror (หัวเราะ) แต่ช่วงแรกๆ ก็จะยากหน่อย เพราะการที่เราจับผู้ชายมาเป็นตุ๊ด เขาก็จะคลำทางว่าจะไปเลเวลไหนดี เจมส์ก็จะทำการบ้านหนักเลย เพื่อเป็นคู่ซี้เอม แต่ที่สุดแล้วเขาก็ทำได้ และทำได้ดีด้วย
มาถึง จุ๋ย นางเอกซึ่งเราได้ พลอยชมพู(ญานนีน ภารวี ไวเกล) มา ในบทเขาต้องร้องไห้เยอะ เพราะเขาจะถูกเซตไม่ให้ตลก ต้องเป็นคนที่พูดแค่คำสองคำแล้วทำให้โหน่งสะดุดได้ มีส่วนสำคัญมากๆ ที่จะทำให้โหน่งคิดที่จะบวช เราก็เอาน้องพลอยมาแคส และมาเล่นซีนร้องไห้เลย ผมลองของน้องเขาด้วยแหละ(หัวเราะ) เพราะความเป็นพลอยชมพูผ่านพี่วิศิษฏ์มา (วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง-ผู้กำกับเรื่อง รุ่นพี่) ต้องให้เครดิตพี่วิศิษฏ์เลยครับ เพราะพลอยตีความเองในวันที่แคส แล้วออกมาเป็นจุ๋ยได้ถึง 70-80% เขาเก่งมากครับ
และถึงตัวละครสำคัญ ตัวแมสเลยคือ พี่นาค ตอนนั้นหายากครับ เพราะพี่นาคจะไม่เล่นเยอะ แต่มีพลังมาก หนังเล่าถึงเขาในแบบปริศนา เราก็พยายามหานักแสดง แล้วชิน (ชินวุฒ อินทรคูสิน) เขาเคยทำงานกับไฟว์สตาร์มาแล้ว ก็เลยลองดูไหม แล้วผมเคยแฮปปี้ประทับใจเขาตอน “ทองสุก” ชินเขาเป็นคนที่เป๊ะมาก ก็เลยลองคุยกับเขา และเขาโอเค ซึ่งพี่นาคต้องมีพลัง ทั้งเรื่องมีผีสำคัญแค่ตัวเดียวเพราะฉะนั้นต้องคุมทั้งเรื่อง พอได้ชินมาเราแฮปปี้แล้วครับ เขาคุมมันอยู่ในความเป็นพี่นาคเลย แม้แต่เสียงในหนัง เขาก็ครีเอตเป็นเสียงพี่นาคโดยเฉพาะ ด้วยความที่เขาเป็นนักร้องและก็เป็นนักพากย์ พอกับพี่นาค เขาบอกเสียงนี้ผมให้พี่เลย เสียงพี่นาคเป็นแบบนี้ ผมฟังแล้วขนลุก เพราะเสียงเท่ และดูมีพลังมาก
ความรู้สึกของ “ออกัส”
ออกัส : วินาทีแรกที่รู้ว่าได้เป็นโหน่ง ผมดีใจมากครับ เพราะถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของผมด้วย ตั้งใจมาก อยากทำให้ดีที่สุด เพราะชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้วครับ “พี่นาค” แล้วได้มาเจอพี่ไมค์ ผู้กำกับที่น่ารักมากๆ คุยกันถูกคอ คอนเนคกันติด แล้วผมเล่นละครมาก่อนพีเรียดด้วย ก็จะติดพูดชัด แต่หนังมีความเป็นธรรมชาติสูง ผมก็จะติดพูดชัดเกินไปก็ต้องพยายามปรับครับ แล้วบรรยากาศในกองมันน่าตื่นเต้นตั้งแต่ขับรถไปที่กองวันแรกแล้วครับ ไปที่นครปฐม ทางเข้าก็คือน่ากลัวแล้ว ต้องเข้าไปในป่า ที่แต่งหน้าก็คือเป็นเมรุเผาศพ แล้วต้องเดินเข้าไปในป่าอีก เพื่อเข้าซีนถ่ายทำ ตรงนั้นก็จะมีหลุมฝังศพอยู่ ทุกอย่างจริงหมดเลยครับ ถึงผมจะเป็นคนไม่กลัวผี แต่เจอแบบนี้ก็หวั่นๆ นิดนึงครับ(หัวเราะ) เวลาเราเหนื่อย เราเมื่อย จะไปเท้าแขน ก็อุ่ย...ไม่ได้ๆ บรรยากาศน่ากลัวจริงๆ ...กับนักแสดงร่วม ตอนเวิร์กช็อปด้วยกันแรกๆ ยังรู้สึกว่าพี่เจมส์ไม่ได้ปล่อยมาเต็มที่ แต่พอเข้าซีนด้วยกัน เชื่อจริงๆเลยว่าพี่เจมส์เป็น ด้วยสายตา ด้วยทุกอย่าง ยอมรับว่าพี่เจมส์เก่งมาก(หัวเราะ) กลัวว่าเขาจะกินเราจริงๆ (หัวเราะ)
การปรับลุคครั้งสำคัญของ “เจมส์”
เจมส์ : ตอนที่รู้ว่าต้องเล่นบทตุ๊ดคิดไม่ออกเลยครับ ว่าต้องวางตัวเองยังไง ไปในทางไหน ตอนแรกก็วางคาแร็กเตอร์อีกแบบหนึ่ง คือเล่นใหญ่ไปเลย แต่พอไปผสมรวมกันสามคน ไม่เข้ากัน ผมก็เลยต้องปรับอีกแบบ เพราะกะเทยจริงๆ เขาไม่ได้เล่นใหญ่ขนาดนั้น แล้วตัวเฟิร์สจะเรีบยร้อยหน่อย ก็เลยต้องปรับกันหลายรอบพอสมควรครับ (ออกัส :ก็เลยต้องลองไปกินผู้ชายดู) ใช่ครับ เอ้ย!! ไม่ใช่ (ไมค์ : ด้วยความที่เอมมาเต็ม ถ้าเจมส์จะมาเบาๆ ก็จะดับ ซึ่งต้องให้เครดิตเจมส์ เพราะเขาไปปรับวิธีเล่นเอง แล้วมันสนุกขึ้น) ช่วง 2 เดือนที่ถ่ายทำ ผมจะติดท่าทางมาหมดเลย แล้วรู้สึกว่าการเป็นเพศที่สาม เป็นกะเทยเนี่ยใช้ชีวิตง่าย แล้วสนุกกว่าผู้ชาย (หัวเราะ) อย่างผู้ชายนั่งก็ต้องมีนิดนึง แต่กะเทยเขาปล่อยหมด สบายดีครับ (ไมค์ : คุณโจ๊กผู้บริหารไฟว์สตาร์ เขาเห็นว่าอยู่ในกองเจมส์จะนั่งไขว่ห้าง คือเขาติดมาไม่รู้ตัว เพราะเล่นแล้วอิน คุณโจ๊กก็เดินมาบอกผมว่าปิดกล้องแล้วเอาเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยนะ)
ไฟว์สตาร์ทำหนังผีอีกแล้ว
ไมค์ : ไฟว์สตาร์ทำหนังผีมาเยอะ แต่หนังผีทุกเรื่องก็จะแตกต่างกันออกไปครับในแต่ละหมวดของผี ซึ่งผมเชื่อว่าเรื่องนี้แปลกแตกต่างแน่นอน ผมกล้าพูดคำนี้ เพราะเห็นจากกระแสที่ตอบรับกับทีเซอร์ตัวอย่างหนังที่ออกมาครับ ทุกคนชื่นชอบในความแปลกและไฟว์สตาร์ก็พยายามสร้างความต่าง ให้คนเห็นว่ามีอะไรใหม่ๆ ในความเป็นผีไทย และผลตอบรับจากต่างประเทศก็ดีมากๆ มีหลายประเทศที่ซื้อไปฉายแล้ว เราก็รู้สึกว่าตรงนี้ตอบโจทย์ ทั้งโปสเตอร์ ทีเซอร์ ทำงานของมันแล้ว ก็เหลือแต่ในหนังที่เราพยายามทำให้ดีที่สุดครับ
วิชวลเอฟเฟกท์ในส่วนของพญานาค
ไมค์ : เรื่องนี้พูดถึงพญานาค เราก็ได้ปั้นพญานาคขึ้นมา แต่ด้วยความที่คนไทยเห็นพญานาคมาบ้างแล้ว จากบางเรื่อง เราก็ต้องมาตีโจทย์ว่าอยากให้พญานาคออกมาแบบไหน ซึ่งผมมั่นใจว่าพญานาคของผม ไม่เหมือนกับที่ไหน แต่ความที่ไม่เหมือน ไม่ได้หมายความว่าของใครผิด ของใครถูกนะครับ แต่ผมตีความจากสิ่งที่เกิดขึ้นในพุทธกาล เราอาจจะตีความต่างออกไปเท่านั้นเองครับ การสร้างแอนิเมชั่นพญานาคขึ้นมา ก็เป็นโจทย์หนึ่งที่เตรียมใจไว้แล้วเหมือนกัน คนดูอาจจะบอกว่าพญานาคไม่ใช่แบบนั้นรึเปล่า 21 กุมภาพันธ์นี้ก็อยากให้ลองชมกันดูครับ แล้วแสดงความคิดเห็นกัน ผมพร้อมรับทุกคำติชมครับ
21 กุมภาพันธ์นี้ ได้เวลาพิสูจน์อีกหนึ่งเรื่องราวของหนังผีไทย ที่จะทำให้คุณขากรรไกรค้างกันค่ะ
กัลลัตตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี