ยกให้เลยกับตำแหน่ง พิธีกรมาแรง แซงโค้งรุ่นพี่ เพราะตอนนี้ หนุ่ม แบม-ปีติภัทร คูตระกูลคิวแน่นยิ่งกว่าพระ-นาง ซุป’ตาร์ งานพิธีกรอีเว้นท์วิ่งชนยาวข้ามปี ด้วยดีกรีความหล่อ พ่วงความสามารถแน่นเอี๊ยด ทำให้เขาถูกวางตัวเป็นพิธีกรงานใหญ่ระดับประเทศ รวมถึงระดับเอเชียอยู่เสมอๆ และเมื่อ“ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” พูดถึงความฮอตที่ถูกยกให้เป็น พิธีกรเนื้อหอมแห่งปี หนุ่ม “แบม” ออกอาการเขินทันที พร้อมเผยว่า

“ผมรู้สึกเขินตอนที่ได้ยินนี่แหละครับ ดีใจครับเพราะเป็นความตั้งใจของผม ที่ไหนๆ มาสายนี้ ก็อยากจะไปให้สุด อยากจะเป็นพิธีกรที่ดี มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์หน้าตาดี ก็อยากจะขายคุณภาพด้วยและก็อยากจะพัฒนาในเรื่องของภาษาให้ชัด ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ดีใจครับที่มีคนเห็นความตั้งใจของเรา และชื่นชมในผลงานที่เราทำ”

เส้นทางสายพิธีกร “ช่วงปี 2 ปีนี้ ผมเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่จริงๆ ผมเป็นพิธีกรมา 8-9 ปีแล้วนะครับ ค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จุดเปลี่ยนที่ทำให้คนรู้จัก ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะรายการ Top Chef Thailand ซึ่งมีผลมาก ซีซั่น 1 คือเมื่อปีที่แล้วประมาณต้นปี ทำให้ผมเริ่มมีคนรู้จักในวงกว้าง ต้องขอบคุณรายการ ขอบคุณพี่บอย (ถกลเกียรติวีรวรรณ) ที่ให้โอกาส และรายการนั้นทำให้หลายคนได้เห็นศักยภาพด้านงานพิธีกรของผม ที่สามารถคุมเวที รายการฟอร์แมตใหญ่ได้ หลังจากนั้นก็มีงานพิธีกรงานอีเว้นท์ตามมา เรียกว่ามีงานเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าเลยครับ”

รับมือกับความดัง “แรกๆ ก็มึนเหมือนกันครับช่วงที่งานเริ่มเข้ามาเยอะๆ โดยที่เราไม่ได้ตั้งตัวรู้ตัวอีกที คือเดือนนี้คิวเต็มแล้ว แล้วเต็มทั้งวันด้วยเช้า บ่าย เย็น ทำให้เราต้องเตรียมตัวเองให้หนักขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องสคริปต์ ก็ต้องดูทั้งเสื้อผ้า หน้าผม เตรียมตัวเรื่องสุขภาพให้แข็งแรงดี ไม่ใช่ล้มป่วย จนงานที่ล็อกไว้เสีย อาจจะเป็นข้อดีของแบมส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ตรงที่ว่าค่อนข้างจะมีความรับผิดชอบต่องาน ก็จะพยายามให้อยู่ในกรอบในลู่ ในทางครับ”

ส่วนสำคัญของการเป็นพิธีกร “ความเข้าใจในเนื้อหา แล้วก็ฟัง ซึ่งจะทำให้เราสามารถพูดออกมาได้ธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ว่าจำหมด เพียงแต่ว่าเราต้องเข้าใจ ใจความสำคัญ ต้องการนำเสนออะไร บทบาทเราคืออะไร เข้าใจไปจนถึง Mood & Tone ด้วย ถ้าเป็นงานแถลงข่าว มีผู้ใหญ่มาเยอะ มูทแอนด์โทนก็จะแตกต่างออกไป หรือถ้าเป็นงานปาร์ตี้ เราก็จะสนุกสนานได้ แล้วแต่สถานการณ์ครับ และตั้งมายด์เซตให้ดี เหมือนเราเป็นเจ้าของงาน เราเป็น MC เราเป็นผู้ดำเนินการ เราต้องภูมิใจในสิ่งที่เรานำเสนอ เช่น ผมนำเสนอแอพพลิเคชั่นของโรงพยาบาล ผมก็ต้องภูมิใจไปกับสิ่งที่เราพยายามนำเสนอ”

พิธีกรไอดอล “คนที่ผมพูดถึงมาตลอด คือพี่พีเค (ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร) เพราะว่าพี่พีเคเป็นพิธีกร 2 ภาษา และก็เป็นอันดับ 1 คนหนึ่งเลย ทางด้านพิธีกรอีเว้นท์ ที่ผ่านมาผมก็จะติดตามผลงานพี่พีเคมาตลอด แอบครูพักลักจำมา และก็ยังมีท่านอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น พี่หนิง-ศรัยฉัตร พี่จูน-สาวิตรี เวลาไปร่วมงานกับใคร ผมก็จะแอบสังเกตท่านๆ เหล่านั้นมาเป็นครูให้กับตัวเอง”

หนึ่งอาชีพที่อยากลอง “ผมยังไม่เคยเล่นละครนะ แต่พี่บอยก็ยังไม่พูดถึง(หัวเราะ) ไม่รู้ว่าเขามองเห็นในตัวเรา ว่าเรามาสายพิธีกรน่ะดีแล้ว หรือยังไงนะครับ แต่ส่วนตัวผมเอง ผมว่าเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่น่าลอง และก็ยากกว่าการเป็นพิธีกรด้วย เพราะพิธีกรจำเข้าใจ และก็พูดผ่านตัวตนของเรา แต่การแสดง ต้องมีอินเนอร์ ต้องมีสตอรี่ว่าทำไมต้องร้องไห้ ต้องโกรธ ก็เลยคิดว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจครับ”

ได้จับงานแสดงเมื่อไหร่ เชื่อว่าหนุ่ม “แบม” ผ่านฉลุยแน่นอนค่ะ ก็แหม...มีติวเตอร์ส่วนตัว อย่าง กวาง-ช้องมาศ บางชะวงษ์ นักแสดงสาวคอยขนาบข้างดูแลหัวใจซะอย่าง จริงไหมคะ!?

กัลลัตตา