เส้นกราฟชีวิตของคนเราย่อมมีขึ้น และมีลงเสมอ เฉกเดียวกับชีวิตของนักร้องหนุ่มขวัญใจวัยรุ่นในยุคที่เพลงแร๊พกำลังเริ่มเข้ามาโด่งดัง “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” หรือชื่อจริง “ขวัญทัศน์ ณ ตะกั่วทุ่ง” เจ้าของงานเพลง “เท้าไฟ” ที่วัยรุ่นยุคนั้นแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะนอกจากผลงานเพลงและท่าเต้นที่ทำเอากลุ่มวัยรุ่นถึงกับกรี๊ดกระจายแล้ว ยังมีผลงานทั้งภาพยนตร์ และละครที่เจ้าตัวต้องรับบทบาทชีวิตรันทดคว้าหัวใจแฟนคลับกลุ่มแม่บ้านที่ชอบดูละครกันงอมแงม เรียกได้ว่ายุดนั้นถือเป็นยุคทองของหนุ่มคนนี้ก็ว่าได้ แต่วันหนึ่งเหตุการณ์ที่หลายคนคาดไม่ถึงเกิดขึ้นเมื่อนักร้องหนุ่มตกเป็นข่าวเกี่ยวพันกับคดียาเสพติด จนบรรดาแฟนคลับถึงกับช็อค เรโทรสตาร์ ครั้งนี้เปิดใจศิลปินหนุ่ม “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” จากวันวานสู่ปัจจุบัน กับเรื่องราวในชีวิตที่ผิดพลาดบทเรียนครั้งสำคัญ และวันนี้เขาเตรียมกลับมามีผลงานให้กับแฟน ๆ ให้หายคิดถึงอีกครั้ง
เริ่มต้นเข้าวงการ
“เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบดนตรี อยู่ชมรมดนตรี มีกิจกรรมที่โรงเรียนก็จะร้องเพลง ซึ่งเราเลยคิดว่าเราน่าจะร้องเพลงได้ดีเราเลยไปประกวดร้องเพลงที่สตาร์คอนเทสต์ ของช่อง 3 แต่เราตกรอบ แต่ก่อนหน้านั้นเราก็ร้องเพลงตามร้านอาหาร ตามผับไปด้วย แล้วเราได้มีโอกาสเข้าไปอยู่วง “แกรนด์เอ็กซ์” เขากำลังทำโปรเจคต์พิเศษ “ขวดโหล” โดยมีศิลปิน “เอ” อริชัย อรัญนาท ,จอนนี่ แอนโฟเน่ , “โอ๋” ไอศูรย์ วาทะยานนท์, “ไก่” สุธี แสงเสรีชน ซึ่งเป็นกลุ่มวงดนตรีวัยรุ่นที่โด่งดังมากในยุคนั้น เราได้เข้าไปทำหน้าที่ร้องประสานเสียง ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งจะมีเครดิตของผมหลังปกเทปขอบคุณ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ที่มาร้องประสานเสียง ให้ด้วย แล้วหลังจากนั้นเราได้รู้จักกับ พี่ตึ๋ง เรืองยศ ที่เป็นโปรดิวเซอร์ พี่เขาเลยชักชวนมาเทสต์เสียง ซึ่งผมร้องเพลงของแล้วพี่อิทธิ พลางกูร เพลง “ยังจำไว้” และ “เก็บตะวัน” แล้วมาทำอัลบั้มเดี่ยวทำให้ผมได้มีผลงานเพลงชุดแรก ในสังกัด อาร์.เอส.โปรโมชั่น”
งานเพลงชุดแรกในชีวิต
“งานเพลงชุดแรกอัลบั้ม “สัมผัสทัช” จะเป็นกึ่งป๊อปร๊อค ซึ่งตอนนั้นยังหาตัวตนของเราไม่เจอว่าจะออกมาเป็นแนวไหนดีจะร้องป๊อป ร๊อค หรือแบบเพราะ ๆ คืออัลบั้มชุดนี้จะมีแนวเพลงที่หลากหลาย เพลงที่หลาย ๆ คนจะพอรู้จักมีเพลง “กลัวเบื่อ” , “มือที่สาม” พอเพลงออกมาก็พอมีคนรู้จักบ้าง ตอนนั้นราวช่วงปี พ.ศ. 2533”
แจ้งเกิดในเพลงแนวแร๊พ
“หลังจากงานเพลงชุดแรกออกมาผมเลยไปคุยกับโปรดิวเซอร์ ซึ่งเขาถามผมว่าชอบเต้นไม่ใช่เหรอถ้างั้นลองเปลี่ยนแนวของตัวเองดูไหม ตอนนั้นวง mc hammer กำลังดัง ซึ่งเป็นแนวแร๊พ ซึ่งผมก็ชอบเพลงแนวนี้อยู่แล้ว เราเลยลองทำออกมาเป็นอัลบั้ม “ทัช ธันเดอร์” เป็นแนวเพลงป๊อปแด๊นซ์ ผสมกับท่วงทำนองแร็พนิด ๆ จะมีเพลงดัง ๆ อย่างเพลง “เท้าไฟ” ซึ่งพองานเพลงชุดนี้ออกมาปรากฎว่าประสบความสำเร็จมาก คนรู้จักมากขึ้นแต่ละเพลงที่ออกมาดังทุกเพลง เดินสายร้องเพลงขึ้นเหนือ ล่องใต้เดินทางตลอด มิวสิควีดีโอมี 10 เพลง เราทำหมดทั้ง 10 เพลงเลย เราโปรโมทกันยาว 7 เดือนได้ หลังจากนั้นผมก็มีก็มีผลงานเพลงต่อเนื่องในอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อชุด "มหัศจรรย์" วางแผงเมื่อวันที่ 16 เมษายน ในปี พ.ศ. 2536 มีเพลงที่ได้รับความนิยม เช่น กลัวผี, ลื่น, ไม่มีที่ไป และในปี พ.ศ. 2538 ก็ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 4 "ทัช V-4" ในวันที่ 1 เมษายน ปี พ.ศ. 2538 มีเพลงที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ห่วงฉันบ้างไหม, น้อย ๆ หน่อย, แค่ดิน, กิ๊กเลย ฯลฯ”
ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์
พองานเพลงชุดแรกประสบความสำเร็จหลังจากนั้นได้มีโอกาสมาแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของอาร์.เอส.ด้วย คือเรื่อง "รองต๊ะแล่บแปล๊บ" โดยแสดงประกบกับ วาสนา พูนผล, ภาณุเดช วัฒนสุชาติ, “ตั๊ก” บริบูรณ์ จันทร์เรือง เนื้อเรื่องจะเป็นหนังเพลงวัยรุ่นผสมแฟนตาซี ซึ่งเรื่องนี้ทัชได้ทั้งร้องและเต้นด้วย ซึ่งพอมาเล่นหนังจากปกติเราจะเคยเล่นแต่มิวสิควีดีโอ ก็ต้องมีการปรับตัวแต่ก็ไม่เยอะมากเท่าไร พอได้ถ่ายทำจริง ๆ ก็ออกมาดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอีก แล้วผมก็ยังมีงานเพลงประกอบภาพยนตร์ออกมาอีกด้วย
เข้าสู่วงการละครโทรทัศน์
“จริง ๆ ผมได้มีโอกาสเล่นละครก่อนภาพยนตร์ คือทางช่อง 7 ได้ชักชวนให้มาลองเล่นดู เรื่องแรกเป็น เรื่อง “เกิดแต่ตม” ในปี พ.ศ. 2536 ประกบคู่กับ “กบ” สุวนันท์ คงยิ่ง ต่อจากนั้นก็มาเล่นเรือง “กระถิ่นริมรั้ว” ประกบคู่กับ “ดา” ชฎาพร รัตนากร ในปี พ.ศ. 2538 ซึ่ บทบาทส่วนใหญ่ที่ได้รับมักจะเป็นดราม่าชีวิตรันทด ติดยา ครอบครัวล้มเหลว จะเป็นเหมือนการสอนชีวิตวัยรุ่นคืออีกมุมหนึ่งของชีวิตที่เดินทางผิดแล้วล้มเหลวสุดท้ายก็กลับตัวได้ หลังจากนั้นก็มาเล่นเรื่อง “ภูตพิศวาส” ประกบคู่กับ “นิ้ง” กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา และเรื่อง “ปะการังสีดำ” ประกบคู่กับ อัญชลี เฮสติ้ง”
ละครกับภาพยนตร์ยากต่างกันไหม ?
“ปรับตัวยากนิดนึงอย่างละครจะค่อนข้างยาว ช่วงนั้นละครมีเกือบ 90 ตอนแต่ละเรื่อง ถ่ายตั้งแต่เช้ายันเย็น อยู่กินในกองถ่ายเลย พอถ่ายเสร็จก็ต้องรีบส่งเทปที่ช่องถ่ายไปส่งเทปไป”
ระหว่างงานเพลงกับการแสดงชอบสิ่งไหนมากกว่ากัน
“ชอบทั้งสองอย่างร้องเพลงก็เป็นสิ่งที่เราชอบตั้งแต่เด็ก แล้วใฝ่ฝันที่จะร้องเพลงบนเวที ได้พบปะกับคนดู ได้เห็นรอยยิ้มของแฟนเพลง ทำให้เรามีความสุขเห็นคนร้องเพลงตามเรา เราเต้นก็มีคนเต้นตามมีคนปรบมือมันมีความสุข แต่ว่าละครหรือภาพยนตร์ก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่เราชอบซึ่งเป็นอีกบุคลิกหนึ่งที่เราต้องสวมบทบาทในละครตัวนั้นแล้วต้องทำให้เหมือนที่สุดกับบทละครตัวนั้น”
บทเรียนชีวิตที่ผิดพลาดกับจุดพลิกผันครั้งใหญ่ ในช่วงปี พ.ศ. 2540 ขณะที่ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง กำลังเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและโด่งดังโดยเฉพาะในหมู่เด็กวัยรุ่นแต่อยู่ ๆ เมื่อเจ้าตัวต้องตกเป็นข่าวดังหลังถูกตำรวจบุกจับขณะเสพสิ่งเสพติดอยู่ใน คอนโดมิเนียม ก่อนถูกส่งตัวดำเนินคดีและถูกแบนงานเป็นเวลานานถึง 2 ปี ทัช ได้กล่าวเปิดใจว่า
“ถือว่าผมเสียโอกาสไปเยอะ เรื่องของงานด้วย เพราะตอนนั้นผมกำลังมีผลงานเพลงอัลบั้มชุดที่ 5 "ทัช ไซโคลน" ซึ่งออกในปี พ.ศ. 2541 แต่ถูกแบนห้ามเปิดเพลงออกอากาศ แต่ก็ยังมีโฆษณาบ้าง นอกจากนี้เรายังเสียโอกาสเรื่องของเพื่อนด้วย กับความผิดพลาดของตัวเอง ตอนนั้นที่ผมตกเป็นข่าวรู้สึกเครียดมาก ค่อนข้างสับสน ไม่รู้จะหาทางออกยังไง คิดไปต่างๆ นานา ว่าแฟนเพลงเราจะรู้สึกยังไง แฟนละครจะยังติดตามผมงานเราอีกไหม สังคมจะมองว่าเราเป็นไอ้ขี้ยาหรือเปล่า ความคิดมันมีสารพัด ซึ่งเราเองก็ได้ครอบครัวเท่านั้นที่ให้กำลังใจ เราก้าวพลาดไปก็ไม่เป็นไร เขาก็ให้กำลังใจกันต่อไป ผมโชคดีที่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อมีแม่มีน้องญาติ ๆ คอยให้กำลังใจ ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตที่เกิดขึ้น แล้วอย่าทำอีก ทำให้ผมปรับเปลี่ยนการคิด การใช้ชีวิตที่ต้องมีสติมากขึ้น วิธีการดำเนินชีวิตที่ต้องปรับตัวเองใหม่ เข้าใจคนรอบข้าง เข้าใจครอบครัว เข่าใจเพื่อน เราได้เรียนรู้อะไรอีกหลาย ๆอย่าง ด้วยความที่เราโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทางผู้ใหญ่ทางค่ายตอนนั้นก็ได้ตักเตือนครับว่าสิ่งตรงนี้ไม่มีใครสามารถช่วย เหลือได้ มันเป็นไปตามกฎธรรมชาติ ในเมื่อเราทำผิดเราก็ต้องยอมรับตรงนั้น ซึ่งพอเกิดเรื่องขึ้นตอนนั้นผมก็ได้ไปบวชเรียนประมาณเดือนหนึ่งที่วัดปลักไม้ลาย จ.นครปฐม เราก็ปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนา ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอน ทำบุญ นั่งสมาธิบ้าง อยู่กับจิตใจของตัวเอง พอบวชเสร็จผมก็ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงจนจบ”
หวนคืนวงการกับงานเพลงลูกทุ่ง
ผมได้มีโอกาสได้กลับไปคุยกับพี่ ๆ ที่บริษัท อาร์เอสฯ เพื่อจะออกผลงานเพลงอีกครั้งพี่เขาเลยลองเปลี่ยนแนวเพลงเพราะ ๆ เป็นเพลงเก่า ๆ ที่นำมาทำใหม่ อัลบั้ม “ทัช มายไลพ์” เป็นเพลงรัก เพลงฟังเพราะๆ ฟังง่ายๆ ไม่มีเต้น กระแสตอนนั้นก็พอใช้ได้ ไม่ได้เยอะมากมาย หลังจากนั้นถึงมาทำเพลงลูกทุ่งเพราะเราบอกพี่ ๆ เขาว่าจริง ๆ เราฟังเพลงได้หลายแนวนะ ไม่ใช่แค่สตริง ซึ่งก็ไม่ต้องปรับอะไรมากเราก็ยังคงร้องในแนวของเรา แต่อาจจะหันมาฟังเพลงลูกทุ่งมากขึ้น แฟนเพลงของเราก็มีเพิ่มขึ้นแฟนเพลงบางคนหิ้วปิ่นโต ขนมมาให้บนเวที คือเราได้ลงไปคลุกคลีกับแฟนเพลงที่เป็นชาวบ้านมากขึ้น แต่ก็มีหลายคนถามว่าเมื่อไรจะร้องสตริง ซึ่งเราก็บอกไปว่าอาจจะสลับไป ๆ มา ๆ”
หายจากวงการไปเลย
ไม่ได้หายไปไหนครับยังอยู่ในวงการเหมือนเดิม แต่อาจไมได้ออกสื่อ ยังคงมีร้องเพลงอยู่แต่เราไมได้ออกผลงานชุดใหม่ ๆ เท่านั้นเอง ที่ผ่านมาก็มีไปช่วยงานการกุศล ช่วยน้ำท่วม ไปแจกของ ช่วยเหลือสังคมต่าง ๆ มีไปเป็นนักแสดงรับเชิญในละครบ้าง
มองวงการบันเทิงตอนนี้
“น้อง ๆ ในวงการเดี๋ยวนี้มีการพัฒนามากขึ้น เพราะเมื่อก่อนกว่าจะมีผลงานออกมาได้ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคเยอะ สมัยนี้เข้ามาอาจจะง่ายแต่การอยู่ให้ได้นาน ๆ มันยากก็ อยากฝากถึงน้อง ๆ ที่เข้ามาในวงการที่ผ่านมามีแบบอย่างให้เห็นทั้งดีและไม่ดี อยากให้นำแต่สิ่งดี ๆ มาเป็นแบบอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อมีโอกาสเดินเข้ามาสู่บนถนนสายบันเทิงนี้ก็อยากให้ทำหน้าที่นี้ของตัวเองให้ดีที่สุดอย่างหลงระเริงกับชื่อเสียง แสงสีที่เราได้รับ”
ฝากถึงแฟน ๆ
“ขอขอบคุณน้อง ๆ ที่ติดตามตั้งแต่เด็ก ๆ ถึงบางคนที่อาจแต่งงานมีครบอครัวกันไปหมดแล้ว ถึงตอนนี้ก็ต้องขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่คอยดูแลกันมาตลอด สำหรับเร็ว ๆ นี้ก็จะมี “คอนเสิร์ต อาร์เอส มีทติ้ง คอนเสิร์ต รีเทิร์น 2013” ที่ รวมศิลปินขวัญใจแฟนเพลงไว้ถึง 14 ศิลปิน แร็พเตอร์, ลิฟท์ ออย, บอยสเก๊าท์, เต๋า สมชาย, เจมส์ เรืองศักดิ์, บาซู, อนัน อันวา รวมทั้งผมเองที่เตรียมมามอบความสุขให้กับแฟนเพลงได้หายคิดถึง ซึ่งตอนนี้ก็อยี่ในช่วงเตรียมฟิตซ้อมทำการบ้าน ซ้อมร่างกาย ทำตามตารางที่เราจะต้องทำ เพื่อให้ออกมาดีที่สุด ต้องเรียกพลังกลับมาอีกครั้ง อยากให้แฟน ๆ ได้มาดูกันครับ ในวันเสาร์ที่ 18 และวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2556 ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี สำหรับเซอร์ไพร์ก็คงเป็นความสนุกสนาน อะไรใหม่ ๆ ที่ผมเตรียมมอบให้กับทุกคนบนเวทีครับ”
ติดต่อ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง http://www.facebook.com/pages/ทัช-ณ-ตะกั่วทุ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี