น้อยคนที่จะรู้ว่าคู่รักนักร้อง ปิงปอง-ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ และ นักร้องบ้าน AF พัดชา เอนกอายุวัฒน์ คบหาดูใจกันย่างเข้าสู่ปีที่ 6 และฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาชีวิตต่างๆ ด้วยกันมามากมาย วันนี้ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” เลยถือโอกาสคว้าตัวทั้งคู่มาเล่าถึงเส้นทางชีวิตที่ต้องเลือก และพูดถึงข่าวดีที่อาจจะมีให้ลุ้นกันเร็วๆ นี้

สารพัดปัญหาชีวิตรุมเร้า?

พัดชา : พัดคิดว่ามันสารพัด พัดเข้าใจโลกความเป็นจริงว่า เงินสำคัญ คือ ทำอาชีพไหนก็ต้องหาเลี้ยงชีพ แต่พอเพิ่มข้อแม้ว่าอยากจะร้องเพลงเพื่อหาเงิน 2.จะมาบอกต้องมีชื่อเสียงเพื่อให้มีงาน มีเงิน ทุกอย่างมันสำคัญ สัมพันธ์ กันหมดไม่รู้ว่าต้องแก้ปมตรงไหนก่อนดี

ตอนนั้นจะเลิกร้องเพลง?

พัดชา : เกือบ .. อยู่เหมือนกัน เพราะพัดเรียนจบดนตรีด้วย ความมั่นใจมันจะน้อยมากที่แบบ อ้าว ทำงานตรงสาย แล้วไปเริ่มงานสายอื่นตอนอายุ 30 ปีกว่าๆ แล้ว จะเอาอะไรไปรับรองว่าฉันทำสิ่งนี้ให้ได้ ก็จะยาก เลยเครียด บางทีก็รู้สึกว่าเลิกร้องเพลงเอาเวลาไปเรียนก่อน เพิ่มความรู้ให้ตัวเอง แล้วค่อยไปสมัครงานคือมีความสวนทางกันอยู่

มีปรึกษาหมอไหม?

พัดชา : สรุปว่ายังไม่ต้องถึงขั้นตอนที่ต้องหาหมอ เพราะกู้ตัวเองขึ้นมาโชคดีมีแฟนเป็นพี่ปิงใครมานั่งดูเรากินข้าวแล้วนั่งร้องไห้ไปด้วยเป็นอาทิตย์ๆ ส่วนใหญ่นั่งทานข้าวมื้อเย็นด้วยกันประจำ พี่ปิงไว้ใจ-เข้าใจพัด ที่จะใจเย็นไม่ใจร้อน บางวันที่ไม่ไหว ปิดทุกอย่าง ปิดโซเชียล ไม่ไลน์คุยกับพี่ปิงเลย เขามั่นใจว่าพัดจะไม่ทำอะไรที่เป็นผลเสียให้ตัวเอง แค่เรานอนคุยกับเพดานเฉยๆ เป็นวันๆ เลยตอนนั้นคิด ทำโน้นนี่ ตอนนั้นเลือกไม่ได้ ภาวะตอนนั้นทุกอย่างในหัวมันไม่มีอะไรเคลียร์เลย แต่เราไม่รู้ว่าเราจะเลือกอะไร ยังไม่เข้าใจตัวเองว่าตกลงต้องการแน่ รู้ว่าเครียด แล้วเศร้าจัง

พัดชา : แล้วสิ่งที่กู้ขึ้นมาได้ หาข้อมูลนอนมากไป หรือ ไม่นอนเลย กินมากไป หรือ ไม่กินเลยซึ่งไม่กินเลย แล้วก็ไม่สามารถ คิดเป็นระบบได้เลย ไม่มีสมาธิ เราทำทางกายภาพก่อนเลย ข้างในมันเละมาก จิตใจแย่มาก เลยทำข้างนอกก่อน ถึงเวลากินกินถึงเวลาตื่นตื่น เวลานอนเพดานก็ไม่ต้องหลับพยายามนอนให้ได้ บางวันเรานอนได้ 2 ชั่วโมงลุงวันนี้นอนได้ 2 ชม. ดีใจมาก คือ ในชีวิตที่ผ่านมาเป็นคนนอนเก่งแบบ 11 ชั่วโมง นอนตื่นสายมากหลังจากนั้นค่อยๆ ดึงกิจวัตรจากภายนอกเข้ามาพยายามหาอะไรทำ ไม่เหลือสิ่งอื่นให้คิดเลยเช่น ถักตุ๊กตา ก็ไม่คิดล่ะฉันเศร้าเครียด ก็ทำให้สุขภาพจิตใจดีขึ้นด้วย

ถามถึงเรื่องความรักระหว่าง ‘ปิงปอง’ กับ ‘พัดชา’ ที่เริ่มต้นจากความไม่โรแมนติก?

ปิงปอง : อาจเพราะช่วงนั้นกังวลกับตัวเองด้วย ที่จะคิดเรื่องโมเมนต์โรแมนติกตอนนั้นเพิ่งสึกมา แล้ว.. ก็ชอบน้องเขาจริงๆ แต่น้องเขาต้องมีทางเลือกนะเพราะผมนะไม่ได้สมบูรณ์แบบสำหรับเขา อายุก็เยอะกว่าเขาเยอะ อีกอย่างก็กำลังเริ่มต้นใหม่กับหน้าที่การงานเงินที่เคยมีก็ไม่มีแล้ว มันสำคัญมากๆ เลยที่เขาจะต้องเริ่มต้นใหม่กับผมหมดเลย วัดใจมากเลยนะครับ ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่น คือ เด็กวัยรุ่นสร้างตัวจะอีกแบบเลยแต่นี่มาสร้างตัวพร้อมกันตอน 30 ปลายๆสำหรับผู้หญิงบางคนเขาอาจจะคิดว่ามันใช่เหรอต้องมั่นใจในตัวผมพอสมควรเลย พอคิดเรื่องนี้เลยอาจจะไม่มีเวลามาคิดโมเมนต์โรแมนติก เหมือนว่าถ้าจะทำอะไรที่โรแมนติก ตั้งแต่ตอนแรกเขาจะคิดว่าผมหวังผลจริงๆๆ รู้สึกแบบ เป้าหมายคือต้องจีบให้ติด เลยคิดตอนนั้น ว่าบอกเขาก็พอ

พัดชา : คิดว่าหนูจะปฏิเสธเหรอ

พัดชา : ตอนโทรมาจีบ เขาก็บอกเลย ว่าตอนนี้ ไม่มีอะไรแล้ว คือ เขาชอบเรา เขามั่นใจแน่ๆๆ แล้ว ตอนนั้น พัด ไม่ได้ปฏิเสธนะคะ แต่กลับดีใจเพราะไม่มีคนมาชอบแบบนี้นานมากๆแล้ว ตอนนั้นโสดมา 5 ปี ไม่มีแฟนเลย มีไปชอบเขาแล้วก็โดนปฏิเสธ มีหนีด้วยนะ แล้วก็มาเป็นพี่ปิงปองมาสารภาพก็ดีใจมาก”

เริ่มใจอ่อนอย่างไรบ้าง

พัดชา : ตอนนั้นมีความรู้สึกว่า ดีใจน่าสนใจมีความรู้สึกว่าน่าจะทำความรู้จักกันมากขึ้น ตอนนั้น30 ปีแล้วก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่า ต้องกระโดดเข้าหาโผเข้ากอดเพลงขึ้น ไม่มีล่ะ มันต้องอยู่ในความเป็นจริง โอเค ถ้าจะคบกันต้องมารู้จักกันจริงๆ แล้วนะต้องมาคุยกัน

ปิงปอง : เดทแรกคือ นั่งฟังดราม่าในชีวิตของเขาไปเรื่อยๆ ก็บอกย้ำเขาว่า ผมเพิ่งสึกมานะ ไม่ได้มีเงินแบบเมื่อก่อนนะ มีปัญหาชีวิตแบบนี้ๆผ่านมานะ เขาก็เปิดใจ ของเขา เคยเจออะไรแบบนี้มานะ เคยมีแฟน เคยอกหัก เคยหักอกไม่ชอบนั่นนี่มาชุดใหญ่เลย

พัดชา : ก็คุยกันทุกอย่าง ทุกเรื่องกันต่อหน้าเลย เปิดใจทุกอย่างคุยกันเลย

ถ้าต้องเจอกับคนเจ้าชู้อีก?

พัดชา : ไม่เคยคิดว่าผู้ชายคนไหนไม่เจ้าชู้ธรรมชาติผู้ชายต้องมีความเจ้าชู้อยู่ในตัวพอมาเจอพี่ปิงคือ เซอร์ไพรส์มาก เขาไม่สนใจอะไรดีเนอะ ชอบแซวเขาว่าหนูต้องสักชื่อเอาไว้แล้วนะว่าของหวงนะจอง เพราะว่าไม่ใช่เขาจะไปเจ้าชู้ที่ไหนนะคะ แต่รุ่นนี้ ไม่ผลิตแล้ว รุ่นที่ไม่เจ้าชู้เลย 100%

ปิงปอง : ไม่ขนาดนั้นครับ จริงๆ ก็เหมือนผู้ชายปกติทั่วไปพอเจอคนหน้าดีเดินผ่านก็มอง อยู่ดีๆกรุ๊ปโรงเรียนเก่าแชร์คลิปหวิวๆ มาก็ดูก็เป็นคนปกติละครับ

จริงๆ แล้ว ‘ปิงปอง’ เป็นคนเจ้าชู้หรือเปล่า?

ปิงปอง :“เคยมีบ้าง แต่แวบเดียวครับ แบบอยากลอง สมัยเปิดร้านเหล้าใหม่ๆ ก็เป็นปกติครับ เป็นเจ้าของผับ ออกอัลบั้มแรก ร้องเพลงเพราะเล่นกีตาร์ได้ ก็มีออปชั่นให้ดูโอเค ก็เคยลอง แต่ไม่ใช่แบบมีแฟนแล้วไปมีคนอื่นนะครับ ลองใช้โอกาสไปเรื่อย ปรากฏอยู่ 2 อย่างไม่สนุกเลย ค้นพบว่า อย่างแรกหน้าตาดีแต่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ไม่แฮปปี้กับความหน้าตาดีนั้นมันจะดับไปเร็วมากเลย แบบนั่งทานข้าวกัน1 ชั่วโมง อยากกลับบ้านแล้วไม่ใช่ความผิดเขานะ ไม่อินกับสิ่งที่เขาเป็นอยู่อีกแบบ ตอนผมทำผับเป็นคนทำอะไรตั้งใจเข้าร้านทุกวัน ทำงานทุกวัน อยู่ในที่แจ้งมากๆ แล้วยิ่งมาเป็นนักร้องมันแบบเหนื่อยจากเป็นเด็กฐานะปานกลางเกือบล่างอยู่ดีๆดันตัวเองขึ้นมานี้ จะมาพังเพราะเป็นคนเจ้าชู้เหรอ คือไม่คุ้มที่จะเสีย”

ถาม คบกันมา 5 ปีกว่า คิดถึงเรื่องการแต่งงานหรือยัง?

ปิงปอง: สำหรับผม คิดนะงานแต่งงานสำคัญกับผู้หญิง สำคัญสำหรับความรู้สึกเขาคือเป็นเรื่องทางสังคม ครอบครัว พ่อแม่ ต้องแคร์พอคบกันมาจุดหนึ่งค้นพบว่า ถ้าทั้งคู่ยังไม่แฮปปี้ในการแต่ง ก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งเพื่อให้ทะเลาะกันจะจัดสรรเงินยังไง เรื่องผู้ใหญ่เสื้อผ้า คือถ้าแต่งงานต้องทะเลาะรอก่อนได้ คือ ถ้าพร้อมคือพร้อม

พัดชา : พัดเข้าใจวงจรชีวิต ที่หมุนไป หน้าที่การงานก็เติบโต เจอคนที่ใช่ คือแต่งงานมีครอบครัว พัดไม่ได้อยากมีลูก วันหนึ่งต้องมีก็ได้ พูดตรงนี้เลยพี่ปิง เป็นพ่อที่ดีมาก ตอนนี้เลยไม่ได้เร่งแต่งงานก็จะแบบลดความสุขลง ลดความสำคัญแล้วการแต่งงานของพัดเป็นเรื่องทางสังคมถ้าจะแต่งงานอยากจะแต่งเมื่อพร้อม จริงๆ ที่จะแบบสร้างครอบครัวขึ้นมาและต่างคนต่างดูแลครอบครัวและลูกได้ดี