ไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงให้มากความค่ะ เพราะวันนี้หัวใจเต้นตึกตัก กับการได้นั่งเคียงข้างหนุ่มหน้าใสพระเอกใหม่ถอดด้ามของช่อง 3 เค้ก-นัทธวัชร์แก้วบัวสาย ที่กำลังโชว์ฝีมือในผลงานปิดท้าย ซีรี่ส์ลูกผู้ชาย เรื่อง “ปัทม์”...ไปทำความรู้จักตัวตนของหนุ่ม “เค้ก” กันค่ะ
เพราะความบังเอิญ
เริ่มต้นเลยคือน้องสาวผมเข้าวงการมาก่อนครับ “น้องพาย-รินรดา” แล้วบังเอิญมาก คือตอนนั้น“พี่หน่อย-พี่เคน” (บุษกร-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) เขากำลังแคสติ้งเรื่อง “ระเริงไฟ” ผมไปส่งน้อง พี่หน่อย-พี่เคนเห็น ก็เลยให้ผมลองแคสติ้ง คือไหนๆ ก็มาแล้ว ก็ลองแคสให้ดูเลย ตอนนั้นผมยังไม่ได้เรียนการแสดงอะไรเลยนะครับ แต่ว่าก็ลองดู พอแคสเสร็จพี่หน่อยก็โอเค...เอ้า!! ผมก็ตกใจเลย แต่ว่าตอนนั้น มีปัญหาเรื่องบท ตัวที่ผมจะได้เล่นก็เลยโดนถอดออกก่อน คือบทเหมือนจะซ้ำกัน เขาเลยเอามารวมเป็นตัวเดียวครับ พอถอดผมออก คนที่ได้เล่นแทนผมก็คือน้องสาวผมเอง (หัวเราะ) แต่พี่หน่อยก็เป็นคนที่ทำให้ผมได้เซ็นสัญญากับช่อง 3 คือเป็นคนชักนำให้ผมได้เข้ามาที่ช่อง เป็นนักแสดงหลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสไปเรียนการแสดง 1 ปีเต็มและได้ไปแคสซีรี่ส์ลูกผู้ชาย จาก 400 กว่าคนคัดเหลือแค่ 6 คน ซึ่งผมก็ได้เป็นหนึ่งในนั้น คือได้เล่นเรื่องนี้ เป็นละครเรื่องแรกครับ ถ่ายทำจนเสร็จ และหลังจากนั้นผมก็ได้กลับมาร่วมงานกับพี่หน่อยอีกรอบนึงในเรื่อง “มีเพียงรัก” แวบแรกที่พี่หน่อยชวนผมตกใจเลยครับ คือมันเป็นชีวิตที่ผมไม่คิดว่าจะมาอยู่ตรงนี้ ที่จริงผมอยากเป็นนักบินขับเครื่องบิน แต่ว่ามันไม่ได้แล้ว คือเราชอบทางนี้ เรามาทางนี้แล้ว ผมเคยทำงานที่สนามบิน เป็นกราวนด์สต๊าฟ เพื่อรอจะไปสอบบินตอนที่ทำงาน เราก็ได้ละครของพี่หน่อยพอดี มันคาบเกี่ยวกันหมดเลย เลยตัดสินใจลาออกจากงาน มาลุยทางนี้ดู มาเรียนการแสดงเต็มตัวครับ
เริ่มเรียนรู้การแสดง
ทีแรกยังไม่รู้สึกว่าชอบนะครับ ไม่ชอบเลย และมันยากมาก เพราะว่าผมเป็นคนที่ปิดตัวเองพอสมควร ผมไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยจากับใคร ถ้าเกิดว่าผมไม่ได้สนิท เรียกว่ามีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียว ชอบไปเที่ยวตามต่างจังหวัด ไปถ่ายรูปชิลล์ๆ อยู่เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง การที่เรามาเรียนการแสดงมันเหมือนเปิดโลกของตัวเอง ให้เจอผมอีกคนหนึ่งที่อยู่ในตัว คือผมรู้สึกอย่างนั้นเลยนะครับ มันกลายเป็นว่าโลกผมเปิด ผมกล้าแสดงออกมากขึ้น ผมเล่น ผมพูดกับคนอื่นเยอะขึ้น แต่ว่าในช่วงแรกยาก คือผมไม่เข้าใจ ยังแอบคิดเลยว่ามันคืออะไร ทำไมเราต้องมาทำแบบนี้ด้วย
สิ่งที่หนีกลายเป็นสิ่งที่รัก
ไม่เคยคิดว่าชีวิตตัวเองจะมาอยู่จุดนี้เลย ไม่เคยชอบ แล้วก็หนีมาตลอด ตอนที่เรียนมหา’ลัย เคยสมัครเรียนโทวิชาการแสดง แล้วผมก็ไปเปลี่ยน เพราะว่าตอนนั้นเหมือนคนเรียนน้อย และพอถึงเวลาเรียนจริง ผมไปเปลี่ยนเรียนอย่างอื่น แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ต้องกลับมาเรียนการแสดง ต้องกลับมาหาสิ่งที่ตัวเองหนี น้องพายเขาก็ไม่ได้ชวนเลยนะครับ คือน้องรู้จักผมดี ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย แค่มาส่งเขาที่กองเฉยๆ แต่ด้วยความบังเอิญที่ได้มาเจอพี่หน่อย จนตอนนี้พูดได้ว่าผมรักการแสดงของผมมาก ผมชอบเลยครับ ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มาเล่นละคร มากองถ่าย แต่ก็แอบคิดอยู่เหมือนกันนะ ถ้าเกิดว่าช่วงนั้นผมลองเรียนการแสดง ลองไปกับมันดู อาจจะชอบมันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็ได้ แต่ไม่เสียดายครับ ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาของคน แล้วแต่จังหวะชีวิตของแต่ละคน
กับอาชีพในฝัน
ก็ยังมีความฝันอยากจะเป็นนักบินอยู่นะครับ ถ้าเกิดมีโอกาสก็จะไป คือมันจะมีช่วงที่เขาเปิดให้สอบ เราก็สามารถไปลงเรียนก่อนที่จะไปสอบ แต่ว่าก็ตอบยากถ้าถามตอนนี้คือขอรอดูโอกาสตัวเอง ว่าข้างหน้าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รอดูก่อน ถ้าเกิดว่าได้มีโอกาสกลับไป ก็คงจะกลับไปเรียนนักบินอีกครั้ง
พระเอกใหม่ป้ายแดง
ในซีรี่ส์ลูกผู้ชาย เรื่อง “ปัทม์” เป็นบทที่ค่อนข้างหนักและยาก ด้วยความที่เป็นเรื่องแรกของผมด้วย ก็จะตื่นเต้น แล้วก็กดดันมาก แต่ก็รู้สึกท้าทายครับ อยากจะทำมันให้เต็มที่ ให้สุดจริงๆ
เด็กหนุ่มบ้าพลัง
ตั้งแต่เด็กคือเป็นเด็กที่ซนมากครับ ไม่ได้ดื้อ แต่ซนแผลเต็มตัวเลย ด้วยความที่เราเป็นคนชอบเล่นกีฬาก็เลยได้ไปเรียนโรงเรียนประจำ ที่วชิราวุธวิทยาลัย พ่อแม่เขาไม่ได้เกลียดเรานะที่ส่งให้ไปเรียนประจำ (หัวเราะ) เหมือนว่าตอนนั้นพี่ชายก็เรียนด้วยครับ ช่วงชีวิตวัยเด็กผมป.4 จนถึง ม.6 อยู่แต่โรงเรียน ที่ซนก็คือผมไม่เรียนเลย ชอบเล่นกีฬาทำกิจกรรมเล่นทั้งวันเลย จนตอนนี้ผ่าเข่าไปแล้วข้างนึง คือเข่าเคยหักมาแล้ว เพราะว่าเล่นรักบี้ ตอนนี้ก็คือเล่นไม่ได้แล้ว แม่ไม่อยากให้เล่นกีฬาไม่อยากให้เล่นรักบี้แล้ว เพราะกลัวว่าลูกจะเดินไม่ได้ คือตอนนั้นผมบ้าพลังมาก กีฬาเป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิตของผม สิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นก็คือการเล่นกีฬา ที่เก่งที่สุดเป็นเดอะเบสของผมนะครับ ตอน ม.5 ผมเจ็บและเดินไม่ได้ปีหนึ่ง ก็เลยต้องเลิกเล่นกีฬาตั้งแต่ตอนนั้น เสียดายมาก ขณะนี้ก็ยังเสียใจนะ เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด ตอนนี้เราทำไม่ได้แล้ว แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าผมค้นเจอสิ่งใหม่ที่ผมคิดว่าผมทำได้ดี นั่นก็คือการเล่นละคร แล้วผมก็ชอบมันด้วย เราชอบการแสดง แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าที่เราทำอยู่เนี่ยมันคือดีที่สุดแล้วหรือยัง
ก็ต้องให้คนดูตัดสินครับว่าได้ไหม
น้องสาวร่วมสายงาน
ผมยังไม่มีโอกาสร่วมงานกับน้องพายเลยครับ แต่อยากมาก คือเราเล่นซีรี่ส์ลูกผู้ชายเหมือนกัน แต่ว่าคนละเรื่อง ก็อยากจะเล่นเรื่องเดียวกันมากเลยนะ อยากเล่นเป็นพี่น้องกันจริงๆ คงจะตลกดีครับ คือเราดีใจนะที่ได้ทำงานสายเดียวกันกับน้อง คือไม่เคยคิด มาวันนึงเราคุยเรื่องเดียวกัน แล้วเราเข้าใจกัน จนตอนนี้เราคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องแล้ว (ยิ้ม) ถึงแม้ว่าจะคุยกับพ่อแม่เรื่องละคร เรื่องวงการ เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนที่เราเข้าใจกันเอง จากที่เราสนิทกันอยู่แล้ว ก็กลายเป็นว่าเราสนิทกันมากขึ้น
สถานะหัวใจกับสาว คริสซี่-กฤษณ์สิรี
คือเราคบกัน เป็นมิตรที่ดีต่อกัน ไม่ได้ตอบเป็นแพทเทิร์นอย่างที่เขาตอบกันนะครับ จริงๆ ก็คือเราละคำว่าแฟนไว้ ไม่พูดว่าเราเป็นแฟนกัน เพราะผมไม่เคยขอว่าเราเป็นแฟนกันนะ แต่เราดูแลกันไปแบบนี้นานแล้วครับ เลยอยู่กันไปแบบนี้ ก็แฮปปี้ดี เขาเป็นผู้หญิงที่ตรงสเปกของเราในหลายๆ เรื่อง หลายๆ แบบ ทั้งนิสัยหรือว่าวิถีชีวิตก็ตาม คือเราไปด้วยกันได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้เว่อร์หรือว่าน้อย คนรู้นะครับ ผมไม่ได้ปิดครับคือถ้าดูในไอจีของผมและของเขาก็จะเห็น ไม่รู้ว่าจะมีผลกับแฟนคลับหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าผมต้องให้เกียรติผู้หญิง ผมเลยไม่คิดที่จะปิด เพราะผมไม่ได้อยากโกหกใครครับ
ทั้งน่ารัก และชัดเจน แบบนี้ คงไม่ต้องเดาว่าหนุ่ม “เค้ก” จะเนื้อหอมในหมู่แฟนคลับมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นตามไปส่องความหวาน อุ๊ปส์!! ความน่ารักของพระเอกน้องใหม่คนนี้ได้ที่อินสตาแกรม @cakecarter กันเลยค่ะ
กุหลาบสีเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี