กรณีของน้องทรายน.ส. กาญวนิศร์ อริยะพีระชัยช่างตัดผมชื่อดังวัย 29 ปี ที่ระยอง แต่งตัวเซ็กซี่ตัดผมให้กับเด็กและวัยรุ่นชาย กระทั่งลูกค้าชายไปรอกันเป็นอย่างมาก จนเมียต้องตามมาคุมที่ร้าน เป็นข่าวฮือฮาทั้งโลกออนไลน์เมื่อ2 ปีก่อนและร้านต้องปิดไป

ล่าสุด รายการเจาะประเด็น วันที่ 8 เม.ย.62 โดย “ต่วย-ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์” ผู้ดำเนินรายการ พาไปพูดคุยกับน้องทราย หลังทราบว่าร้านตัดผมดังกล่าวกลับมาเปิดอีกครั้งที่ระยองจนใครต่อใครคิดว่า กลับมา ขายเซ็กซี่ พร้อมแขกรับเชิญพิเศษต้อม ไกรวิทย์ พุ่มสุโขตัวแม่ในวงการทำผมและตัวแม่ฉะแรงอย่าง ลีน่า จังจรรจา ที่ยันเสียงแข็งว่าจะไม่ให้สามีไปตัดผมร้านนี้เด็ดขาด!!

หลายคนมองว่าร้านตัดผมน้องทราย ขายเซ็กซี่ ตัดผมเป็นหรือเปล่า หรือเพียงโชว์สัดส่วนสรีระเรียกลูกค้า ปกติแต่งตัวแบบนี้อยู่แล้วหรือเปล่า

น้องทราย น้อยกว่านี้นิดนึงคะ ถ้าใช้ชีวิตปกติก็จะประมาณนี้แต่ถ้าอยู่ที่ร้าน ก็จะโป๊เพราะเป็นนิสัย

เมื่อ 2 ปีก่อนเป็นข่าวที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียล เป็นช่างทำผมชื่อดังแต่งตัวเซ็กซี่ ชีวิตเปลี่ยนไปไหมในช่วง 2 ปีที่แล้ว

น้องทราย เปลี่ยนคะ เปลี่ยนแบบเราไม่ค่อยอิน  แบบเราไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้น แต่ก่อนเราก็ตั้งใจเปิดร้าน ก็รอรับลูกค้า แต่พอมีข่าวก็จะได้ลูกค้าเป็นประเภทที่มาดูเรามากกว่าการตัดผม

ลักษณะร้านเดิมเคยใช้ว่าเป็นบาร์เบอร์ และตอนนี้กลับมาเปิดร้านใหม่ดังชั่วข้ามคืน ร้านอยู่ที่ไหน ทำคนเดียวเลยหรือ

น้องทราย ช่ายคะ ตอนนั้นตั้งใจจะเปิดบาร์เบอร์ แต่เราก็รับผู้หญิงแหละแต่อยากเน้นบาร์เบอร์เพราะเราเรียนเสริมทางการตัดผมชายมา คราวที่แล้วเปิดวันเดียวก็เป็นข่าวครึกโครมขึ้นมาเลย ครั้งนี้เปิดที่ใหม่มาก็ยังมีลูกค้าประจำจองคิวทุกวัน ร้านอยู่หลังเซ็นทรัลระยอง ข้างตลาดมิดไนท์ มีผู้ช่วย 1 คน

ลักษณะร้านรับตัดผมหรือมีบริการอะไรบ้าง ตัด ดัด ซอย หรือพิเศษอะไรอีก ตัด ดัด ซอย ทำเองทั้งหมดมั้ย

น้องทราย ตอนนี้มีตัดผมทั้งชายทั้งหญิงเลย สระ ไดร์ ทรีทเม้นท์ ทำสี ดัดเคมี มีต่อขนตา อนาคตใกล้ๆนี้ก็จะมีทำเล็บด้วย ให้ช่างคนอื่นทำ ส่วนเรื่องตัด ดัด ซอยก็ทำเองคะ ส่วนมากลูกค้าที่มาก็จะเป็นลูกค้าประจำ

ลูกค้าประจำที่ทรายพูดถึงคือลูกค้าที่เมื่อ 2 ปีก่อนเค้าเคยดูข่าวหรือติดตามทรายมาอยู่แล้ว

ทราย เค้าเคยตัดผมกับเราตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แล้วก็เป็นเพื่อนกันมายาวเลย

กรณีเปิดร้านตัดผมแล้วแต่งตัวแบบนี้ ถือว่าเป็นการตลาดเรียกลูกค้าไหม

ทราย คือตอนแรกที่เป็นข่าว เราแต่งตัวแบบไม่ตั้งใจแล้วคนติดภาพนั้น พอมาเห็นเราใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์หรือมาเราหน้าสด เค้าก็เหมือนไม่อิน เราก็เลยรู้สึกว่าเราการกลับมาของเราก็ต้องเป็นภาพที่เค้าจำ ตามภาษาการตลาด แต่เอาจริงๆ ทรายชอบใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มากกว่า

เนื่องจากว่าเราทำธุรกิจ เรื่องของการทำผม ถามก่อนเลย ตั้งราคาสูงมั้ย

ทรายไม่สูงคะ คิดราคา 300 บาท แพงกว่าคราวที่แล้ว 50 บาทเอง คือราคามาตรฐานทั่วไป

ก่อนที่จะมาเปิดร้านทำผม เราเรียนอะไรมาถึงได้มาทำอาชีพนี้

ทราย จบปริญญาตรี บริหารการจัดการทั่วไปคะ

จบปริญญาตรีบริหารแล้วมาทำอาชีพทำผมได้อย่างไร เป็นความชอบหรือว่ายังไง อะไรคือจุดเริ่มต้น มีไปเรียนหาความรู้เรื่องผมไหม

ทรายคืออยากให้แม่เห็น มันก็เป็นส่วนหนึ่ง ทรายทำงานมาตั้งแต่เด็ก ทำงานโรงงาน ใช้แรงงาน ผ่านความลำบากมาก่อนแต่ไม่ได้จำซักเท่าไหร่ ที่คิดทำอาชีพทำผมตอนนั้นตามเพื่อน คือเพื่อนทำงานเป็นผู้ช่วยช่างสระไดร์ เราไปทีไรเพื่อนทำผมให้เราสวย ก็อยากทำบ้าง เผื่อจะรุ่ง เผื่อมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะว่าเราก็ทำงานประจำทำงานหนักตั้งแต่เด็ก เลยไม่อยากทำงานหนักไปตลอด จุดนั้นเลยทำให้เป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นก็ไปสมัครเรียนฟรีที่ กทม.สอน แล้วไปฝึกงานที่ ชลาชล ประมาณ  1 ปี กว่าๆ สุดท้ายต้องออกเพราะแม่เข้า รพ. ต้องไปดูแลแม่ไปเฝ้าได้ประมาณ2 เดือนแม่ก็เสีย เราก็กลับมาเรียนตัดผมชายเพิ่ม

จุดเริ่มต้นของร้านเกิดขึ้นครั้งแรกได้อย่างไร

ทรายเกิดขึ้นจากที่เรากลับมาเรียนตัดผมชายจบ แล้วก็ไปเปิดร้านที่ระยอง จนเกิดเป็นข่าวขึ้น

หลังจากเปิดร้านเมื่อปี 60 จำได้ว่าดังมากเลยถึงขนาดว่าหน่วยงานราชการจังหวัดระยอง ต้องมาตรวจที่ร้าน คิดว่าเป็นร้านอย่างอื่นไม่ได้ตัดผม ตกใจไหม

ทรายช่ายคะ ทั้งนายอำเภอทั้งตำรวจ  แต่ไม่ได้ตกใจเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร จนมาเห็นเป็นข่าวถึงตกใจ

ก่อนหน้าที่เป็นข่าวเป็นคราว คุณผู้ชายที่ไปใช้บริการตัดผมก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่เข้ามามีโรคจิตด้วย รวมถึงพระ

ทรายใช่คะ มีแบบมากวน แม้แต่พระก็ส่งข้อความมาในเชิงชู้สาว เราก็บล็อกคะ เค้าก็พยายามแอดมาใหม่จนเราบอกว่า ถ้าไม่หยุดเราจะประจานนะ เรากลับเป็นคนโดนด่า

เรารู้สึกไหมว่าตั้งใจจะทำอาชีพช่างตัดผม แต่การตีความบางคนมอง ไม่ได้ดูที่ความสามารถของเรา ดูจากการแต่งตัวและบุคลิกของเรา รู้สึกท้อไหม

ทรายเรียกว่าไม่คิดอะไรมากกว่า เพราะว่าคนที่รู้จักเราเค้าเป็นลูกค้าประจำเราเค้าอินกับเรา ส่วนคนที่มาครั้งเดียว มาพูดจาลวนลาม มามองแล้วเค้าก็ไป เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ไม่ได้ท้อใจอะไร แต่ถ้าโดนคนด่านี่รู้สึกท้อมากเลย การที่ช่างด้วยกันมาดูถูก ว่าทำนมหกครั้งเดียวดังเลย แต่เค้าไม่ได้มาเห็นความตั้งใจของเรา

เรามาดูสังคมช่างตัดผมกันดีกว่า ว่าในวงการนี้มีสงคราม ความอิจฉาริษยาเกิดขึ้นด้วยหรือ รุ่นใหญ่โดนบ้างไหม

ต้อมก็เป็นไปได้นะ ก็มีหมดแหละ ยิ่งโลกยุคโซเชียลใครเขียนอะไรก็เขียนได้ สำหรับพี่จะโดนเรื่องแฟนคลับมากกว่า พอเราเปลี่ยนเพศสภาพกลุ่มผู้ใหญ่บางกลุ่มเค้าจะรับไม่ได้

ถามน้องทรายต่อ หลังจากนั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำไมปิดร้าน เหตุมาจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือเปล่า หลังจากปิดร้านแล้วหายไปไหน

ทราย สาเหตุจริงๆ คือมีปัญหาเรื่องที่ เพราะว่าเจ้าของที่ไม่มาซ่อมแซมให้ เราซ่อมแซมไม่ไหวเพราะที่ตรงนั้นมันเป็นบ้านแบบ 3-400 ปี ฝนตกแล้วมันขึ้นรา เราก็ป่วยเป็นหอบด้วย ก็เลยตัดสินใจปิด อย่างที่บอกไปว่าลูกค้าบางคนไม่อิน มาเพราะว่าอยากมาพูดคุยมาดูเรามากกว่า พูดได้ว่าเราหมด passion  กับลูกค้าแต่ไม่ได้หมด passion กับอาชีพ หลังจากปิดร้านก็กลับมาเรียนของเราเงียบๆ ที่หายไปก็ไปหาความรู้เพิ่มของการทำผม

วงการทำผม ต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลาหรือเปล่าครับ หรือหลายคนคิดว่าทรงมันมาตรฐาน

ต้อมช่าย มันแน่นอนอยู่แล้ว โลกมันไม่หยุดนิ่ง พื้นฐานหลักการมันมี แต่แฟชั่นมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทคนิคมันเปลี่ยนโดยเฉพาะการทำสี การดัดผม เดี่ยวนี้คนจะคำนึงถึงความปลอดภัย ออแกนิคกันมากขึ้น เพราะฉะนั้น โลกสมัยใหม่เค้าก็พยายามมีนวัตกรรมอันใหม่มาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น เราเป็นช่างเราก็เหมือนหมอผม คือถ้าเรามีoption ให้กับลูกค้าร้านนั้นก็จะมีจุดเด่น อย่างเช่น แม่ลีน่าจัง อย่างที่คุยกันคือกลัวมากกับการทำสีผมเพราะเคยเป็นซีส เค้าก็จะผลิตอะไรที่เป็นออแกนิค เพราะบางคนเค้าจะทนไม่ได้กับผมขาว อย่างตัวเราเองยิ่งไม่ได้เลยเพราะเราเป็นช่าง ลูกค้าก็จะเห็นว่าเราไม่ดูแลตัวเอง

แปลว่าอาชีพช่างทำผมที่ทุกคนคิดว่าใครๆ ก็ทำได้ หรือบอกว่าแค่เรียนรู้ทรงมาตรฐาน ก็เพียงพอแล้วนั่นคิดว่าอย่างไร

ต้อม ไม่เพียงพอครับ อย่างที่บอกทุกวิชาชีพ ยิ่งโลกพัฒนาเราก็ยิ่งต้องพัฒนา ถ้าเราไม่อยากเป็นคนที่นั่งทำอะไรซ้ำซาก การเรียนรู้เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์กับองค์กรเราได้เหมือนกัน

หลังจากไปเรียนเพิ่มเติมสุดท้ายกลับมาเปิดร้านที่ที่ระยองอีกครั้ง รูปแบบเหมือนเมื่อ 2 ปีที่แล้วไหม มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปบ้าง

ทรายทรายเป็นคนระยองเลยคิดว่าเป็นที่ของเรา ตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็ตั้งใจว่าเราจะเปิดร้านใหม่ที่ระยองอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีทำเลที่ถูกใจ จังหวะก็เลยได้ที่ตรงนี้มา ร้านเหมือนเดิมตรงที่เราตัดนี่แหละคะ เพิ่มเติมก็จะมีพวกต่อขนตาและ ทำเล็บเข้ามา เพราะลูกค้าเราแต่ละคนเค้าก็มีแฟน เสียเวลามานั่งรอแฟนก็ได้มีบริการอย่างอื่นจากร้านเราไป คุณจะได้เห็นว่าคุณผู้ชายของคุณกำลังตัดผมอยู่ ลดข้อขัดแย้งในการมาร้านตัดผมทรายไปด้วย

ผลตอบรับเป็นอย่างไร หลังจากที่กลับมาเปิด

ทรายก็ดีคะ ตั้งแต่วันแรก มีลูกค้าประจำจองคิวแล้วก็มีคนที่เคยติดตามเราแต่ยังไม่เคยตัดกับเราก็จองคิวเข้ามา ก็โอเคเลย

ถามถึงคุณลีน่า จัง ในฐานะที่เป็นลูกค้าก่อน ถ้ามีแฟนจะให้ไปตัดร้านนี้มั้ย

ลีน่าจัง  ไม่มีทางหรอกคะ นางอ่อย นางยั่ว โอ้โห น่าเกลียด จะมาเปิดร้านทำผมหรือจะมาเปิดซ่องคะ นางตัดไม่เป็นตัดแต่ผู้ชายมันไถไถไถปัตตาเลี่ยนก็จบ ลองตัดผู้หญิงจะตัดเป็นหรือเปล่า คือมาอ่อยผู้ชายอย่างเดียวเลย ดิฉันไม่ให้สามีไปทำหรอก เคยเห็นตามคลิปน้องไม่ได้มีฝีมือเลย เห็นแค่เอากรรไกรเล็มๆ เด็กยังทำได้เลยคุณไม่เห็นหรือคะ นมนี่ลอยอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มานั่งตัดนี่ดมแล้วดมอีก ฉันคิดว่าถ้าทำแบบนี้ไปทำอาชีพอื่นเถอะ เหมือนการแฝง..... มันไม่เหมาะสม มันต้องขายฝีมือ

ถ้าดูจากร้านของน้องทราย เมื่อเทียบกับร้านพี่ต้อมก็ถือว่ามาตรฐานอยู่ไหม         

ต้อมก็มาตรฐานร้านทำผมทั่วไป อย่างเสื้อสายเดี่ยว จริงๆ มันก็มีแฟชั่นทั่วไปของกลุ่มวัยรุ่น เห็นเค้าก็ใส่ออกไปซื้อของกันด้วยซ้ำ บางทีต้อมคิดว่าช่วงบนรู้สึกว่าไม่ค่อยอุจาด จะเป็นช่วงล่างมากกว่าที่เป็นกางเกงขาสั้นจนเห็นง่ามก้น อย่างนั้นต้องมองว่าไม่เหมาะเจาะ แต่ถ้าถามพูดกันตรงๆ ในเรื่องความยุติธรรม เครื่องแต่งกาย แบบฟอร์มในการทำงานต่ออาชีพมันมีความสำคัญ ในแง่ของการตลาดอย่างที่น้องเค้าพูดว่าเค้าทำตรงนี้เนื่องจากความชอบส่วนตัว ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร บังเอิญมันเป็นทอล์คออฟเดอะทาว เพราะ เค้าเป็นคนสวยอันนี้เราต้องยอมรับ รูปร่างดี แต่พี่เชื่อว่า ความเหมาะเจาะของเวลาและสถานที่ยังเป็นเรื่องสำคัญ ทำไมน้องทรายถูกโจมตีจากคนอาชีพเดียวกัน คือเราตัดประเด็นเรื่องความอิจฉา แต่มันเป็นเรื่องของการแข่งขัน คือทุกร้านพยายามหาจุดขาย ก็มีตั้งเยอะแยะที่ออกมาทำบ้าๆบอๆ ยิ่งกว่านี้เพื่อให้ร้านตัวเองได้รับความสนใจ แล้วแต่เทคนิค

ทราย เราตัดผมราคาเท่านี้ เราคงไม่เอาไปถูๆ กับลูกค้าให้เปลืองตัวหรอกถูกไหมคะ ที่ชอบตัดผมผู้ชาย เพราะกลัวเจอลูกค้าผู้หญิงที่มาเหวี่ยงมาวีน จากที่เคยเจอมาตอนฝึกงานเพราะตอนนั้นเราไดร์ไม่เก่ง ทำทรงไม่เก่ง เพราะผู้หญิงมีความเรื่องเยอะว่าจะต้องสวยในปริมาณที่พอดีของเค้า การแต่งตัวทำไปเพื่ออาชีพเท่านั้น ไม่ได้แฝงอะไรทั้งสิ้น อย่ามองแค่ภายนอก แล้วไม่ได้คิดจะทำอาชีพนี้ไปจนตาย

สามารถติดตามรายการเจาะประเด็น ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.35 น. ทางช่อง 8 หรือติดตามย้อนหลังได้ที่ FB Live ช่อง8