เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญของเรียม หวนคิดผิดแล้วขมขื่น ฝืนใจเจียม เคยโลมเรียมเลียบฝั่งมาแต่หลังยังจำ คำที่ขวัญเคยพลอดเคยพร่ำ ถ้วนทุกคำยังเรียกยังร่ำเร่าร้องก้องอยู่ แว่วแว่ว แจ้วหู ว่าขวัญชู้เจ้ายังคอย
แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัยยอดมาลัย ขอพาคุณผู้อ่านไปสนทนากับ คุณสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งมีหลายบทบาทมาก คือเป็นทั้งนักแสดงนักร้อง พิธีกร และผู้อุทิศตนเพื่อสาธารณประโยชน์คุณนันทวัน เมฆใหญ่ สุวรรณปิยะศิริ เจ้าของเพลงขวัญของเรียม เสียงเพลงที่เคยสะกดผู้ฟังให้เคลิบเคลิ้มมาแล้วเมื่อเกือบ 5 ทศวรรษที่ผ่านมา และจวบจนทุกวันนี้
ขอบพระคุณคุณนันทวันเป็นอย่างสูงที่กรุณาให้โอกาสมาสัมภาษณ์ครับ ผมขออนุญาตเรียกน้าแดงนะครับ เพลงขวัญของเรียม ที่ผมเปิดนำรายการ เป็นเพลงที่ฟังเมื่อไรก็สามารถหวนระลึกถึงขวัญกับเรียมในแผลเก่าได้ทุกครั้งครับ ขออนุญาตเรียนถามว่าน้าแดงขับร้องเพลงนี้เป็นท่านแรกหรือเปล่าครับมีผู้ขับร้องมาก่อนแล้วค่ะ แต่สำหรับ version ที่เปิดนำรายการนี้ น้าแดงขับร้องบันทึกแผ่นเสียง โดยเป็นเพลงในละครร้องที่น้าแดงได้แสดงในละครเรื่องแผลเก่าตอนที่ขับร้องและบันทึกเสียงนั้นเพิ่งอายุ 18 ปีเท่านั้นเองตอนนั้นคุณน่าจะยังเด็กมาก หรือไม่ก็อาจจะยังไม่เกิดนะคะ (หัวเราะและยิ้มหวาน) เมื่อน้าแดงบันทึกเสียงเสร็จจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ก็เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ในครั้งนั้นหัวหน้าจำนง รังสิกุล ท่านให้น้าแสดงละครเรื่องแผลเก่าในโทรทัศน์ช่องสี่ บางขุนพรหมดังนั้น หากพูดถึงละครเรื่องแผลเก่าที่แสดงในโทรทัศน์ ก็ต้องถือว่าน้าแดงแสดงเป็นคนแรกค่ะ แต่ถ้าเป็นภาพยนตร์ก็มีท่านอื่นแสดง แต่จำนางเอกไม่ได้ จำได้ว่าคุณท้วม ทรนง เป็นพระเอก แต่บทนวนิยายเรื่องแผลเก่าได้ถูกนำไปแสดงเป็นละครต่างๆ นานามากมายมาตั้งแต่สมัยน้าแดงยังเป็นเด็กแล้วค่ะ
l ผมจำได้ว่าเคยมีผู้ขับร้องเพลงนี้แล้วบันทึกเสียงคือ คุณส่งศรี จันทรประภา ใช่ไหมครับ
ใช่ค่ะ คุณส่งศรี จันทรประภา บันทึกเสียงในละครของอาจวง พรานบูรพ์ ค่ะ แต่ของน้าแดงบันทึกเสียงในละครทีวี
l ทำไมน้าแดงจึงเข้าสู่วงการละครครับที่บ้านสนับสนุนไหมครับ ผมจำได้ว่าคนสมัยก่อนไม่ค่อยชอบให้ลูกหลานเล่นละคร เพราะมองว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน
ที่บ้านน้าแดงไม่คัดค้านค่ะ ครอบครัวของเราไม่คัดค้าน เพราะเมื่อน้าแดงอายุ 14-15 ปี บ้านของน้าอยู่ที่แถวๆ วัดราชาธิวาส น้าไปเรียนนาฏศิลป์ที่ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม น้านั่งรถรางไปเรียน เพราะสมัยนั้นมีรถราง เมื่อไปเรียนนาฏศิลป์ก็ต้องหัดร้องเพลงไทยเดิมหัดรำ หัดการแสดง แล้วต่อมาก็ได้ร้องเพลงในรายการเพลินเพลงกับนฤพล ดุริยพันธ์ น้าเข้าใจว่าหัวหน้าจำนงท่านคงเห็นหน่วยก้านของน้า ท่านจึงให้เล่นละครร้องเรื่องแรกคือ เครือณรงค์ ก็คือเรื่องราวของลูกของสาวเครือฟ้า แสดงคู่กับคุณนฤพล ช่วงนั้นน้าอายุ 16 ปีต่อมาเมื่ออายุ 17-18 ปี ก็ได้แสดงเรื่องแผลเก่าจากนั้นก็เดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ
l ผมจำได้ว่าสมัยก่อนเวลาแสดงละครทีวีเป็นการแสดงสด โดยเฉพาะในทีวีช่อง 4 บางขุนพรหมผู้ชมทีวีอยู่ที่บ้านจะได้ยินมีเสียงบอกบทด้วย ดูแล้วมีเสน่ห์ดีนะครับ
ค่ะ เสียงบอกบททางทีวีช่องสี่เป็นเอกลักษณ์มาก บางทีผู้ชมที่อยู่ทางบ้านรู้ว่าตัวละครจะพูดอะไรก่อนตัวละครพูดด้วยซ้ำไป น่ารักดีค่ะ มันเป็นคล้ายๆ สัญลักษณ์เลยของละครสดในยุคนั้น ซึ่งในยุคนี้ไม่มีแล้ว
l การเล่นละครในสมัยเก่า ผู้แสดงต้องเล่นสด ต้องร้อง ต้องรำด้วย แสดงว่าผู้แสดงในยุคก่อนนั้นต้องมีความสามารถรอบด้านเลยนะครับ เพราะสมัยก่อนมุมกล้องทีวีก็ไม่สามารถจะช่วยได้เหมือนเช่นทุกวันนี้ แล้วยิ่งถ้าเป็นละครที่แสดงสด ยิ่งต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวทุกอย่างเลยใช่ไหมครับ
แน่นอนค่ะ คือ ถ้าหากเราไม่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หรือไม่มีพื้นฐานการแสดงที่ดี ก็จะพลาดได้ง่าย กล้องทีวีที่ช่อง 4 ในสมัยก่อน จะมี 3-4 ตัวกล้องจะจับมุมต่างๆ ตามที่ผู้กำกับสั่ง แต่สำหรับนักแสดงต้องแสดงไปโดยไม่สนใจเรื่องกล้อง ต้องแสดงให้ดีที่สุด เป็นธรรมชาติมากที่สุด ผู้กำกับภาพจะตัดภาพที่ดีที่สุดออกไปให้ผู้ชมทางบ้านได้ชม เพราะฉะนั้นผู้แสดงต้องมั่นใจในการแสดงให้มากที่สุด แต่สมัยก่อนก็ไม่มีเวลาซ่อมก่อนการแสดงมากนัก แต่ส่วนมากผู้แสดงจะได้รับบทที่เหมาะสมและตรงกับ character ของแต่ละคนเป็นสำคัญ แต่หากบทที่ได้รับยากมากๆ ก็ต้องศึกษาบทให้ดีก่อนแสดง ต้องอ่านหนังสือให้ดีว่าตัวแสดงจะแสดงอาการ กิริยาท่าทาง และอารมณ์อย่างไร ต้องตีบทให้แตก
l สำหรับน้าแดงนั้น จะเรียกตัวเองว่าอะไรดีครับ นักร้อง นักแสดง พิธีกร สมัยก่อนไม่ค่อยเรียกนักแสดงว่าดารานะครับ แต่น้าแดงเป็นทุกอย่างทั้งนักร้อง นักแสดง พิธีกร น้าแดงทำรายการทีวีมานานมาก จนระยะหลังๆ ก็ไม่ค่อยทำรายการทีวีอีกแล้ว
จริงๆ น้าทำงานทีวีประมาณ 13 ปีก็ลาออก สมัยก่อนนั้นเรามีความรู้สึกว่า เวลาที่เราทำทีวีแล้วช่องไหนแล้ว เราก็ต้องอยู่กับช่องนั้น เราไม่ค่อยย้ายช่องกัน ยกเว้นว่าจะมีการไปแสดงที่ช่องต่างๆ บ้างเมื่อมีผู้ติดต่อไป แต่เราก็ไม่ค่อยย้ายช่องไปมา แต่น้าอาจจะมีโอกาสดีที่ได้ร่วมแสดงเรื่อง สี่แผ่นดิน ของคุณกนกวรรณ ด่านอุดม ซึ่งนำเสนอทางทีวีช่อง 5 ซึ่งตอนนั้นน้าตัดสินใจแล้วว่า เราออกไปทำงานโดยอิสระไม่สังกัดช่องดีกว่า
l สมัยก่อนน้าแดงเสนอละครทีวีหลายเรื่องมากกรุณาช่วยเล่าให้ฟังด้วยครับว่าเรื่องอะไรบ้าง
ก็แสดงหลายเรื่องอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่มากนัก เรื่องที่แสดงแล้วสร้างชื่อเสียงให้ก็เช่น ผู้ชนะสิบทิศ ขวัญของเรียมเป็นต้น ส่วนเรื่องสี่แผ่นดิน นั้นน้าแดงได้รับรางวัลเมขลา แล้วก็ยังมีอีกหลายๆ เรื่อง แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วน้าแสดงที่อยู่ช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นละครของคณะนาฏศิลป์สัมพันธ์ อ้อ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งชื่อ ขุนศึกมหาราช แต่คนส่วนมากจะเข้าใจผิดว่า ชื่อเรื่องขุนศึก จริงๆ แล้วน้าแดงไม่ได้แสดงในเรื่อง ขุนศึก แต่น้าแดงแสดงในเรื่อง ขุนศึกมหาราช
l ตอนสมัยผมเด็กๆ เวลาได้ยินเสียงน้าแดงร้องเพลงขวัญของเรียม สังเกตว่าเขาทิ้งดนตรีท้ายเพลงไว้ยาวมาก เพราะอะไรครับ แล้วสมัยนั้นน้าแดงร้องเพลงบันทึกเสียงไว้กี่เพลงครับ
จริงๆ แล้วน้าแดงร้องแค่ 2 เพลงคือ ขวัญของเรียมกับ สั่งเรียม เพลงสั่งเรียมนั้น ผู้หญิงร้องอยู่แค่นิดเดียวนอกนั้นเป็นเสียงผู้ชายร้อง ดังนั้นจึงมีเพลงอยู่ 3 เพลงเท่านั้น สมัยก่อนเพลงที่น้าแดงร้องเป็นการอัดเสียงเพื่อใช้ในละคร เพราะฉะนั้นจึงไม่มีท่อนย้อน พอร้องเต็มเพลงแล้วเขาจะปล่อยเสียงดนตรีช่วงท้ายไว้ยาวๆ เพื่อให้นักแสดงความรู้สึก เดินไปเดินมา เป็น acting ค่ะ
l ช่วงที่น้าแดงแสดงในช่วงนั้น เพื่อนร่วมรุ่นนักแสดงของน้าแดงมีท่านใดบ้างครับ คุณอารีย์ นักดนตรี ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นการแสดงไหมครับ
อุ๊ย คุณอารีย์ แก่กว่าน้าตั้ง 13 ปี คุณอารีย์รุ่นเดียวกับคุณกำธร สุวรรณปิยะศิริ ค่ะ และในรุ่นนั้นมีคุณดวงดาว อาษากิจ คุณเย็นจิตร สัมมาพันธ์ ส่วนในรุ่นน้าแดงจะมี คุณกนกวรรณ, คุณศันสนีย์, คุณศิริพรรณปาลกะวงศ์ฯ นี่รุ่นเดียวกันเลย แล้วก็จะมีเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งคือคุณสุทธิจิตร วีระเดชกำแหง
l สมัยก่อนเมื่อน้าแดงอัดเสียงเพื่อลงแผ่นเสียง เทคโนโลยีตอนนั้นไม่ดีเหมือนยุคนี้ครับ ยุคนั้นทำงานยากไหมครับ เมื่อเทียบกับยุคนี้ เวลาน้าแดงร้องเพลงอัดเสียงก็ต้องอัดไปพร้อมกับเสียงดนตรีเลยใช่ไหมครับ ถ้าผิดก็คือต้องเริ่มใหม่หมดใช่ไหมครับ
ค่ะ เมื่อก่อนนี้ก็จะอัดพร้อมดนตรี ส่วนมากดนตรีไม่ผิดหรอก มีเรานี่แหละที่ร้องผิด มีเพลงหนึ่งคือเพลง ดอกนกยูง ที่ครูล้วน ควันธรรม ให้น้าแดงร้อง ก็ร้องไปพร้อมดนตรี แล้วร้องเสร็จเรียบร้อยครูก็บอกใช้ได้แล้ว แต่น้าแดงบอกว่า เพิ่งต่อเพลงได้เดี๋ยวนี้เอง ยังไม่พอใจขออีกเทคได้ไหม ครูก็ให้ร้องอีกเทค แต่ครูล้วนก็เอาเทคแรกนั่นแหละ แสดงว่าเราอาจจะฟังแล้วไม่ไพเราะพอ แต่ครูเพลงเห็นว่าไพเราะดีแล้ว แต่ในยุคหลังเขาจะอัดดนตรีเสร็จแล้วนักดนตรีแล้วกลับบ้านได้แล้วค่อยมาใส่เสียงร้องภายหลัง เพราะฉะนั้นเวลาแก้ไข ก็แก้ที่นักร้องเอง
l เรียนถามครับว่า ในยุคนั้นคุณอากำธรเป็นหนุ่มเนื้อหอมคนหนึ่ง ที่เรียนอยู่ธรรมศาสตร์และมาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล แล้วก็เป็นนักดนตรีด้วยใช่ไหมครับ แล้วก็ยังเล่นละครอีกด้วย น้าแดงรู้จักอากำธรได้อย่างไรครับ
คุณกำธรเป็นมือกลองของวงดนตรีค่ะ ส่วนเรื่องเล่นละครนั้น ก็แสดงที่ช่อง 4 ถ้าว่ารู้จักได้อย่างไร ก็ตอบว่าน้าแดงเรียนนาฏศิลป์ที่ช่อง 4 เป็นลูกศิษย์คุณครูสัมพันธ์ พันธุ์มณี ตอนยุคนั้นคุณกำธรทำงานทีวีแล้ว ห้องที่คุณกำธรทำงานก็จะผ่านห้องของครูสัมพันธ์ เขาจะต้องเอาของไปเก็บไว้ที่ห้องครูสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นเวลาคุณกำธรเดินเข้าเดินเดินออก เรากำลังเรียนรำอยู่ ก็รู้จักกันในตอนนั้น แต่รู้จักในฐานะเราเป็นศิษย์ครูสัมพันธ์ คุณกำธรเป็นเจ้าหน้าที่ของช่อง 4เขาก็ไม่ได้สนใจเด็กๆ อย่างน้าหรอกค่ะ แต่ว่าที่จะต้องเกี่ยวพันกันก็คือ เวลาที่เรารำ เราร้อง คุณกำธรเป็นผู้กำกับเวที ตรงนี้ทำให้เรารู้จักกัน ก็รู้จักกันธรรมดา แต่เราสังเกตว่าคุณกำธรเป็นคนที่ทำงานจริงจัง ไม่มีเล่นเวลาทำงาน ทำงานจริงจังมาก เป็นคนรับผิดชอบสูงตรงต่อเวลา น้าก็มองมองอย่างเด็กนะคะว่า คุณกำธรเป็นตัวอย่างที่ดี
l คุณอากำธรจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจากธรรมศาสตร์ แต่มาเอาดีทางด้านงานอาร์ต งานดนตรี งานศิลปะ งานการแสดงคุณอากำธรเคยเล่าให้น้าแดงฟังไหมครับว่าเพราะอะไร
จริงๆ แล้วคุณกำธรไม่ได้ชอบวิชาบัญชี อยากเรียนกฎหมาย อยากเรียนรัฐศาสตร์มากกว่า แต่คุณพ่อไม่อนุญาต ก็เลยต้องไปให้เรียนบัญชี ด้วยความจำใจ(หัวเราะ)
l น้าแดงบอกว่า ร้องเพลงขวัญของเรียมเสร็จ อีกไม่นานก็ไปเรียนต่อที่อังกฤษ แล้วช่วงหลังจากนั้นเล่าครับ น้าแดงติดต่อกับคุณอากำธรบ้างไหมครับ
คือจริงๆ แล้วเรียนที่นาฏศิลป์มาหลายปี ก็ได้รู้จักคุณกำธรบ้าง ตอนไปเรียนต่อที่อังกฤษก็ติดต่อกันทางจดหมาย จริงๆ น้าแดงเขียนจดหมายถึงครูสัมพันธ์ เวลาครูสัมพันธ์ตอบจดหมายน้าแดง คุณกำธรก็จะขอเขียนต่อท้ายจดหมายด้วย สมัยนั้นติดต่อข้ามประเทศด้วยจดหมายเท่านั้น เราจึงเรียกว่าเราสนิทสนมกันด้วยจดหมาย แบบรักข้ามขอบฟ้าค่ะ แต่สำหรับคนมีฐานะดีๆเขาก็ใช้โทรศัพท์คุยกัน แต่เราใช้จดหมายคุยกัน เพราะโทรศัพท์ยุคนั้นคุยกันแต่ละครั้งก็แพงมากๆ ค่ะ
l น้าแดงได้แสดงละครคู่กับคุณอากำธรหลายเรื่องไหมครับ
หลังจากแสดงเรื่องแผลเก่าแล้ว ก็มีอีกหลายเรื่อง แล้วเมื่อกลับมาจากเมืองนอก ก็ได้แสดงด้วยกันอีกหลายเรื่องค่ะ
l คุณอากำธรก็ร้องเพลงด้วยใช่ไหมครับ
ใช่ค่ะ ร้องค่ะ
l จริงๆ คุณอากำธรร้องหลายเพลงเลยนะครับ แต่ว่าเพลงที่ผมคุ้นหูคือ เคียงเรียม จริงๆมีอีกหลายเพลงเลยผมอาจจะจำชื่อไม่ได้หมดรำพึงรัก อะไรประมาณนั้น
ใช่ค่ะเพลง รำพึงรัก ด้วยค่ะ
l ปัจจุบันน้าแดงไม่จัดคอนเสิร์ตหรือครับ ผมจำได้ว่าน้าแดงเคยจัดมาตลอด
ก็ยังจัดอยู่บ้างแต่ไม่บ่อยค่ะ น้าเคยจัดรายการที่นี่มีดาวประดับใจ แต่ระยะหลังขายบัตรยากลำบากมากหาสปอนเซอร์ยาก แต่น้าแดงยังมีฟรีคอนเสิร์ต จัดเดือนเว้นเดือนที่บองมาเช่ ใกล้กับวัดเสมียนนารี เวทีอยู่ริมบึงน้ำเชิญไปชมได้ ส่วนทุกช่วงปลายปีทุกปี น้าแดงจะจัดงานส่งท้ายปีเก่าให้ธนาคารกรุงเทพ ที่สถาบันคึกฤทธิ์ เป็นฟรีคอนเสิร์ต เราจัดเพลงให้คนฟังสบายๆ เราไม่เน้นเรื่องธุรกิจ ไม่เน้นขายบัตร แต่ถ้าน้าแดงมีคนขายบัตรให้มีผู้จัดการให้ น้าแดงอาจจะจัดคอนเสิร์ตได้บ่อยขึ้น แต่ทำคนเดียวไม่ไหว น้าแดงจัดรายการเพลงมาตั้งแต่ปี 2539 แล้ว แต่ก็เลิกไปเมื่อประมาณสัก 3 ปีมานี้สมัยก่อนจัดทุกๆ 3 เดือน แต่ระยะหลักขายบัตรยากมากเราไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ ขายบัตรอย่างเดียวก็ไม่คุ้มการลงทุน แต่ถ้าขายบัตรเก่งๆ ก็อาจจะจัดรายการได้ แต่เดี๋ยวนี้เขาจัดคอนเสิร์ตแบบเชิญแขกกิตติมศักดิ์ไปร้องเพลง เพื่อให้ช่วยสนับสนุนงบการจัดงาน แบบนั้นก็พอจะอยู่ได้
l เวลาผมคุยกับผู้ใหญ่หลายคนหรือว่าคนที่เป็นคอเพลง เขาบอกเขาอยากจะฟังเพลงจากนักร้องจริงๆ ไม่ชอบฟังพวกกิตติมศักดิ์ อย่างช่นเขาอยากจะฟังคุณนันทวัน เขาก็อยากให้คุณนันทวันร้องคนเดียวเท่านั้น น้าแดงมีความเห็นอย่างไรครับ คนฟังที่เป็นคอเพลงจริงๆ บอกว่า ขอแค่ชั่วโมงครึ่งแล้วทุกอย่างจบพอแล้ว เขาบอกว่าบางทีมีกิตติมศักดิ์มาเยอะๆ เขาเรียกเวิ่นเว้อ เยิ่นเย้อครับ เขาบอกว่ามันยาวมาก
จัดคอนเสิร์ตบ้านเรา ต้องจัดยาว เพราะหากจัดสั้นๆ คนฟังอาจจะบอกว่าไม่คุ้มค่าบัตร ดังนั้นจึงต้องจัดด้วยเวลายาวๆ หลายชั่วโมง ร้องกัน 50-60 เพลงนะคะ ยิ่งคนร้องมากก็ยิ่งต้องใช้เวลานานไปด้วย
l น้าแดงบอกว่านักร้องกิตติมศักดิ์เขาจะบริจาค แต่บางทีคนฟังก็รู้สึกอึดอัด อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะครับ อันนี้ฝากไว้นะครับคุณผู้ชมผู้ฟัง ใครที่อยากจะชมคอนเสิร์ตน้าแดงแบบจุใจบอกมาที่รายการแนวหน้าวาไรตี้นะครับ ผมจะเรียนให้น้าแดงทราบ เพื่อจะได้ดูนันทวันโชว์อย่างจุใจเต็มอิ่ม
แต่คนดูก็อาจจะผิดหวังได้ เพราะน้าแดงจำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้แล้ว (หัวเราะ)
l แต่เดี๋ยวนี้มีจอทีวีโตๆ ให้นักร้องเห็นเนื้อเพลงนะครับ
มีค่ะ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะสมัยที่เราร้องเพลงที่ช่อง 4 เขาจะมีกระดาน ยกกระดานให้เราดู เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องจำเนื้อเพลง เพราะเราไม่ใช่นักร้องอาชีพ แต่ว่าคนดูทีวีสมัยก่อนอาจไม่รู้ว่าเราดูเนื้อเพลง เพราะเราเป็นนักแสดง เราไม่ใช่นักร้อง จึงจำเนื้อเพลงไม่เก่ง จุดด้อยของน้าแดงคือจำเนื้อเพลงไม่ค่อยเก่ง
l ทราบมาว่า ตอนนี้ที่บ้านน้าแดงมีของอร่อยๆ ให้ทานด้วย กรุณาเล่าให้ฟังด้วยครับมีอะไรอร่อยบ้างครับ
อ๋อ มีกล้วยทอด มันทอด ข้าวเม่าทอด แต่จริงๆน้าแดงไม่ได้ทำเองนะ คนทำอร่อยอยู่ในบ้านของน้าแดงแต่สมัยก่อนน้าแดงทำร้านเล็กๆ เพื่อขายชูร์โรส ชูร์โรสคือปาท่องโก๋สเปนค่ะ ทีนี้พ่อบ้านแม่บ้านเขามาช่วยเราขายแต่ปรากฏว่าพ่อบ้านแม่บ้านของเราเขามีกล้วยทอดสูตรพิเศษจากสุโขทัย อร่อยมาก เขาขออนุญาตขายในร้านของเรา น้าแดงก็อนุญาต แรกๆ เขาขายๆ หยุดๆ น้าแดงบอกว่าหากจะขายต้องขายจริงๆ จังๆ ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะตำหนิเราได้ สุดท้ายก็ขายเป็นเรื่องเป็นราว ขายดิบขายดี คนกินชื่นชมว่าอร่อยมากของอร่อย ก็มีกล้วยทอด เผือกทอด มันทอด ข้าวเม่าทอดร้านเราอยู่ในบ้าน อยู่ติดกับร้านส้มตำคุณกัญจน์ซอยสุขุมวิท 101/1 แต่เราขายเป็นเวลา คือศุกร์เสาร์ อาทิตย์ ส่วนชูร์โรสขายเวลา 16.00-20.00 น. ค่ะคือมีให้ทานทั้งชูร์โรส และกล้วยทอด มันทอด ข้าวเม่าทอด
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการ แนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTubeผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี