นับเป็นความภาคภูมิใจที่สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ ๒๑ ก.พ. ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(กวช.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้คัดเลือก ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๑ ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ จำนวน ๑๒ คน ๓ สาขา   และหนึ่งใน ๑๒ ท่านนั้นคือ นางเอก นันทนาคร  มีชื่อในวงการภาพยนตร์ คือ เพชรา เชาวราษฎร์ ได้ถูกรับเกียรติยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์) พุทธศักราช ๒๕๖๑

และในโอกาสที่ดีกับเรื่องที่น่ายินดีครั้งนี้ สมาชิกชมรมรักษ์เพลงชรินทร์จึงได้จัดงานเลี้ยงฉลองร่วมแสดงความยินดีให้กับนางเอกตลอดกาล เพชรา เชาวราษฎร์ ขึ้น ในวันศุกร์ที่ ๑๒ ก.ค. ณ เดอะแบงเควทฮอลล์ แอท นาทอง โดยมีสมาชิกชมรมเข้าร่วมยินดีมากมาย รวมทั้งเพื่อนพี่น้องดารานักแสดงในวงการภาพยนตร์มาร่วมยินดีกันมากมายพร้อมหน้าพร้อมตาอาทิ สมบัติ เมทะนี และ กาญจนา (ภรรยา) , อมรา อัศวนนท์ , บุศรา นฤมิต , ปริม ประภาพร , จอมใจ จรินทร์ , มาลาริน บุนนาค , อุมาพร บัวพึ่ง , นันทวรรณ สุววรณปิยะศิริ , น้ำเงิน บุญหนัก , พรพิมล มั่นฤทัย และเพื่อนศิลปินที่มายินดีและร่วมร้องเพลงบนเวทีสร้างบรรยากาศสนุกสนานเรียกรอยยิ้มและเสียงปรบมือกันตลอดทั้งงาน อาทิ คุณสุเทพ วงศ์คำแหง ,คุณรวงทอง ทองลั่นธม ,คุณจินตนา สุขสถิตย์  วงจันทร์ ไพโรจน์ , รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส , วินัย พันธุรักษ์  ทิพย์วรรณ , โฉมฉาย อรุณฉาน , ศรีไศล สุชาตวุฒิ   และมีเซอร์ไพรส์จากคู่ชีวิตอย่าง  คุณชรินทร์ นันทนาคาร ที่ครั้งนี้ขอขึ้นโชว์ความหวานด้วยการร้องเพลง “หยาดเพชร” เป็นการเปิดตัว คุณเพชรา เชาวราษฎร์บนเวทีเพื่อพูดคุยถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้  และได้รับเกียรติจากครูชาลี อินทรวิจิตร มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี และ คุณเพชรา เชาวราษฎร์ ยังถือโอกาสนี้นำเงินส่วนตัวและเงินบริจาคจากสมาชิกชมรมรักษ์เพลงชรินทร์ที่รวบรวมได้จำนวน ๙๐,๙๑๐ บาท มอบให้โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน จ.ลพบุรี สังกัด มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมป์ โดยมี คุณ วิชัย สานคล่อง ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นตัวแทนรับมอบ ในครั้งนี้ด้วย ปลิ้มปลิ่มยินดีมีความสุขกันทั้งงาน

โดยเฉพาะ คุณเพชรา และ คุณชรินทร์  ที่ได้พูดความรู้สึกกับสื่อมวลชนที่เข้าร่วมสัมภาษณ์พิเศษในการรับรางวัลครั้งนี้ว่า

เพชรา : รู้สึกขอบคุณค่ะ ที่แม้จะนานเท่าไหร่ก็ยังมีความรัก ความระลึกถึงกันอยู่ และไม่ลืมนักแสดงที่ตามองไม่เห็น อย่าง เพชรา เชาวราษฎร์นะคะ ขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ ท่านค่ะ  ทีแรกก็ไม่แน่ใจนะคะ ว่าตัวเองจะได้รับการพิจารณา เพราะว่าแสดงมาเป็นเวลานานแล้ว และไม่รู้ว่า ขอบเขตการพิจารณา ความเป็นศิลปินแห่งชาติมีระบบระเบียบยังไงบ้าง และก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับ แต่เมื่อทางศูนย์ทางคณะกรรมการได้พิจารณาให้ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ ก็ต้องกราบขอบพระคุณค่ะ ที่ยังนึกถึง เพชรา เชาวราษฎร์ อยู่ เพราะว่าตัวเองมองไม่เห็น ก็ไม่รู้ว่าจะทำงานเพื่อประโยชน์ของศูนย์ได้ยังไง จะตอบแทนกับสังคมได้อย่างไรบ้างค่ะ”

เมื่อ ทั้ง เพชรา เชาวราษฎร์ ที่ปัจจุบันอายุ 77 ปี และ ชรินทร์ นันทนาคน ที่อายุ 87 ปี ถูกถามถึงเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ?

เพชรา :ไม่มีอะไรค่ะ ก็เดินไปเดินมา บางครั้งก็บ่นไปบ่นมา (หัวเราะ) ให้คนข้างๆ เขารำคาญบ้าง ก็เป็นรสชาติในชีวิตประจำวัน ก็เดินออกกำลังบ้าง สุขภาพจิตถ้าเราคิดแต่สิ่งที่ดีๆก็ทำให้จิตใจเรามีความสุขและสบายขึ้น สิ่งอะไรที่ไม่ดี คิดแล้วเป็นทุกข์ ก็พยายามตัดๆมันไป

เคล็ดลับของการใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขในทุกๆ วัน ในฐานะคู่รักศิลปินแห่งชาติ ?
เพชรา : ตั้งแต่แรกยังไง ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นอยู่ เลยไม่รู้ว่าเรามีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าเนอะ ก็อยู่มันเฉยๆ อยู่ด้วยกันมาตลอด

ชรินทร์ : ไม่มีอะไรมากครับ ทำให้เหมือนเรารักกันใหม่ๆ อย่าไปคิดว่าเราอยู่กันมานานแล้ว คิดซะว่าเราเพิ่งเจอกันแล้วเรามีความรู้สึกต่อกันยังไง มันก็สดชื่นครับ หลีกเลี่ยงข้อบกพร่องของกันและกัน เขาไม่ชอบอะไรเราก็อย่าทำ

เพชรา : ตามองไม่เห็นมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่พอได้นึกถึงเขาทุกครั้ง ก็ยังนึกถึงภาพเก่าๆ และทุกวันนี้ ชรินทร์ นันทนาคร ก็ยังเป็นคนเก่าอยู่เหมือนเมื่อตอนที่เราคบกันใหม่ๆ ตลอดมา

คุณอาชรินทร์ยังมีหยอดคำหวานให้อยู่บ่อยๆ ไหม ?
ชรินทร์ :  เวลาเราคุยกันก็ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งอะไรเลยนะครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือวันที่เขามากอดผมและมาซบหน้ากับหน้าอกของผม พร้อมพูดว่า เธอ... ฉันมองไม่เห็นแล้ว ฉันจะมองไม่เห็นอีกต่อไปแล้ว โอ้โห... วันนั้นเหนื่อย (เสียงสั่นเครือ)

เพชรา : เธออย่าพูดแบบนี้ ไม่เอา(เสียงเครือเช่นกัน)

ชรินทร์ :  คือเราเตรียมรับมือกับมันไว้อยู่นะครับ ว่าวันหนึ่งคุณเพชราจะมองไม่เห็น แต่ไม่รู้สึกว่าต้องมาเร็วขนาดนั้น เราก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ พยายามเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านผมบังเอิญมีสระน้ำ ก็กลัวตรงนี้แหละ จะระวังตรงนั้นให้มากที่สุด กลัวเขาจะหล่นลงไป เขาว่ายน้ำไม่เป็นด้วย (หัวเราะ) พอเวลาผ่านไปเนิ่นนานเข้าก็คุ้นเคยครับ เพราะไม่ว่าจะมองเห็นหรือไม่เห็น เราก็ยังรักกันเหมือนเดิม

 เพชรา : ตาไม่เห็นมาก็เป็นเวลานานแล้ว แต่ว่าเมื่อนึกถึงเขาทุกครั้ง ก็ยังนึกภาพเก่าๆ แล้วทุกวันนี้ ชรินทร์ นันทนาคร ก็ยังเป็นคนเก่า เหมือนเมื่อตอนที่ เราพบกันใหม่ อยู่ตลอดมานะคะ วันแรกยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ก็เลยไม่รู้ว่าเรามีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่า ก็อยู่กันเฉยๆไป อยู่ด้วยกันมาตลอดค่ะ

แม้จะห่างวงการบันเทิงไปนานด้วยเหตุจำเป็น  แต่ เพชรา เชาวราษฎร์ ก็ยังเป็นนางเอก ในดวงใจที่ยังคงครองใจประชาชน   และเธอยังรู้สึกขอบคุณที่แฟน ๆ รักยังระลึกถึง ตลอดมา

เพชรา : รู้สึกขอบคุณค่ะ ที่แม้จะนานเท่าไหร่ก็ยังมีความรัก ความระลึกถึงกันอยู่ และไม่ลืมนักแสดงที่ตามองไม่เห็น อย่าง เพชรา เชาวราษฎร์นะคะ ขอบคุณทุกๆคน ทุกๆท่านค่ะ  ตลอดเวลาที่แสดงภาพยนตร์มา ไม่ว่าจะไปที่ไหน จังหวัดไหน หรือกิจกรรมอะไร ก็จะได้รับการต้อนรับจากประชาชน อย่างอบอุ่นตลอดมา แล้วก็เสมอมา บางครั้งทุกวันนี้ ถ้าไปไหนไหนนะคะ ถ้าเป็นงานที่มีผู้คนเยอะแยะหน่อย เขาจำได้ เขาก็จะมากอด บอกว่า หายไปเลยนะๆ ทำไมไม่เห็นมาเล่นละครให้เห็นหน้ากันบ้างเลย บางคนก็ร้องห่มร้องไห้ ก็พากันร้องไห้ไปตามๆกันค่ะ ไปไหนเราก็เป็นกันเอง เหมือนพี่เหมือนน้อง เหมือนญาติ ไม่มีพิธีการเป็นเรื่องยุ่งยาก อาจเพราะสมัยนั้นผู้คนจะชมหนัง ชมภาพยนตร์กันเยอะ ภาพยนตร์แต่ละเรื่อง นางเอกต้องเป็นคนดี คนก็เลยให้การต้อนรับและเอ็นดู สงสาร เพชรา ตลอดมา ต้องขอบคุณคนดูทุกคน

สำหรับแฟนๆ ที่คิดถึงทั้งคู่  สามารถติดตาม “ชรินทร์ อิน คอนเสิร์ต หมายเลข 18 แผ่นดินแห่งความรัก” ที่จะมีขึ้น วันเสาร์ที่ 3 และ วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562 เวลา 14.00 น. ที่ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยคอนเสิร์ตของคุณ ชรินทร์ นันทนาคร ครั้งนี้ หลายบทเพลงผ่านการคัดสรร จากคุณ เพชรา เชาวราษฎร์ ด้วย  บัตรราคา 3,000/2,500/2,000/1,500/1,000 และ 500 บาท  รายได้ส่วนหนึ่งสมทบกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม  หาซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา  โทร.02  262 3456 

นางเอก นันทนาคร มีชื่อในวงการภาพยนตร์ คือ เพชรา เชาวราษฎร์ ปัจจุบันอายุ ๗๗ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ที่จังหวัดระยอง เป็นบุตรของนายอบ และนางสะอิ้ง ชาวราษฎร์ เป็นบุตรคนที่ ๔ จากพี่น้อง ทั้งหมด ๗ คน

เมื่ออายุได้ ๑๕ ปี เข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้รับการชักชวนให้เข้าประกวดเทพธิดาเมษา-ฮาวาย ประจำปี พ.ศ. ๒๕๐๔ จัดโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ใช้ชื่อในการประกวดว่า ปัทมา ชาวราษฎร์ ได้ตำแหน่ง ชนะเลิศ จากนั้นได้รับการชักชวนจากศิริ ศิริจินดา และดอกดิน กัญญามาลย์ ให้แสดงภาพยนตร์เรื่อง บันทึกรัก ของพิมพ์ฉวี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นเรื่องแรก ขณะอายุ ๑๙ ปี แสดงคู่กับ มิตร ชัยบัญชา โดย ดอกดิน กัญญามาลย์ เป็นผู้ตั้งชื่อให้ว่า“เพชรา เชาวราษฎร์” แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากภาพยนตร์เรื่องที่สอง เรื่อง ดอกแก้ว และได้แสดง คู่กับมิตร ชัยบัญชา รับบทคู่รักในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เป็นที่ชื่นชอบของแฟนภาพยนตร์ เรียกว่า คู่ขวัญ มิตร - เพชรา มีผลงานประมาณ ๓๐๐ เรื่อง ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๕ - ๒๕๒๑  โดยผลงานภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียง อาทิ  บันทึกรักของพิมพ์ฉวี,แพนน้อย,แผ่นดินแม่,เงิน เงิน เงิน,คนใจบอด,แม่ศรีไพร,ลูกเจ้าพระยา,น้ำผึ้งพระจันทร์,มนต์รักลูกทุ่ง,หัวใจเถื่อน,คมพยาบาท,ภูตพิศวาส,ร้อยป่า,ชบาไพร,พนาสวรรค์แก้วกาหลง,จุฬาตรีคูณ,เกิดเป็นหงส์ฯ โดยบทบาทการแสดงของเพชรามีความหลากหลายไม่ว่าจะแสดงบทบาทใดเพชราก็สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมทั่วประเทศ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านได้เสมอมา และยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมด้านการแสดง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงฝีมือและความสามารถได้อย่างเด่นชัด

กระทั่งเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๕ เพชราเริ่มมีปัญหาเรื่องสายตา เนื่องจากในการถ่ายภาพยนตร์ต้องใช้แสงไฟ ที่สว่างมาก ใช้เวลารักษาเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งตาบอดสนิททั้งสองข้าง หลังจากนั้นต้องหยุดงานแสดงเพื่อรักษา สุขภาพมาโดยตลอด จนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕๔๘ ได้ทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุคลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม และเมื่อเดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เพชราได้รับงานโฆษณาลิปสติกมิสทีน โดยรายได้จากงานครั้งนี้ เพชราได้บริจาคให้องค์กร การกุศลทั้งหมด ส่วนหนึ่งมอบให้กับมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย

ด้วยคุณค่าจากผลงานการแสดงภาพยนตร์ของเพชรา เชาวราษฎร์ สะท้อนถึงความสามารถอันโดดเด่น ของนางเอกอมตะตลอดกาล และเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งให้กับนักแสดงรุ่นใหม่ อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดามทุสโซ กรุงเทพมหานคร ในการปั้นหุ่นขี้ผ้งขนาดเท่าตัวจริงเพื่อแสดงร่วมกับหุ่นของบุคคลผู้มี ชื่อเสียงระดับโลกนางเอกนันทนาครจึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์) พุทธศักราช ๒๕๖๑