คนในวงการบันเทิงและประชาชนโพธาราม ร่วมอาลัย แม่ปราณี แม่ของจตุรงค์ ท่ามกลางความโศกเศร้า หลังเสียชีวิตในวัย 79 ปี โดยส่วนใหญ่นำพวงหรีดพัดลมมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก โดยที่จตุรงค์ตั้งใจนำไปบริจาคให้กับคนยากไร้ต่อไป

16 พ.ค.62 เข้าสู่คืนที่ 2 ของการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพคุณแม่ปราณี พลบูรย์ มารดาของนายจตุรงค์ โพธาราม หรือ จตุรงค์ พลบูรย์ ที่เสียชีวิตในวัย 79 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยอาการสงบจากโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ ภายในห้อง ICU ที่โรงพยาบาลโพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

โดยตลอดทั้งวันมีคนในวงการบันเทิงและประชาชนจำนวนมาก เดินทางมาที่ วัดโพธาราม ต.โพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อไว้อาลัยและร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ คุณแม่ปราณี พลบูรณ์ ด้วยความอาลัย โดยบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ซึ่งถั่วแระ เชิญยิ้ม และ หยอง ลูกหยี อดีตนายกสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ รวมทั้งศิลปินจำนวนมากมาร่วมไว้อาลัย อาทิ แทค ภรัณยู โรจนาวุฒิธรรม, จิ้ม ชวนชื่น, ธงธง ม๊กจ๊ก, จอย ชวนชื่น และศิลปินตลกอีกหลายคนร่วมงาน โดยแต่ละคนได้นำพวงหรีดพัดลม ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ มาร่วมแสดงความอาลัย

นายจตุรงค์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ของงาน โดยเมื่อวานนี้ตนเองไม่ได้มาร่วมงานเนื่องจากติดถ่ายรายการเกมส์ 1,000 หน้า และไม่สามารถที่จะมาได้จริง ถ้าเราขอลาเกม1000หน้าที่อัดสองวันเมื่อวานกับวันนี้ เขาเสียหายหลายแสน เราก็คิดว่าไม่เป็นไร แม่เรายังนอนโรงพยาบาลได้ต่อ แต่ว่า “เฟิร์น” ลูกสาวและภรรยา อยู่รับหน้าที่แทน ร่วมกับญาติพี่น้อง ครอบครัว ขาดแต่ตนเองเพียงคนเดียว แต่ไม่เป็นไรตนได้บอกแม่แล้ว เพราะก่อนหน้าที่แม่จะเสียเมื่อวันเสาร์ตนอยู่กับแม่อยู่แล้ว อยู่จนแกไปเลย ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะร้องแล้ว เมื่อวานก็มีกำลังใจมาให้กันเยอะ และวันนี้ก็ทราบข่าวว่ามีพวงหรีดและกำลังใจผู้คนที่จะเดินทางมาร่วมงานของตนเองกันเยอะ ซึ่งต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ถ้ามาที่วัดก็จะเจอตนเองจนถึงวันอาทิตย์ จะอยู่ทุกวัน

คือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเจอมาตั้งแต่เกิดมาเป็นมนุษย์ อายุ 55ปี เป็นการเสียใจที่หนักที่สุดเป็นอะไรแน่ที่สุดในชีวิต แต่รับรู้ก่อนหน้านี้แล้ว คือคุณแม่เข้าโรงพยาบาลมาประมาณเกือบเดือนแล้ว ก็สัญญาณไม่ดี ทรุดลง นับถอยหลังอยู่ตลอดเวลา คือที่แม่เข้าโรงพยาบาลเพราะว่าหัวใจหยุดเต้น เราก็มองหน้ากันและก็บอกว่าลุ้นให้คุณแม่กลับมาลืมตาได้ก็พอแล้ว แต่มันไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ ก็ทรุดลงเรื่อยๆ ปั๊มหัวใจกันตลอด จนวันสุดท้ายพี่น้องและลูกหลานทุกคนลุ้นให้แม่ไม่เจ็บ ทุกคนน้ำตาไหล ไม่อยากให้แกทรมาน ก่อนที่แกจะเสียไม่อยากดูเลย อยากให้แกหยุดทรมานและทุกคนทำใจหมดแล้ว ทำใจได้หมดแล้วว่าแม่ต้องไปแน่ๆ ตนเองก็เก็บความรู้สึกเสียใจแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะแม่เลี้ยงมาตั้งแต่คลอดจนลืมตา จนมาบัดนี้ 55 ปีแล้ว เสียใจมากแต่ก็ต้องทำใจเพราะเป็นไปตามโลก

นายจตุรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับแม่ ก่อนหน้าที่จะนอนโรงพยาบาลพอเวลาแกออดแอดทีแกก็จะสั่งที เพราะออกจากโรงพยาบาลมา 10 ปีแล้วเพราะฉะนั้นแล้วแกสั่งอยู่บ่อยๆ แต่ล่าสุดก็เหมือนกับแกรู้ตัวแกเอง ก่อนที่หัวใจแกจะหยุดเต้นแล้วปั๊มขึ้นมาแล้วนอนไม่รู้สึกตัวเกือบเดือน ก่อนหน้าได้ยินแกพูดจับแขนเราแล้วก็บอกว่าครั้งนี้ “คงไม่ได้อยู่แน่ แม่คงไม่ได้อยู่แน่” ร้องไห้ไปด้วย แต่คำพูดแบบนี้มันเคยมีมาแล้ว ตนก็จะพูดกับแม่ว่า “แม่จะไปไหน แม่ต้องอยู่สิแม่จะไปไหน” แม่ก็จะตอบว่า “แม่ไม่อยู่แล้ว” แล้วแม่เป็นคนงกเงิน ถึงเวลาต้องให้ ถึงเวลาขาดเหลือไม่ได้ต้องให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามที่เรากำหนดไว้ ถ้าไม่ให้แกจะทวง 3-4 เดือนหลังไม่ทวงเงินเลยครับ นี่หละครับสัญญาณไม่ดี เกิดมาไม่เคยเห็นแม่ไม่ทวงเงิน ขาดเหลือก็วัน เราก็มีทักแกอยู่ครั้งหนึ่งว่า “แม่รู้หรือเปล่าว่าผมยังไม่ได้ให้เงินแม่” แกก็จะตอบว่าไม่เป็นไรลูก ตั้งแม่เอาไปให้ทอฝัน คือ ลูกของน้องสาวที่แกรักมากเป็นหลาน ซึ่งเงินแม่ก็ต้องอยู่กับแม่ แกก็จะบอกเอาไปให้ทอฝัน มันเป็นสัญญาณที่เป็นอะไรที่แปลก

ซึ่งแม่เป็นคนอ้วนด้วย น้ำหนักตัวแกสูงถึง 120 กิโลกรัม ตอนที่แกจากไป แกก็ไปกับมือเราเลย ตอนนั้นเราถ่ายละครอยู่พอหลานบอกก็รีบขอกองละคร ซึ่งพอไปถึงปุ๊บเหมือนเขารอเราอยู่ ก็ไปจับมือ แล้วบอกว่า แม่ๆ แล้วแต่แม่เลยนะถ้าจะไป ไปเลยนะจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด สักพักแม่ก็ไปเลย เราร้องไห้จนไม่มีน้ำตา เกิดมาไม่เคยร้องไห้เยอะขนาดนั้น

นายจตุรงค์ กล่าวต่อว่า ตนต้องขอบคุณทุกคน เพื่อนศิลปินตกและนักแสดง ที่เดินทางมาห้ำลังใจ ส่วนใครที่ไม่สะดวกมา รู้จักกับแม่ก็สามารถระลึกถึงได้ และต้องขอบคุณผู้ที่นำพวงหรีดมาให้ ซึ่งเป็นพัดลมมีมาจำนวนมาก หลังเสร็จงานแล้วตนจะนำไปบริจาคให้กับเด็กๆที่ยากไร้ แถวบ้านอยู่วัดเขาราบมีเด็กๆเยอะ จะเอาไปไล่แจกเลยอยากเป็นการต่อบุญด้วย รวมไปถึงผ้าห่มที่ใช้งานได้ก็จะนำไปบริจาคเช่นกัน