หลังจากละคร “รักสุดใจนายฉุกเฉิน” จบลง กระแสของทีมหมอ วาฬ เจ้าของรอยยิ้ม “จระเข้” ดังเป็นพลุแตก พร้อมบทคุณพ่อป้ายแดงชื่อของหนุ่มหน้าใส “ปอนด์-พลวิชญ์ เกตุประภากร” นักแสดงสังกัดนาดาวบางกอก เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น วันนี้มีโอกาสพาเจ้าตัวล้วงลึกอีกผลงานการแสดงกำลังออนแอร์ของค่ายทีวีสาระอย่าง “Thai PBS” ในละครเรื่อง ลูกเหล็กเด็กชอบยก ประกบกับบรรดาสาวๆ BNK48 เลยขอสัมภาษณ์หนุ่มคนนี้อัพเดทผลงานกันหน่อย

เป็นอย่างไรบ้าง กับบทพระเอกเต็มตัวในละคร ‘ลูกเหล็กเด็กชอบยก’?

จะเรียกว่าพระเอกเต็มตัวก็ได้ครับสำหรับละครเรื่องลูกเหล็กเด็กชอบยก ทางไทยพีบีเอส เรื่องนี้ได้เล่นกับอร มินมิน และขมิ้น BNK48 พี่นัท-ณัชพล เป็นละครพลังบวกเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการทำตามความฝันของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ดำเนินเรื่องด้วยกีฬาหลายอย่างโดยเฉพาะกีฬายกน้ำหนัก มีความดราม่าอยู่บ้าง เพราะแต่ละตัวละครจะมีความหม่น มีปมของตัวเองแต่ก็มีความน่ารักกุ๊กกิ๊ก หลายรสชาติครับ

แสดงกับสาวๆ BNK48 บรรยากาศการทำงานเป็นอย่างไร?

แฮปปี้นะครับ ไม่ค่อยเครียด เพราะด้วยตัวบท“ตะลัน” ใกล้เคียงชีวิตจริงตัวเองเลยรู้สึกว่าไม่ยาก กับสาวๆ ทั้ง 3 คน อร มินมิน และขมิ้นก็เข้ากันได้ดี อาจเป็นเพราะอายุที่ใกล้ๆ กันด้วย แล้วผมก็เข้ากับทุกคนง่ายอยู่แล้วเลยไม่มีปัญหา ยิ่งอยู่กับพี่นัท ที่ชอบอำ ชอบแกล้งคนในกองยิ่งสนุกไปใหญ่ เหมือนเป็นครอบครัวครับ พี่ปู-ปวิตร ตรีเมฆ ก็ใจดี สรุปคือค่อนข้างชิลล์ครับ

‘ตะลัน’ ในลูกเหล็กเด็กชอบยกเน้นสดใส ต่างจากBravoที่มีความเพลย์บอยนิดๆ และ รักสุดฯ?

“Bravo” เรื่องที่แล้วคาแร็กเตอร์จะแปลกนิดๆ เพลย์บอยก็ไม่เพลย์บอย เป็นคน innocent เป็นธีมของเรื่องคือไม่เดียงสา เป็นเด็กสิงคโปร์ที่เพิ่งจบจากสิงคโปร์มาไม่เคยมีแฟน แล้วอยากเปิดโลกอยากลองผู้หญิงก็เลยมาลองที่เมืองไทย ซึ่งจริงๆ ก็คล้ายผมอีกแหละครับ เพราะผมก็เรียนจบสิงคโปร์มา เรื่องภาษาก็จะมีความคล้ายคลึงมากถ้าให้เทียบสำหรับลูกเหล็กฯเลยสดใสกว่านิดหน่อย ส่วนรักสุดฯ ก็จะอีกแบบไปเลย เป็นคุณพ่อป้ายแดง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

เรียนที่สิงคโปร์ เรียนอะไรมาคล้ายมัธยมของไทยไหม?

ผมไปเรียนตั้งแต่ ป.5 ครับ เน้นทางวิศวกรรม หลักสูตรไม่ค่อยเหมือนกัน สิงคโปร์จะต่างกับอังกฤษแล้วก็เมืองไทย ของไทยแยกสายแต่ของที่นู่นจะไม่เชิงแยก แต่สามารถเลือกวิชาได้ ถึงจะเป็นวิทย์แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนทุกอย่าง อยากเรียนฟิสิกส์ เคมี แต่ไม่อยากเรียนชีววิทยาก็ได้เลือกได้ตามที่ตัวเองสนใจตอนกลับมาเรียนเมืองไทยผมก็เรียนวิศวะอีก

ตอนนี้เรียนวิศวะ (จุฬา) ปี 4 แล้ว แต่เริ่มทำงานในวงการ 2-3 ปี ค้นพบหรือยัง ชอบอะไรมากกว่า?

จริงๆ ผมเพิ่งจบการฝึกงาน ฝึกงานไปด้วยถ่ายละครด้วยเริ่มทำงานจริงเลยรู้สึกแล้วว่าเป็นนักแสดงสนุกกว่า (หัวเราะ) เริ่มจะตอบคำถามนี้ได้เต็มปาก แล้วครับ ตอนนี้แฮปปี้กับการเป็นนักแสดงมากครับเลยอยากรับงานแสดงเป็นหลัก เพราะจริงๆ การเรียนวิศวะก็มีงานประจำรองรับแน่ๆ แต่ตอนนี้ต้องรับโอกาสการเป็นนักแสดงไว้ก่อน เผื่อในอนาคตก็กลับไปเป็นวิศวกรได้ก็เป็นสายอาชีพที่ผมรักครับ

ไปฝึกงานที่ไหนมา?เจอพี่ที่ฝึกงานแซวบ้างไหม?

ผมฝึกงานที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำเกี่ยวกับพวกการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพราะผมเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์-ไฟฟ้าจะเป็นแนวไอที เป็นพวก Project Develop ฟังก์ชั่นในแอพพลิเคชั่นประมาณว่าจะได้งานจากลูกค้าหรือว่าอยากพัฒนาบริษัท พัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ดีขึ้นยังไงพัฒนาไปเรื่อยๆ ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา ส่วนโดนแซวมั้ยก็มีบ้างครับ เพราะเขาก็รู้ว่าเป็นนักแสดง แต่ผมก็ยังไม่ได้ดังขนาดนั้น แต่ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ (หัวเราะ)

เห็นว่ามีโครงการสอนเล่นหุ้นที่ทำกับเพื่อนด้วย?

ใช่ครับ แต่คงไม่ถึงขั้นจิตอาสา เป็นการแบ่งปันความรู้มากกว่า คือบริษัทที่ฝึกงานอยากให้คิดค้นวิธีการที่จะทำให้คนเข้าถึงพวกหุ้น การตลาดหรือซื้อพวกหลักทรัพย์ได้ง่ายขึ้น ให้คนไม่คิดว่ามันอยู่ห่างไกลตัวมากเกินไป ก็เลยคิดว่าทำเหมือนเป็นการแข่งขัน มีรางวัลแจก มีการสอนอะไรแบบนี้ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ก็จบไปแล้ว สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย

แปลว่าตอนนี้ก็มีความรู้เรื่องหุ้นเพิ่มขึ้นด้วย?

ใช่ครับ ถือเป็นโอกาสเลย จริงๆ ตอนแรกผมไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลยครับ แต่พอเข้าไปเขามีสอนว่าหุ้นคืออะไร มีสอนประวัติการเงินด้วย ควรเก็บเงินอย่างไร สอนหมดเลยครับเป็น 2 เดือนที่ดีเลย

ต้องซ้อมบทด้วย ฝึกงาน เรียนแบ่งเวลายังไงถึงใช้ชีวิตสนุกและเรียนเก่งแบบปอนด์ได้?

การจัดการเวลา ระหว่างทางถ่ายละคร เลือกที่จะไม่ขับรถมา นั่งแท็กซี่แล้วใช้เวลาบนรถนั่นแหละทวนบท อ่านบทพยายามทำให้ทุกอย่างดีที่สุดทั้งการเรียนทำงาน มาทำงานเรียนต้องไม่เสีย แล้วก็ต้องแบ่งเวลาเรียนทำงานด้วยให้ได้ สำหรับผมการเรียนปริญญาตรี 4 ปีเร็วมาก อยากตักตวงช่วงเวลานี้ไว้ เวลามีน้องๆ มาถามเรื่องการแบ่งเวลาเลย มักจะบอกไปว่าอยากทำอะไรก็ทำเถอะพวกกิจกรรมอะไรแบบนี้ เข้ามาแล้วควรลองดูมันเป็นครั้งเดียวในชีวิต ผมมองว่าเรื่องการจัดการเวลามันไม่ยากเลย ถ้ามันสำคัญกับเราพอเราสามารถแบ่งเวลาให้ได้อยู่แล้ว

เรียนสิงคโปร์ ทำแอพฯก็ได้ วิศวะก็ได้ภาษาอังกฤษก็ดี ชีวิตเพอร์เฟ็กต์ เคยมีคนบอกไหมว่าเรียนเก่งแล้วมาเป็นนักแสดงทำไม มีความเห็นอย่างไร?

ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่เรียนเก่ง ไม่เก่ง เรียนเก่งอยู่ที่ใจรักนะครับ คือการทำได้ก็ส่วนหนึ่งถึงจะทำได้แต่ถ้า ไม่ได้สนุกตรงนั้น ชีวิตก็ไม่มีความสุขหรอกจริงๆ ต้องขอบคุณครอบครัวที่ให้อิสระและสนับสนุนทุกอย่าง

สมมุติมีละครเรื่องใหม่ ให้เลือกบทบาทที่อยากเล่นเอง อยากเล่นบทไหนเป็นพิเศษ?

จริงๆ ถ้าอยากเล่นก็จะเป็นพวกออกไปแนวextreme กีฬา บทหนักๆ เลย เพราะเป็นคนชอบเล่นกีฬา จริงๆ ในละครลูกเหล็กเด็กชอบยกผมเล่นเป็น “ตะลัน” นักกีฬาเทนนิส ก็มีส่วนได้เล่นกีฬาอยู่บ้าง ฝึกตีเทนนิสตลอด มันก็ Extreme แต่อยากได้แบบ Extreme แบบสุดๆ เล่นกีฬาทั้งเรื่องเลยยิ่งดี เพราะชอบกีฬามาตั้งแต่เด็ก ผมเรียนแล้วก็แข่งมาหลายอย่างทั้งปิงปอง ว่ายน้ำ แบดมินตัน เทนนิส

อยากท้าทายตัวเอง?

ใช่ครับ ผมชอบท้าทายตัวเอง แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นทางกีฬาก็ได้นะ อาจจะเป็นการแสดง รู้สึกว่าได้ทำอะไรใหม่ๆ ได้มุ่งมั่นกับมันเต็มที่ อะไรที่ต้องเตรียมตัวเยอะๆ ดำดิ่งลงไป

จะมีต้องฟิตร่างกายอะไรบ้างไหม เรื่องที่แล้วมีโชว์หุ่น ลูกเหล็กเด็กชอบยกจะมีบ้างไหม ?

จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเรื่องหุ่นครับ ดูให้สดใสสมบทบาทก็โอเคแล้ว เรื่องฟิตร่างกายมีในส่วนของการซ้อมกีฬา เพราะในเรื่องเป็นนักเทนนิส เลยซ้อมเทนนิสเหนื่อยมาก ต้องวิ่งตลอด ใช้แรงเยอะ อีกอย่างคือแดดร้อนด้วยตีกันตั้งแต่ 09.00-15.00 น. ทั้งตีในซีนแล้วก็ซ้อม ตอนนี้คล้ำขึ้น ฝ่าเท้าขาวกว่าหน้าไปแล้วครับตอนนี้ (หัวเราะ) แต่ก็แฮปปี้ครับ ถ้าเป็นเรื่องกีฬาผมจะสนุกมาก ขอแค่เป็นกีฬา เหมือนมันตอบโจทย์เลย

อยากเป็น Prince of Sport ว่างั้นเถอะ?

(หัวเราะ) ใช่ครับ แบบนั้นเลย เอาเป็นว่าคิดถึงกีฬา คิดถึงผมนนะคร้าบ

ผลตอบรับจาก รักสุดฯ ดังเปรี้ยงปร้าง?

“ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีงานแสดงให้เป็นที่รู้จักและอนาคตของตัวเองก็จะได้ต่อยอดอะไรหลายๆ อย่างด้วย”

ฝากถึงแฟนละคร ‘ลูกเหล็กเด็กชอบยก’ ที่รอดูอยู่บ้าง?

ตอนนี้ละครลูกเหล็กเด็กชอบยก ออนแอร์อยู่กำลังสนุกเลย ยังไงก็ขอฝากละครเรื่องนี้กับทุกคนด้วยนะครับทุกคนตั้งใจ อดหลับอดนอนถ่ายทำกัน บทยาวบทอารมณ์ค่อนข้างเยอะ ปอนด์และน้องๆ ตั้งใจมากอย่าพลาดชมนะครับ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และทาง FACEBOOK : Thai PBS FAN ครับ (แอบขอบอกตอนนี้กำลังสนุกเชียว)