วันเสาร์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง

'อ่ำ อัมรินทร์'เปิดบทเรียนชีวิต! หลังมรสุมป่วยหนักถึงขั้นนอนติดเตียง

วันจันทร์ ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563, 19.12 น.
Tag : อ่ำ อัมรินทร์ มรสุมป่วยหนัก ขั้นนอนติดเตียง
  •  

เคยป่วยหนักถึงขั้นนอนติดเตียงกันเลยทีเดียว สำหรับ หนุ่ม อ่ำ อัมรินทร์ ที่ก่อนหน้าเจ้าตัวป่วยจนแทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย แต่สุดท้ายหนุ่มอ่ำก็ฝ่าวิกฤตโรครุมเร้ามาได้

ล่าสุด อ่ำ อัมรินทร์ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ชมพู่ ก่อนบ่าย และอาจารย์เป็นหนึ่ง

พี่อ่ำเคยป่วย ถึงขั้นนอนติดเตียง?


อ่ำ : มันเป็นเรื่องของกรรม กรรมเกิดจากการกระทำของตัวเองเมื่อไหร่ไม่รู้ แล้วก็เป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ที่ได้รับมา ถ่ายทอดจากครอบครัวมา ก็คือเป็นโรคที่สืบสายเลือดมาจากคุณพ่อ ซวึ่งเป็นโรคเก๊าท์ เมื่อปี 57 ตอนปลายๆ มีอาการป่วย แต่ตอนนั้นแข็งแรงมาก เป็นนักกีฬาอาชีพ เล่นกอล์ฟอาชีพ แขนใหญ่ ตัวใหญ่ เฟิร์มมาก แต่มีอาการเจ็บจากข้อมือด้านซ้ายก่อน เราก็คิดว่าสงสัยจะซ้อมกอล์ฟบ่อย เราก็คิดว่าเกิดจากอาการบาดเจ็บจากการซ้อม เราก็หยุดพักไป แต่มันย้ายมาทางด้านขวา ตอนนี้เป็นทั้งสองมือแล้ว แล้วก็ลงมาที่เข่า ลงไปที่เท้า คือสงสัยเป็นเรื่องของการชดใช้กรรมของเราเอง

แล้วพี่ไม่ไปหาหมอ?

อ่ำ : ไม่ไป เป็นคนดื้อด้านมาก การพบแพทย์เป็นการที่เหมือนจะไปฆ่าตัวตายยังไงก็ไม่รู้ ถ้าไม่หายใจไม่ออกจนจะตายก็ไม่ต้องไปหาโรงหมอ กลัวหมอว่าจะไปตรวจเจออะไรมากกว่านั้นอีก

ทุกวันนี้อาการเป็นยังไงบ้าง?

อ่ำ : มันดีขึ้นหลังจากนั้น แต่ก็จะเล่าถึงกรรมของตัวเองที่อยู่ในช่วงการชดใช้ ผมเชื่อว่าเป็นการชดใช้กรรมของผม

ทำไมถึงคิดว่าเป็นกรรม?

อ่ำ : ผมพยายามคิด พิจารณาอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนที่มันป่วยๆ เราเป็นชาวพุทธ เรารู้สึกเรื่องของเวรกรรมที่เราทำกับใครเป็นหลักเลย แต่ที่เราป่วยคือเราไปตบใคร เราไปเตะใคร เราถึงเดินไม่ได้ แล้วเราไปทำอะไรกับสัตว์ตัวไหน ก็ผ่านไปด้วยความไม่รู้ แล้วก็อยู่กับตรงนั้น จนที่สุดของความเจ็บปวด ตื่นขึ้นมากับความเจ็บปวด แล้วก็นอนหลับไปกับความเจ็บปวดที่มันทำให้เราเพลีย ปวด หลับไปเลย

แล้วตอนนั้นหนักแค่ไหน?

อ่ำ : อาการมันหนักมากถึงขั้นทำอะไรลำบากมาก แม้กระทั่งจะเดิน เวลาเข้าห้องน้ำ ถ้าไปไม่ทันก็หยดมันตรงนั้น

ได้ข่าวว่าถ้าพี่อุจจาระหนักพี่ไม่สามารถนั่งได้?

อ่ำ : ช่วงนั้นผมไม่อยากไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน แต่ถ้าไปก้ต้องทำใจเลย ถ้าเข้าห้องน้ำปั๊มก็ต้องเข้าห้องน้ำคนพิการ แต่จังหวะไหนที่ไม่มีห้องน้ำ เคยครั้งหนึ่งกลับจากบุรีรัมย์แล้วกินมะขาม ปวดจนทนไม่ไหว บอกให้จอดรถก่อนขอเดินลงไปข้างทางมอเตอร์เวย์ ตอนนั้นมืดแล้ว คือไม่สามารถนั่งยองไปได้ เพราะมันปวดมาก ไม่มีโอกาสได้นั่งยอง

แต่พี่เป็นนักกีฬา ทำไมถึงยังป่วยได้?

อ่ำ : ใช่ครับ มันป่วยได้ เพราะการใช้ชีวิต ในการที่ออกกำลังกาย ดูเป็นนักกีฬาระดับอาชีพ ช่วงนั้นเป็นการใช้ชีวิตที่เละมาก ดื่ม กิน พักผ่อนน้อย

แต่ช่วงนั้นก็มีเรื่องอื่นอีก เห็นว่าเป็นโรคซึมเศร้า?

อ่ำ : ช่วงนั้นมันก็มีช่วงชีวิต พอร่างกายมันทำอะไรไม่ได้ จากคนที่ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง พอมันทำอะไรไม่ได้อยู่เฉยๆ มันก็คิดมากเหมือนกัน เห้ย...มันเป็นอะไร มันต้องอยู่อย่างนี้ จะต้องอยู่ยังไง แล้วก็ยังไม่ไปหาหมอ จะตายก็ตายไปเลย

แล้วตอนนี้หายหรือยัง?

อ่ำ : หายแล้วครับ คือตอนที่หาย ตอนที่เป็นโรคเก๊าท์นี่ก็คือ ไม่ไหวแล้วไปหาหมอ สุดท้ายไป เพราะคุณแม่ทำบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย อาการมันขนาดนั้น แล้วไปทำพิธีกรรม คือเราไม่เชื่อ คือกรรมต้องชดใช้กรรม แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะแก้ได้หรือไม่ได้ แต่ถ้าทำแล้วให้แม่สบายใจก็ไปทำ แต่หลังจากนั้นก็ดีขึ้นด้วยการที่ไปหาหมอเถอะ แต่พอรักษาโรคเก๊าท์ด้วยการละพวกแสลงทั้งหลายมันก็ดีขึ้นๆ พอที่จะดำเนินชีวิตได้ปกติ ตอนนั้นมันก็หลายอย่าง โรคเก๊าท์รักษาได้ เราก็มานั่งดูว่าเกิดจากอะไร เกิดจากการที่เราพักผ่อนผิดวิธี แต่ก่อนกว่าจะนอนได้มันต้องเปิดทีวี ต้องมีเสียงทีวีกล่อมจนเคลิ้มบางทีก็หลับไปเลย แล้วก่อนตื่นมาอาจจะถูกใครไล่ยิง ไล่ฆ่าอยู่ในฝัน พอมันไม่หลับเลยก็ต้องเพิ่งยา

ช่วงนั้นครอบครัวให้กำลังใจยังไง?

อ่ำ : เราไปทำความทุกข์ให้เขาไว้มาก ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และคนรอบข้าง เขาก็ห่วงเรา เราก็จะทำยังไงให้เขาหายห่วงก็ต้องดูแลตัวเอง ผมก็คิดว่าการที่ทำให้เขาเป็นห่วง ทำให้เขากลุ้ม คิดมากเป็นบาปเราอีก จะต้องทำยังไงไม่ให้บาป ตอนนั้นกลัวเรื่องบาป เรื่องอะไรมาก กลัวเรื่องกฎแห่งกรรมมากเลย ก็เลยเริ่มทำตัวดีขึ้นมา จนรอบข้างรู้สึกดี แล้วหลังจากไปบวชมาก็ถือศีล5 ทุกคนก็ยินดีกับเรามาก ได้บวชก็ดีใจแล้ว ทุกคนสุขใจจนใช้ชีวิตปกติ

แล้วแข็งแรงจนไปวิ่งกับพี่ตูนมา คือเมื่อไหร่?

อ่ำ : ก็คือเริ่มจากสึกพระออกมาก่อน เราก็ตั้งเป้าว่าเราจะต้องกลับมาก่อนหลังจากที่เหมือนจะติดเตียงเราจะกลับมายังไง เราจะตายไปเลยไหม ไม่เอาอ่ะ พ่อแม่เราอยู่ เรายังมีความรักอะไรดีๆ อยู่บนโลกใบนี้อีกเยอะ เราจะปล่อยอย่างนี้ได้ไง กลับมามีวินัย ต้องดูแลตัวเอง อะไรที่ไม่ดี ไม่ทำ เสร็จแล้วพอไปบวชสึกออกมาก็ทราบข่าวพี่ตูนวิ่งจากเบตงไปแม่สาย เราก็โอ้โห...เราติดตามผลงานของพี่ตูน ชื่นชม ชื่นชอบ แบบโอ้โห...น้องคนนี้มันบ้าเลือด คนบ้าอะไรจะไปวิ่งขนาดนั้น แต่ก็เอาใจช่วย แล้วก็มีความคิดว่าเดี๋ยววิ่งจากเบตงต้องผ่านกรุงเทพฯ อยากไปวิ่งกับพี่ตูน ช่วงกรุงเทพฯ ไปต่อท้ายแถวไปวิ่งร่วมขบวนกับเขา ก็เลยเริ่มวิ่งครั้งแรก 1 กิโลที่สวนหลวง ร.9 แต่ตอนนั้นร่างกายดีขึ้นมาก กิโลแรกมันก็จะยากด้วย แต่ก็พยายามต่อไป

ตอนนี้น้องแอลลี่อยู่ไหน?

อ่ำ : อยู่เกาหลี ตอนนี้ไปเป็นศิลปินค่าย โฟร์ วัน วัน เอ็ยเตอร์เม้นท์ ของคุณกึ้ง เฉลิมชัย ซึ่งก็น่าจะมีผลงานเร็วๆ นี้ มันเป็นความบังเอิญที่แอลลี่ชอบศิลปะ ศิลปิน ชอบทำเพลง ชอบดูศิลปินเกาหลี วันที่ศิลปินเกาหลีมาเมืองไทยที่คุณกึ้งนำเข้ามาก็ไปเจอกัน ก็เห็นหลานมีความสามารถก็ลองถามดู ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของแอลลี่ แอลลี่ก็เลยถามคุณพ่อ คุณแม่ แล้วเราก็สนับสนุนให้เธอไป

น้องแอลลี่เก่งแล้วสวยด้วย แบบนี้คุณพ่อเป็นห่วงลูกขนาดไหน?

อ่ำ : พูดจริงๆ ไม่ได้ห่วง เอาจริงๆ เราเข้าใจชีวิตของคนที่เกิดมาจะต้องเข้าใจในขั้นตอนการเจริญเติบโตเป็นขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งวัยนี้เขาอาจจะมีเพื่อน มีคนที่สนิท อยู่ในวัยของเขาก็เหมือนเราตอนอายุ 15 ไม่อยากจะพูดอะไรมาก แทบไม่ได้เห็นพ่อ แม่ จะอยู่แต่กับเพื่อน แต่ถ้ามีหนุ่มมาจีบก็ต้องดูว่าหนุ่มคนนั้นเป็นใคร

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สายรักสายเลือด’ ละครอันดับหนึ่ง สร้างความปังไม่หยุด ‘สายรักสายเลือด’ ละครอันดับหนึ่ง สร้างความปังไม่หยุด
  • ทุกอย่างพัง!! ‘อ่ำ อัมรินทร์’ เผยจุดต่ำสุดของชีวิต หลงระเริง เกือบตาย ทุกอย่างพัง!! ‘อ่ำ อัมรินทร์’ เผยจุดต่ำสุดของชีวิต หลงระเริง เกือบตาย
  • ‘สายรักสายเลือด’ ไม่แผ่ว!! ส่ง ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ – สมิธ ภาสวิชญ์’ เพิ่มดีกรีความเดือด ‘สายรักสายเลือด’ ไม่แผ่ว!! ส่ง ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ – สมิธ ภาสวิชญ์’ เพิ่มดีกรีความเดือด
  •  

Breaking News

ระยองฝนตกหนัก! ‘น้ำมาไม่ทันตั้งตัว’ คาดจะระบายได้หมดภายใน3-4ชม.

'รอง ผบ.กจต.'สั่งนาวิกโยธินตราดเตรียมรับมือสถานการณ์ชายแดน ปชช.ต้องปลอดภัย

'หมอวรงค์' จับไต๋ '2ตระกูลฮุนชิน' วางแผนเล่นเกมการเมือง กระทบปม 'แพทยสภา-ศาลฯ’

'อ.เจษฎ์'ลั่นไล่นายกฯก่อนเขมรดีหรือไม่? ถ้ารักษาอธิปไตยไม่ได้ เชื่อทหารไม่อยากให้เกิดสงคราม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved