ถ้าเอ่ยถึงบทบาทนางเอกเจ้าน้ำตาสุดรันทดในยุค 90 เชื่อเหลือเกินว่าชื่อของ เอ๊ะ-อิศริยา สายสนั่น ต้องผุดขึ้นมาในความคิดของใครหลายคน เพราะด้วยบทบาทที่ตราตรึงความรู้สึกในสมัยนั้นเธอคือนางเอกแสนดีเจ้าน้ำตาที่น่าสงสารที่สุดในจอโทรทัศน์ แม้มีหลายครั้งเธอจะพลิกบทบาทการแสดงและตีบทแตกกระจุยกระจายได้ถึงพริกถึงขิง แต่ผู้ชมก็ยังคงเอ็นดูและเห็นว่าเธอคือนางเอกเจ้าน้ำตาไม่เคยเปลี่ยน
จากวันนั้นเธอโลดแล่นอยู่เบื้องหน้าวงการบันเทิง ถึงวันนี้ผ่านไป 22 ปี บทบาทนักแสดงเบื้องหน้าเปลี่ยนผ่านสู่เบื้องหลังกับตำแหน่งผู้จัดที่เรียกได้ว่าอายุน้อยที่สุดทั้งยังควบตำแหน่งดีกรีดอกเตอร์ในวัย 36 ปี ภายใต้ชายคาบ้าน “อาร์เอส” ที่ทำละครมาแล้วถึง 10 เรื่อง ล่าสุดทีมข่าว “บันเทิงแนวหน้า” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เปิดใจถึงบทบาทผู้จัดของ “สาวเอ๊ะ” และหวนรำลึกถึงวันวานในบทบาทนักแสดงให้ฟังกันว่า
เหนื่อยไหมกับบทบาทการเป็นผู้จัดและการเรียน
เหนื่อยนะคะก่อนหน้านั้นรู้สึกว่าเหนื่อยมาก แต่ว่าก็ดีใจที่ผ่านมาได้ 4 ปีเหมือนเร็วมาก แต่ระหว่างวันตอนนั้นน่ะยาก พอวันนี้มองกลับไป 4 ปีแล้วก็สำเร็จด้วยดีแฮปปี้มากคือมันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กนะคะ รู้สึกว่าการเป็นดารามันไม่ใช่ความฝันเพราะว่าเหนือฝัน แต่สำหรับการเรียนปริญญาเอกเป็นความฝันซึ่งคิดว่าต้องเป็นให้ได้ ต้องทำได้ อย่างน้อยมันก็เป็นเหมือนการต่อสู้กับตัวเองที่ฝืนตอนนั้น ก่อนที่จะมาสอบก็คิดว่าจะได้เหรอเวลามันจะได้เหรอเพราะว่าผู้จัดก็ยังเพิ่งเริ่มก็เครียด แต่ว่าคุณแม่ก็บอกว่าสอบไปไว้ให้รู้ ก็เลยรู้เลยว่าถ้าตั้งใจจะต้องได้
เป็นผู้จัดเข้าปีที่เท่าไรแล้ว กับละครหลากหลายแนวที่ทำมากี่เรื่อง
6 ปีกว่า…ทำละครมา 10 เรื่อง
มองว่าเป็นนางเอกที่ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดเร็วไหม
เร็วมาก เอ๊ะเป็นผู้จัดก่อนอายุ 30 ปี ถือว่าเร็วมากแต่เรารู้ว่าเรามีไอเดียอยู่ในหัวเราตลอด เพราะว่าตั้งแต่อยู่กันตนเป็นเด็กที่ชอบเข้าไปในห้องตัดต่อ ชอบอยู่บนรถโอบี ใฝ่รู้ไปเรื่อยๆ พอวันที่ต้องเป็นก็ช่วยได้เยอะมากเจอปัญหาอะไรก็จะนึกได้ว่าอ๋อตอนที่เป็นนักแสดงเคยเจอแบบนั้นเลยทำให้รู้สึกว่าโชคดีที่ได้เริ่มเร็ว
ตัดสินใจยากไหมก่อนที่จะผันมาทำเบื้องหลัง
คือตอนนั้นรู้สึกว่ายังรักละครเสมอ ทุกวันนี้ก็ยังรักการเล่นละครเสมอ เพียงแต่ยอมรับว่าเล่นมาเยอะมากแล้ว แล้วเข้าใจในฐานะผู้จัดว่าเขาก็คงจะมองว่าจะให้เล่นเป็นนางเอกน่าสงสารเหรอก็เล่นมาจนไม่รู้จะยังไง จะให้เล่นบู๊มันก็ไม่ใช่ทาง เหมือนจะรับละครแต่ละเรื่องก็จะคิดเยอะรู้สึกว่ามันมีข้อจำกัดเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นเปิดโลกใหม่ให้เหมือนไปเริ่มต้นอะไรใหม่ เริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มันจะทำให้ตื่นตัวมากขึ้น ก็ไม่คิดว่าเร็วเกินไป
นางเอกรุ่นเดียวกับเอ๊ะก็เปลี่ยนบทบาทกันไป
ทุกคนก็รับบทบาทที่โตขึ้นกันไป เป็นโชคดีของนักแสดงที่ทำให้ยังต่อยอดความรู้ประสบการณ์ที่มีทำงานในวงการบันเทิงได้ แล้วคนที่เป็นนักแสดงจะรู้ เพราะเรียนรู้อยู่แล้วในกองว่าฝนตกทำยังไง นักแสดงคนนี้เลททำยังไงเรียนรู้อยู่แล้ว จะทำให้การทำงานง่ายขึ้นมากกว่าคนที่ไม่เคยอยู่กอง โดยเฉพาะคนที่เป็นนักแสดงที่อยู่มาตลอด เอ๊ะไปกองแทบทุกวันเอ๊ะก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ มันได้ใช้จริงๆ
เป็นนางเอกเรื่องแรก เป็นผู้จัดเรื่องแรก การเรียน ครั้งแรก ตรงไหน ยากกว่ากัน
ยากคนละแบบตอนเด็กแค่ อายุ 14 ปีเล่นละคร ก็จะรู้สึกว่าทำไม่ได้นู่นนี่นั่นเป็นปัญหาคนอื่นก็ดูเป็นปัญหาใหญ่โต สำหรับคนวัยนั้น แต่การเป็นผู้จัดต้องดูคนเป็นร้อยก็ยากสำหรับวัยนั้นเพราะก็เด็กเหมือนกัน แต่ถ้าถามว่ายากมากกว่านอยด์กว่าเอ๊ะว่ามันยากคล้ายๆ กันเพราะตอนนั้นวัยวุฒิวัยก็ต่างกัน เพียงแต่ว่าข้อดีของเราอย่างหนึ่งคือเป็นคนที่เจออะไรยากจะไม่ท้อก็ทำ เป็นคนกลัวนะคะเวลาที่เจออะไรยากแต่พอเจอปุ๊บสู้ตายค่ะ
การเรียนก็เหมือนกันพอจะสอบจะกลัวแต่ว่าพอได้สอบปุ๊บให้ตายยังไงฉันก็จะสู้ยิบตา ทำให้รู้สึกว่าก็มีความสุขกับทุกอย่างที่ทำค่ะ แต่เลือกแล้วนะคะ ข้อดีของเอ๊ะก็คือเป็นคนเลือกแล้วไม่ได้ถูกบีบบังคับให้ทำ ถ้าถูกบังคับให้อาจจะฝ่อไปเลย แต่เลือกแล้วว่าจะทำอันนี้ ฉะนั้นเป็นคนเลือกยากค่ะ เหมือนจะเล่นละครแต่ละเรื่องเลือกยากมากแต่ถ้าเลือกแล้วเจออะไรยากเอ๊ะก็สู้ตาย
เลือกงานแต่ละเรื่องอย่างไร
คือมีที่ปรึกษาที่ดีมากคือพี่โด่ง (องอาจ สิงห์ลำพอง) และช่องก็ให้โอกาส หนึ่งอย่างที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เป็นผู้จัดได้ถึงทุกวันนี้ ยอมรับอย่างหนึ่งว่าโชคดี สำคัญมากที่ช่องให้โอกาสและเป็นที่ปรึกษา ช่องจะไม่ได้แบบว่าสั่งอย่างเดียว รับฟังเพราะว่าเอ๊ะกับพี่โด่งสามารถคุยได้พี่โด่งรับฟังและที่สำคัญมากคือเอ๊ะมีคุณแม่เป็นที่ปรึกษาคุยได้ทุกเรื่องและก็ได้ทีมงานที่ดี ถ้าฟอร์มทีมงานดีนักแสดงที่มาเล่นเขาก็จะเชื่อมั่นสำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่น ถ้านักแสดงเชื่อมั่นเขาก็พร้อมจะสู้เจอปัญหาอะไร ก็เชื่อว่าผ่านไปได้เขาก็จะพร้อมลุยไปด้วยกัน
ละครช่องส่วนมากเป็นละครผี อยากจะทำละครวัยรุ่นเหมือนสมัยที่เป็นนักแสดงมั้ย
สำคัญที่สุดเอ๊ะว่ากลุ่มเป้าหมายทาเก็ตแฟนละครช่อง 8 ก็จะมีความเป็นคนทำงานผู้ใหญ่ ถ้าเป็นวัยรุ่นเอ๊ะว่ามันก็อาจจะไม่ใช่ ไม่ถูก แต่พอมาอยู่ตรงนี้จะทราบว่า ทำเพื่อให้คนดูเขามีความสุข ฉะนั้นต้องรู้ว่าความสุขของคนดูคืออะไร ก็จะรู้ว่าอ๋อ! คนดูช่อง 8 เป็นแบบโตหน่อยคนทำงานไม่ใช่วัยรุ่นสิบปีกว่า ก็จะมีแบบ 30-40 ปีต้องทำเพื่อให้เขาชื่นชอบ
ละครผีความเชื่อมันอาจจะเข้าถึงได้ง่าย สิ่งสำคัญละครเอ๊ะไม่ว่าเอ๊ะจะทำผี พีเรียด ยุคปัจจุบันยุคอดีตสิ่งสำคัญที่สุดคือละครมันไม่ลึกลับเกินไปดูได้ง่ายแล้วครบรสสนุก สำคัญคือความสนุกคือทุกวันนี้รู้สึกอยากขอบคุณคนดูว่าแป๊บๆ ทำละครมา 10 เรื่องแล้ว ถ้าคนดูไม่ตอบรับดีอาจจะไม่มีโอกาส ก็พยายามทำให้แปลกใหม่ให้คนดูชื่นชอบมากที่สุด
อย่างอั๋น (วิทยา วสุไกรไพศาล) จีบกันมานานมั้ย
เพราะว่าก็เคยเล่นละครด้วยกันมาก่อน บอกพี่อั๋นไปว่าบทมันเหมาะกับพี่อั๋นนะ แล้วไม่ได้เล่นเป็นแค่สุภาพบุรุษมันมีพาร์ตที่เป็นแรงๆ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ซึ่งเขาก็เป็นนักแสดงมีฝีมือเขาเล่นได้อยู่แล้ว และเขามีเสน่ห์ของความเป็นสุภาพบุรุษ ซึ่งเอ๊ะว่าคนดูน่าจะรับได้ไม่ยาก
เห็นว่าเคยเล่นเลิฟซีนด้วยกัน
ใช่ค่ะเลิฟซีนตอนนั้นก็เป็นเลิฟซีนแบบสุภาพบุรุษ พระ-นางไม่ได้อะไรมาก
ย้อนถึงเลิฟสมัยก่อนก็ไม่ค่อยมี
ไม่ๆ เลิฟซีนจูบจริงนี่เป็นเรื่องเป็นราวนะ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าพอโลกมันเปลี่ยนไปก็เข้าใจนะ สมัยก่อนมันเป็นเรื่องใหญ่โตมากคิดแล้วคิดอีกไม่รู้ยังไง แต่ปัจจุบันตะวันตกอาจจะเข้ามามากขึ้น คนก็จะเห็นว่ามันไม่ได้มีอะไรรุนแรงคือส่วนตัวแล้วแต่เลยค่ะ ถ้าแฮปปี้ที่จะเล่นก็ตามใจเลย ถ้าบทไม่ต้องถึงขนาดนั้นเล่นเกินไปก็ตัดทิ้งนะก็ไม่เอาออกนะ แต่ด้วยแต่ละสถานีก็จะมีลิมิตของเขาอยู่แล้ว ต้องให้สถานีเซ็นเซอร์ให้
บทบาทหน้าจอละยังคิดถึงการแสดงอยู่ไหม
ความคิดถึงของเอ๊ะอาจจะไม่ได้มาก เพราะออกกองทุกวัน ก็จะคุ้นเคยกับกองถ่าย เพียงแต่ว่าหลายๆ คนที่เขาอาจจะไปดูยูทูบย้อนหลังละครที่เอ๊ะเล่นแล้วก็จะคิดถึง บางคนบอกชอบมากเลยเงาอโศก เงาอโศก 20 ปีแล้ว (หัวเราะ) รู้สึกดีใจที่คนเขายังจำได้ในขณะที่นักแสดงก็เยอะมาก ก็ดีใจแต่ว่าถ้าจะกลับมาเล่นก็ต้องพร้อมที่สุดจะไม่ทำให้เป็นปัญหากับกองถ่าย แล้วก็ต้องเป็นบทที่รู้สึกว่ากลับมาแล้วมันตื่นเต้น
พอใจแค่ไหนกับเส้นทางที่เลือก
พอใจมากเพราะว่าเลือกแล้วและสามารถเรียนไปได้ด้วย สิ่งที่สำคัญเลยคือตอนที่เป็นนักแสดงปัญหาสำคัญที่สุดตอนมาเป็นผู้จัดเพราะอยากเรียนด้วย รู้ว่าถ้าเราเป็นนักแสดงเราเรียนไม่ได้หรอกเอก ถึงเรียนได้เราจะเอาตัวเองเป็นหลักก็จะสร้างปัญหาให้กอง ไม่อยากสร้างปัญหาให้ก็เลยเบนเข็มมาว่าคงต้องเปลี่ยนอะไรที่มันไม่ได้ฟิกซ์เวลาในการทำงานก็รู้สึกว่าดีใจที่สุดก็คือสามารถเรียนจบได้
ละครแนวไหนที่อยากจะทำแล้วนำเสนอช่องแล้วยังไม่ได้ทำ
ไม่มีนะคะส่วนมากที่นำเสนอไปแล้วช่องก็โอเคถ้าจะให้ทำบู๊อาจไม่ใช่ เพราะตัวเอ๊ะจะรู้ว่าประสบการณ์เรื่องบู๊ไม่มีแทบไม่มีหมายถึงละครที่เป็นแนวบู๊ 100%ไม่ได้ทำ แต่ประสบการณ์ที่เป็นดราม่า พีเรียด ผี เต็มที่เลยจ้าทำมาหมดแล้ว บางทีความเชื่อมั่นของคนดูก็สำคัญ ถ้าเอ๊ะไปทำบู๊ว่าคนดูเขาไม่เชื่อมั่นหรอก เขาไม่เคยเห็นว่าทำ
แต่ถ้าทำผีเพีเรียดเขาเห็นเขาเชื่อว่าอย่างน้อยมีประสบการณ์แล้ว นำมาปรับกับงานให้มันดีขึ้นได้ เรื่องต่อไปก็จะเป็นพีเรียดค่ะแบบ 100% เลย ปกติไม่เคยทำพีเรียดแบบเต็มๆ นะคะ พอจะมีแทรกเข้ามานิดนึงปัจจุบันเยอะหน่อย แต่เรื่องต่อไป 100% กำลังวางตัวอยู่ค่ะ และได้รับอนุมัติแล้ว เป็นละครเรื่องที่ 10 เรื่องต่อไปก็ยังจะทำกับที่นี่อยู่ค่ะ พี่โด่งให้โอกาสมากเฮียให้โอกาสมากเอ๊ะเป็นคนที่ทำละครแบบว่าทำตามใจให้มันพร้อมที่สุด แต่ช่องบอกว่าโตแล้วจบแล้ว แต่ก่อนหน้านี้จะบอกว่าไม่จบ พอจบแล้วต้องทำแบบลงเต็มตัวไม่มีข้ออ้างแล้วเขาก็บอกว่าเอ๊ะต้องแพลนล่วงหน้าเยอะๆ ก็คงติสท์นิดนึงมั้งก็อยากทำในจังหวะเวลา และรู้ว่าโตแล้วมีทีมงานที่ต้องดูแล มีโอกาสดีๆ ที่ช่องให้ทำ
เวลาเลือกนักแสดง
ก็จะมีผู้ใหญ่ช่วยด้วย ประชุมกับทีมก็เสนอพี่โด่งพี่โด่งอ่านบทแล้วบอกว่าเอ๊ะลองติดต่อคนนี้ดู คือมันเป็นการทำงานที่เราไม่ได้ทำคนเดียวเลย บางคนอาจจะเห็นเอ๊ะเป็นผู้จัดแต่จริงๆ มันไม่ใช่เอ๊ะคนเดียวเอ๊ะมีทีมงานมีนักแสดงที่ช่วยกัน
การเป็นเอ๊ะมีผลต่อคอนเน็คชั่นไหม
อาจจะมีผลคือ นักแสดงรู้จักกันมา แต่สำคัญที่สุดมันคือชื่อเสียงของบริษัท เอ๊ะว่ามันสำคัญกว่าความเป็นเอ๊ะอีกนะ เอ๊ะว่าความเป็นเอ๊ะเขารู้จักแต่ถ้าบริษัทเราทำงานไม่ดี เขาจะต้องมาอยู่กอง 6 เดือน เขาก็ไม่มีความสุขเอ๊ะว่าสำคัญที่สุดก็คือชื่อเสียงของบริษัทค่ะ
มีแพลนจะขยายงานออกไปอีกไหม
คือจริงๆ ช่องให้งานจนแฮปปี้ที่จะอยู่ที่นี่นะคะพูดได้เลยว่าตอนนี้ไม่ได้มองที่อื่นเลย เพราะที่นี่ก็ให้งานเยอะการทำงานมันมีความสุขค่ะ ไม่ได้ทำบนความเครียด คือเครียดแหละเพราะว่ากองถ่ายก็มีปัญหา แต่อย่างน้อยช่องก็ยังให้โอกาสที่ดี ให้ได้ทำในสิ่งที่อยากทำและยังรับฟังมีการติมีการชมซึ่งก็แฮปปี้ไม่ได้มองที่อื่นเลยค่ะ
เรื่องล่าสุดมีดูดพระเอกช่อง 7 มาไหม
ก็มีคุยไว้ ไม่เฉพาะช่อง 7 หลายๆ ช่องที่มีคุยไว้ เพราะว่าเรื่องใหม่นักแสดงมันเยอะมาก ก็ต้องดูนักแสดงหลายช่องเลย หลายถึงเรื่องต่อๆ ไป นอกจากเรื่องล่าสุด
ตอนเป็นนางเอกช่อง 7 มีละครเรื่องไหนถือเป็นที่สุดของตัวเอง
คำว่าที่สุดพูดยากนะ เพราะที่สุดเรื่องไหน เรื่องเรตติ้งหรือว่าเสียงฟีดแบ๊กเรตติ้งบางทีอาจจะไม่ได้มาพร้อมฝีมือ ถ้าเป็นเรตติ้งก็คงจะเป็นเรื่องแรกๆ เงาอโศก
รวดเร็วมากเพิ่งเข้าวงการแล้วก็มากที่สุดเท่าที่เล่นละคร (หัวเราะ)
หลังจากนั้นก็ไม่ได้เรตติ้งขนาดนั้น แต่ว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่จดจำทำให้ทุกวันนี้เอ๊ะคนจะเอ็นดูเอ๊ะ คือผู้ใหญ่เอ็นดูเอ๊ะจากเรื่องเพราะรู้สึกว่ารักตัวละครเขาก็รักเราก็เป็นใบเบิกทางที่ดี เรื่องนั้นไม่ได้ชมเรื่องฝีมือเพราะว่าก็ไม่ได้เล่นดีหรอกยังเด็ก ถ้าฝีมืออาจจะเป็นเรื่องนางบาปของช่อง 3 ได้รับคำชื่นชมมองว่าเป็นนักแสดงมากขึ้น ก่อนหน้านั้นจะเป็นดารา คนมองเป็นนางเอก ไม่ได้มองเป็นนักแสดง ก็มีชมแต่ว่าก็มีตินะไม่ได้ชม 100% แต่จะมีชมมากขึ้นว่าเล่นได้ เพราะว่าอาจจะไม่ได้มีแค่นางเอกน่าสงสารอย่างเดียว ที่ผ่านมาจะเล่นเป็นนางเอกน่าสงสารหลังๆ ก็จะมีเล่นหลากหลาย อย่างปี่แก้วนางหงส์ก็เล่นร้ายเขาก็จะมองเป็นนักแสดงมากขึ้น คนยุคหลังจะเห็นเอ๊ะเป็นนางเอกที่เล่นเป็นนางร้ายได้
ถ้ายุคแรกๆ เห็นเอ๊ะเป็นนางเอกอย่างเดียว ร้องไห้ก็เป็นข้อดีที่เขาจำ แต่มันอาจจะเป็นข้อจำกัดที่พอไปเปลี่ยนอะไรเขาก็จะไม่ค่อยเชื่อ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง ก็คล้ายๆ กับการที่เป็นผู้จัด แรกๆ คนก็ยังไม่เชื่อมั่นเพราะว่าก็ยังเด็กประสบการณ์ก็ยังไม่ค่อยมี ก็ต้องใช้เวลาที่ทำให้คนเชื่อมั่นมากขึ้น
ฝากอะไรในความเป็นเอ๊ะ
20 ปีแล้วที่เริ่มเล่นละคร จนถึงวันนี้ขอบคุณคนดูขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ทุกโอกาส วันนี้ขอบคุณได้เต็มที่เพราะว่าเอ๊ะได้ทำในสิ่งที่เอ๊ะคาดหวังคือการเรียนรู้รู้สึกว่าแฮปปี้แล้ว บางคนจะมีเป้าหมายที่ต่างกัน สำหรับเอ๊ะเป้าหมายคือ เป็นดอกเตอร์ก่อนอายุ 40 ปี ซึ่งเอ๊ะอายุ30 ปีกว่าเลยรู้สึกว่าสบายใจแล้ว อย่างน้อยมีความรู้สึกว่าต้องออกจากโรงเรียนเร็วเพราะเข้าวงการ ก็จะรู้สึกว่าเป็นปมอยู่ในใจว่าทำผิดไหม จนวันนี้ก็ล้างปมหมดแล้วว่าถึงจะเริ่มเล่นละครเร็วแต่ก็เรียนจบได้ แล้วตอนที่เรียนก็ไม่ได้เรียนง่ายเหมือนคนอื่น เรียนนิติตอนที่เอ๊ะเอ็นทรานซ์เข้า วิชาปี 1 เอ๊ะไปเรียนตอนปี 4 มั่วไปหมดเพราะว่าต้องทำงาน ก็เป็นปัญหา แต่ว่าวันนี้ลืมไปหมดแล้วเพราะผ่านไปแล้วก็รู้ว่าสุดท้ายทำได้ เท่านี้ก็รู้สึกว่าขอบคุณ จริงๆ ก็ขอบคุณคนดูมากนะคะ บางทีทำละครใช่ว่าจะมีแต่ชมนะคะ ด่าก็มีแต่ไม่โกรธเลย ขอบคุณที่อย่างน้อยยังดู รับฟังทุกอย่างฟีดแบ๊กทุกคนที่มีมาไม่เคยทิ้งเลยขอบคุณด้วยซ้ำที่ติ มีโอกาสทำละครให้เขาติได้ ก็โอเคแล้วหมายถึงว่าทั้งตอนที่เป็นนักแสดงและเป็นผู้จัดนะคะ ขอบคุณมาก
ปีนี้คงได้ติดตามผลงานละคร “สางนางพราย”ทางช่อง 8 ในฐานะผู้จัดคนเก่งเร็วๆ นี้กันอย่างแน่นอน
ยุทธนา นารี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี