เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่มักจะมีโมเมนต์น่ารักมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกันตลอด สำหรับ นักแสดงสาว ก้อย รัชวิน และ นักร้องหนุ่มตูน บอดี้สแลม ที่มักจะคอยวิ่งเคียงข้างกันตลอดล่าสุด สาวก้อย ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง ONE31 

กับคุณตูนเจอกันครั้งแรกยังไง ที่ไหน ตอนนี้กี่ปีแล้ว?
ก้อย : 9 ปีแล้ว กำลังจะเข้าปีที่ 10 ค่ะ นานเนอะ เจอกันที่ไหน คือตอนนั้นก้อยเป็นดีเจแล้วพี่ตูนมาโปรโมตเพลง คิดฮอด พอสองสัปดาห์ผ่านไปพี่อุ๋ย บุดด้า เบลส โทรมาบอกว่ามีเพื่อนคนหนึ่งอยากแนะนำให้ก้อยรู้จัก เป็นคนดีมากๆ แล้วบอกว่าขออนุญาตให้เบอร์ไปนะ ซึ่งตอนนั้นไม่ไดขออนุญาตคือให้ไปเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ผ่านไปเกือบเดือนก็ไม่มีใครโทรมานะ แล้วอยู่ๆ วันหนึ่งก็มีเมสเสจเข้ามา แล้วเราสองคนก็คุยกันผ่านแชท ผ่าน SMS สมัยก่อนไม่มีไลน์ก็คุยกันแบบนี้ส่งกันไปมา


พอรู้ว่าเป็นคุณตูน ในลักษณะการคุย เราเริ่มมีใจให้เขาตอนไหน?
ก้อย : มันก็ต้องใช้เวลาอยู่นะคะ คือเราต้องจูนกันทั้งคู่ในช่วงแรก เขาเรียบร้อยมาก ไม่เหมือนกับที่เราเห็นบนเวที รู้สึกว่าเขาสุภาพมากในขณะที่เรากระโดกกระเดกมาก เดทแรกของเราคือก้อยพาเขาไปดูละครใบ้ หลังจากนั้นมาเขาก็ไปดูละครเวทีกับก้อยแบบหลายเรื่องเลย

ถือว่าเปลี่ยนโลกเขา แล้วเราเปลี่ยนยังไงบ้าง?
ก้อย : ก้อยว่าก้อยเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ แน่นอนเลยคือเรื่องสุขภาพ เขาเป็นคนชักนำเข้าสู่วงการ


ก้อยวิ่งมานานหรือยัง?
ก้อย : ถ้าจุดเริ่มต้นเริ่มจริงๆ พร้อมกับพี่ตูนประมาณ 6 ปีที่แล้ว แต่ที่แบบเอาจริง เอาจังที่เริ่มฝึกซ้อมเป็นเรื่องเป็นราวก็คือช่วงที่พี่ตูนวิ่งจากเบตงไปแม่สาย ก็คือประมาณปีครึ่ง

เขาขอเป็นแฟนยังไง?
ก้อย : ก็พูดสั้นๆ ง่ายๆ ซื่อๆ สไตล์เขาไม่มีพิธีรีตองอะไร มันรู้จักกันมาสักพักแล้ว มันก็จำโมเมนต์ไม่ค่อยได้ จำได้แค่ช่วงนั้นเขาป่วยแล้วเราก็ดูแลเขา แล้วเขาก็รู้สึกว่าเป็นแฟนกันนะ ปกติทั่วไป


พอเป็นแฟนกันแล้วก็ต้องมีชื่อเรียกกัน เขาเรียกก้อยว่าอะไร?
ก้อย : เขาเรียกก้อยว่าเป็ด มาจากหนูที่หน้าเหมือนเป็ด คือเวลาหนูอยู่กับเขาหนูชอบทำหน้าเหมือนเป็ด แล้วเราก็เรียกเขาว่าคุณอา ก็คือชื่อจริงที่มาจาก อาทิวราห์ แล้วเรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ ให้เกียรติเขา บางทีเขาก็เหมือนพี่ เหมือนเพื่อน เหมือนคุณอา เหมือนคุณพ่อ


แล้วเขามีอารมณ์แบบตลก ขำๆ ไหม?
ก้อย : มีค่ะๆ ก็มีอารมณ์แบบผ่อนคลายของเขา เขาก็มีมุมแบบนั้นอยู่ บางทีเราไม่อยากให้เขาเครียด เขาทำงานเยอะ รับผิดชอบเยอะ เราก็เลยสร้างเสียงหัวเราะ สร้างรอยยิ้มให้เขาผ่อนคลาย


เรื่องการแต่งตัวเขาหวงไหม?
ก้อย : มีบ้าง เขาจะให้คอยระวังมากกว่า ตอนนี้เวลาทำอะไรมันทำให้เราระวัง เรียนรู้แล้วปรับตัวเองไปค่อนข้างเยอะ

เรื่องงอนมีกันบ้างไหม?
ก้อย : เป็นธรรมดา แต่ว่าพอโตๆ แก่ๆ ก็ไม่ค่อยแล้ว 


แล้วตกลงปีนี้แต่งไหม เพราะให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าจะแต่งกับก้อยปีนี้?
ก้อย : เขาหรอ เขาไม่เห็นเคยพูดกับก้อยเลย บางทีมันพูดยากนะสำหรับก้อย เพราะก้อยเป็นผู้หญิง แล้วอีกอย่างหนึ่งก้อยรู้สึกว่าเราอยากจะบอกในวันที่ทุกอย่างมันพร้อมที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าให้ตอบตอนนี้ก็คือยังค่ะ


แล้วเรามีจินตนาการงานแต่งงานในฝันไหม?
ก้อย : หนูไม่คิด เพราะหนูรู้สึกว่าหนูคบกับพี่ตูนมาหนูไม่อยากคาดหวัง เหมือนเราอยากใช้ชีวิตวันต่อวันให้ดีที่สุด เราก็เลยไม่ได้ฝันหวาน จินตนาการว่าแบบนั้น แบบนี้ เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น คือหนูอยากจะทำทุกวันให้มันดี หนูเชื่อว่าจุดเริ่มต้นของอนาคตที่ดีมันมาจากทุกๆ วันที่เราอยู่ด้วยกัน