ธงชัย วรรณเผือก ถ้าเอ่ยชื่อหลายคนอาจจะสงสัยว่าชื่อใคร แต่ถ้าบอก ธัญญ์ ธนากร ชื่อที่ใช้ในวงการบันเทิง และคือพระเอกชื่อดังคนหนึ่งในยุค 90 และสามีสุดเลิฟของ “ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ที่กำลังมุ่งทั้งงานในฐานะผู้จัด “ค่ายสตาร์เฟรม” กับละคร “หนี้เกียรติยศ”ทางช่อง 7 สี วันนี้ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “หนุ่มธัญญ์” เลยล้วงลึกถึงชีวิตในวงการบันเทิง จุดเปลี่ยนในชีวิต ความรัก และการวางแพลนชีวิตว่ากำลังจะมีลูก มาฝากกัน
ชีวิตในวงการตอนนี้?
“แฮปปี้นะครับ ผมเข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 ถือว่าผ่านอะไรมาเยอะและก็ยังยืนได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ก็ต้องขอบคุณความพยายามของตัวเองความตั้งใจที่ไม่เคยหายไปยังมีความแน่วแน่อยู่ ตอนนี้ก็มีทั้งการทำเบื้องหลังแล้วก็เบื้องหน้า
ช่วงหนึ่งในสมัยยุควัยรุ่น?
“สมัยก่อนอาจมีความติสท์แตกผมก็มี เมื่อก่อนอาจไม่ได้คิดว่างานต้องเยอะ คิดอยากทำงานเพราะว่าอยากทำ เมื่อก่อนผมเล่นหนังปีละ 1 เรื่อง อยากทำก็
จะหายไปอยู่กับหนังปีละเรื่อง ไม่ได้คิดว่าต้องมีงานเยอะ ไม่ได้คิดถึงอนาคตเลย คืออยากทำอะไรที่สบายใจ”
จุดที่เริ่มเปลี่ยนจากตรงไหน?
“พอเริ่มโตภาวะที่เป็นผู้นำเกิด มีค่าใช้จ่ายเพิ่มไปตามตัวอายุก็มีความคิดที่เปลี่ยน ต้องเก็บบ้างก็ต้องทำงานให้เต็มที่ เมื่อก่อนอาจจะมีความรู้สึกแบบโอ้ยเหนื่อยไม่อยากเล่นเล่นเรื่องนี้พอแล้วเล่นแต่หนังละครไม่รับ สมัยก่อนจะอินกับการเล่นภาพยนตร์ไปอยู่ป่าเวิร์กช็อป 3-4 เดือน เป็นตัวละครนั้น แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้นะ
ต้องแบ่งเวลาทำงานได้หลายๆ แนว?
โชคดีที่มีทุกวันนี้ได้เพราะตั้งใจทำงานไม่ว่าบทที่ได้เล่นอยากจะเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่ว่าเดินมาแค่เข้าฉากแล้วผ่านรับเงินกลับบ้าน ไม่ชอบแบบนั้น ชอบที่ต้องทำให้ได้เต็มที่เป็นตัวละครตัวนั้นจะเปลี่ยนตัวเอง ให้ไปเป็นตามบทที่ได้รับ
จุดที่เริ่มสนุกกับงานมาจากตอนไหน?
“จากภาพยนตร์เรื่องตะลุมพุก เรื่องนั้นอาบน้ำทะเลอยู่ 3 เดือน เพื่อจะเป็นคนใต้ให้ได้ ใช้น้ำทะเลมาอาบเพื่อไม่ให้ขาว เพื่อให้ผิวเป็นสีแทนดำเป็นเด็กเรือไม่ว่าจะเป็นอะไรผมเต็มที่ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นละครอย่าง เชิง ชาย ชาญ ที่ทำเองไม่ว่าจะเป็นแอ๊กชั่นก็เต็มที่คือทำในสิ่งที่อยากทำ เต็มที่จริงๆ ผมว่าผมก็สุดนะซึ่งคนดูก็เห็น แล้วที่ผมทำได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะความตั้งใจที่อยากจะทำออกมาให้ดีที่สุดก่อน ส่วนแค่ไหนแล้วแต่คนดูละครับ ด้วยความที่บู๊ได้เลยกล้าที่จะทำ จะไม่บอกว่าทำไมคนนี้ไม่เล่นแบบนี้ ภาวะแต่ละคนมันแตกต่างกัน”
จากภาพยนตร์เรื่องแรกมาจนถึงปัจจุบันโตขึ้น?
“สมัยหนึ่งจะเล่นแต่ดราม่า เพิ่งเล่นแอ๊กชั่นหลังๆ นี่เองครับ พอมาช่อง 7 ก็เล่นแอ๊กชั่นจริงๆ ไม่ได้เปลี่ยนหรอก แต่คือผมเล่นได้ทุกบท เวลาจะเป็นบทพิสูจน์ พอแอ๊กชั่นมา จังหวะที่ทางละครมีน้อยคนที่จะเล่นแอ๊กชั่นได้มากกว่า แล้วดันทำได้เป็นสิ่งที่ฝึกฝนมาอย่างตีลังกา ผมฝึกตีลังกาทุกวันก็เลยตีได้ ผมว่าทุกคนเท่ากันหมดนะอยู่ที่จะพยายามทำหรือเปล่า จะตั้งใจจริงๆ มั้ย ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้เหมือนกัน
ตอนนี้ให้รุ่นใหม่บู๊กันไป ผมก็อิสระด้วย ทางช่องก็ให้โอกาสมาทำเบื้องหลังที่ช่องเป็นผู้จัด ส่วนงานเบื้องหน้าผมก็เปิดรับมากขึ้น ช่องไหนให้โอกาสคือการแสดง เพราะยังทำได้อยู่ ถ้าวันไหนไม่ไหวจะรู้ตัวนะแต่แค่เสียดายว่าอยากจะทำอยากจะเล่นเป็นคนที่กลัวเสียเวลากับชีวิตมาก ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ขนาดนี้ได้ทำอะไรมากมายก็อยากจะใช้ประโยชน์ให้มาก
นึกย้อนไปคิดไหมว่าเราจะมาถึงทุกวันนี้?
“คิดตั้งแต่เล่นภาพยนตร์เรื่องแรก วัยระเริง เล่นเป็นตัวประกอบ ช่วยตีเสลดไปอยู่พร็อพทำเบื้องหลังปลูกฝังตัวเองมาตลอดว่าอยากทำ อย่างละครเรื่องโก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ ตัวคิงคองผมก็ทำเองกับมือ เป็นหุ่นยนต์บังคับมือผมก็ทำเอง ไม่มีใครรู้หรอกว่านั่งทำเอง ทำอยู่บ้านเจาะสว่านทะลุขา กล้าพูดได้เลยว่าผมทำกับมือเลยถึงได้บอกว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะอาชีพไหน บทบาทไหนถ้าตั้งใจทำผมว่าทุกคนมีเท่ากันหมดละครับ”
ประสบการณ์ที่สะสมมา?
“ปีนี้อายุ 39 แล้ว ก็เกือบ 23 ปีที่ทำงานตรงนี้ตั้งแต่อายุ 17 เห็นวัฏจักรมามากมายจะยืนอยู่ยังไงในที่เข้าใจแล้วยังทำงานที่รักอยู่ได้ ตอนนี้ยังเป็นเบื้องหน้าได้ต้องดูแลตัวเองก่อน ทำไมทุกคนต้องคิดว่าดาราพออายุมากแล้วต้องไปเล่นบทนู้นบทนี้ เริ่มลงไปหมดผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วถ้าดูแลตัวเองก็ยังอยู่ได้ ยังยืนอยู่ในจุดที่ทำงานได้อยู่”
แพลนที่จะมีลูกหรือยัง?
“ตั้งใจไว้ว่าปีนี้ คือก็รอให้งานลงตัว แต่ก็ไม่คาดหวังนะว่าจะต้องเป็นเดือนนี้วันนี้ ผมเชื่อเรื่องพรหมลิขิต เชื่อเรื่องความจะเป็น ถ้าจะเกิดมาเป็นลูกผมวันหนึ่งก็ต้องมา ให้พยายามให้ตายแค่ไหนถ้าไม่มาก็ไม่มาจะคิดแบบนี้ก็ได้”
ย้อนวันวานกับยุ้ย?
“เจอที่กองละครเรื่องปอบผีฟ้า แต่ไม่ได้เล่นคู่กันนะ แค่เจอกันในฉากตลอด เพราะว่าเค้าเล่นเป็นเจ้านาง ผมเป็นเหมือนองครักษ์ เป็นเรื่องแรกของผมกับช่อง 7 ด้วยความที่ผมเล่นมาทุกช่อง ใครจะเชื่อก็ด้วยความที่อยู่ในวงการมานานคือเป็นมือปืนรับจ้างไปเรื่อยใคร กับยุ้ยวันนั้นไม่ได้สะดุดตาอะไรนะ แต่รู้สึกตื่นเต้นที่เจอเค้ามากกว่า เขาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทเจ้าแม่ดราม่ากลัวว่าจะทำให้เขาเสียเวลามั้ย”
แล้วกล้าตอนไหน?
“เริ่มจากความเป็นเพื่อนกัน ด้วยความที่ไม่ได้แอ๊บไม่ได้ปรุงแต่งอะไร คนเราเจอกันจะจีบกันก็ต้องปรุงแต่งก่อน คือก็ต้องเอาแง่มุมที่ดีที่สุดออกมา อย่างผมเองก็คงจะต้องหาแง่มุมที่ดีที่สุดของตัวเองมาพรีเซ็นต์ให้เขารู้สึกชอบผมให้ได้ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันเห็นแง่มุมอะไรผมทุกอย่างอยู่แล้วว่าเป็นคนแบบไหน”
หลังจากละคร เรื่องป่านางเสือ ตอนนั้นเขามีแฟนอยู่แล้ว มองเขาด้วยความปลื้มมากกว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีนะดูอ่อนโยน ใครอยู่ใกล้ผมว่าก็หลงรักเขาแหละ ก็คิดแค่นั้นผู้ชาย ผมเจอคนเยอะแยะเหมือนดอกไม้ เดินไปที่ทุ่งดอกไม้ดอกทิวลิปสวย ทุกดอกสวยหมดอยู่ที่จะไปเด็ดมันหรือเปล่า คือแค่ชื่นชมว่าดอกไม้นี้มันสวยนะมากกว่าจนมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ
เตรียมความพร้อมอย่างไร?
ยุ้ยอยากได้ลูกแฝด ประมาณชายหญิงเพราะด้วยความที่ตกลงกันไม่ลงตัว ผมอยากได้ลูกชายเขาอยากได้ผู้หญิง ซึ่งสุดท้ายจับสลากกันไม่ได้หรอก (หัวเราะ) ถ้าเกิดทำด้วยธรรมชาติก็แล้วแต่เขาจะเกิด คือก็รักหมดแหละครับ ที่ผมอยากมีได้ลูกผู้ชายเพราะว่าผมเป็นคนทะโมนไง ก็อยากจะได้แค่ 2 คน ยุ้ยเขาอยากท้องทีเดียว แต่ทุกอย่างผมว่ามันคือโอกาสและจังหวะมากกว่า
ซื้อบ้านที่ต่างจังหวัดแพลนเตรียมไว้?
“มีความสุขมากเลยครับ เพราะที่นู่นเปิดร้านอาหาร ชื่อบ้านฟ้าชิดตะวัน แล้วก็ปลูกบ้านเรียบร้อย ตอนนี้ชีวิตแทบจะอยู่นู่นเลยเพราะชอบบรรยากาศชอบมีที่กว้างๆ ปลูกต้นไม้ จากเมื่อก่อนเป็นคนไม่ปลูกต้นไม้ แต่ตอนนี้เป็นคนชอบต้นไม้อยู่กับบ่อปลา ใจเย็นลงด้วย เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อนมาก ใครบอกมาร้อยกลับคืนไปร้อยห้าสิบ เพราะผมเป็นคนที่ตรงไปตรงมาไม่ได้เสแสร้งไม่ได้เก็บอารมณ์ จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกหรอกทุกวันนี้ก็วางแพลนชีวิตเป็นนักแสดงอิสระ แต่ว่าฐานะผู้จัดก็คือทำละครให้กับช่อง 7 ยาวๆ กันไป”
ยุทธนา นารี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี